ประวัติ will smith วิลล์ สมิธ
will smith วิลลาร์ด แคร์โรลล์ สมิธที่ 2 (อังกฤษ: Willard Carroll Smith II; เกิด 25 กันยายน ค.ศ. 1968) เป็นนักแสดง, แร็ปเปอร์ และผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์ชาวอเมริกัน ผู้ได้รับรางวัลมากมาย รวมทั้งรางวัลออสการ์ 1 รางวัล, รางวัลลูกโลกทองคำ 1 รางวัล, รางวัลสมาคมนักแสดงภาพยนตร์และโทรทัศน์ 1 รางวัล, รางวัลแบฟตา, และรางวัลแกรมมี 4 รางวัล ใน ค.ศ. 2024 ภาพยนตร์ทั้งหมดของเขาทำรายได้ทั่วโลกกว่า 9.3 พันล้านดอลลาห์สหรัฐ ทำให้เขาเป็นหนึ่งในนักแสดงที่มีรายได้สูงที่สุดของฮอลลีวูด
อ่านรีวิวก่อน ดูหนังผลงานภาพยนตร์
ทางด้านผลงานสมิธออกผลงานแรกในนามสมิธ ตั้งแต่สมัยที่เขาเรียนปีสุดท้ายอยู่ในไฮสกูล และได้ออกผลงานเดี่ยวซึ่งเคยได้รับสองรางวัลแกรมมี่ และสามรางวัลอเมริกัน มิวสิก อวอร์ด อัลบั้มเดี่ยวชุดแรกของสมิธ “Big Willie Style” ทำยอดขายมากถึง 8 ล้านชุดอัลบั้มชุด “Willennium” ของเขา และซิงเกอร์ “Will2K” ได้สองแพล็ตตินั่ม และทำยอดขายไปชุดละ 2 ล้านชุด
สมิธแสดงนำในภาพยนตร์ 2 เรื่องที่ติดอยู่ใน 50 อันดับภาพยนตร์ทำรายได้จากทั่วโลกสูงสุดตลอดกาล ได้แก่ ภาพยนตร์ฮิตประจำซัมเมอร์ปี 1997 เรื่อง Men in Black™ (ซึ่งเขาเป็นผู้บันทึกเสียงเพลงไตเติ้ลที่คว้ารางวัลแกรมมี่) และภาพยนตร์ปี 1996 เรื่อง Independence Day สมิธยังแสดงนำในภาพยนตร์ของโคลัมเบีย พิคเจอร์ส เรื่อง Bad Boys ซึ่งถือเป็นหนึ่งในภาพยนตร์ทำเงินสูงสุดของปี 1995 ผลงานภาพยนตร์เรื่องอื่น ๆ ของเขายังรวมถึงบทบาทการแสดงที่ได้รับเสียงวิจารณ์ชื่นชมในภาพยนตร์ที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ เรื่อง Six Degrees of Separation, Made in America และ Where the Day Takes You
Hancock (2008) /แฮนค็อค ฮีโร่ขวางนรก
แฮนค็อค, ซุปเปอร์ฮีโร่ที่ดื่มเหล้าและมีพฤติกรรมไม่รับผิดชอบที่อาศัยอยู่ในลอสแอนเจลิสถูกเกลียดชังโดยประชาชนเนื่องจากความทำลายที่เขาส่งผลให้กับเมืองด้วยการกล้าหาญที่ไม่ตามปกติของเขา ขณะที่เขาช่วยชีวิตของเรย์ เอมเบรย์ ผู้บริหารสื่อสารสาธารณะ เขาช่วย แฮนค็อค กู้ตัวเองและกลายเป็นซุปเปอร์ฮีโร่ที่เคารพ ในระหว่างนี้ เหตุการณ์ทำให้เขามีความสัมพันธ์กับแมรี ภรรยาสวยงามของเอมเบรย์ ซึ่งก็พลังวิเศษเหมือนเขา
I, Robot (2004) ไอ โรบอท พิฆาตแผนจักรกลเขมือบโลก
ไอ โรบอท แผนพิฆาตจักรกลเขมือบโลก (อังกฤษ: I, Robot) เป็นภาพยนตร์แนวไซไฟแอ็คชั่นผจญภัย ที่สร้างจากเรื่อง Hardwired บทภาพยนตร์ที่เขียนโดย เจฟ วินทาร์ โดยใช้โครงเรื่องมาจากเรื่องสั้นชุด I, Robot ของไอแซค อสิมอฟ แต่นำมาเฉพาะชื่อเรื่อง ชื่อตัวละครสำคัญ และแนวคิดเรื่อง กฎ 3 ข้อของหุ่นยนต์ เนื้อหาหลักๆ ในเรื่อง เขียนขึ้นใหม่ทั้งหมด ไม่ได้เกี่ยวข้องกับนิยายต้นฉบับเลย
Men in Black (1997 )
Men in Black ฉายรอบปฐมทัศน์ที่ Pacific’s Cinerama Dome ในฮอลลีวูดเมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 1997 และเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ในสหรัฐอเมริกาเมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับคำชมจากนักวิจารณ์ทั้งในด้านบทภาพยนตร์ อารมณ์ขัน ฉากแอ็กชั่น การแสดง และเคมีระหว่างโจนส์และสมิธ ภาพยนตร์เรื่องนี้ประสบความสำเร็จในบ็อกซ์ออฟฟิศ โดยทำรายได้มากกว่า 589.4 ล้านเหรียญสหรัฐทั่วโลก และกลายเป็นภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงสุดเป็นอันดับสามของปี 1997 รวมถึงเป็นภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงสุดเป็นอันดับเก้าของทศวรรษ ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับรางวัลในสาขาแต่งหน้ายอดเยี่ยม และยังได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลสาขากำกับศิลป์ยอดเยี่ยมและดนตรีประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยมในงานประกาศรางวัลออสการ์ครั้งที่ 70 รวมถึงรางวัลอื่นๆ อีกมากมาย ภาคต่อออกฉายในปี 2002 ภาคที่สามออกฉายในปี 2012 และภาคแยกออกฉายในปี 2019 โดยไม่มีโจนส์และสมิธเข้าฉาย
I Am Legend (2007) : ข้าคือตำนานพิฆาตมหากาฬ
I Am Legend เข้าฉายเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2007 ในสหรัฐอเมริกาและแคนาดา เปิดตัวด้วยรายได้บ็อกซ์ออฟฟิศสูงสุดตลอดกาล (ไม่ปรับตามอัตราเงินเฟ้อ) สำหรับภาพยนตร์ที่ไม่ใช่ช่วงคริสต์มาสที่ออกฉายในสหรัฐอเมริกาในเดือนธันวาคม และเป็นภาพยนตร์ทำเงินสูงสุดเป็นอันดับเจ็ดในปี 2007 โดยทำรายได้ 256 ล้านเหรียญในประเทศและ 329 ล้านเหรียญในต่างประเทศ รวมเป็น 585 ล้านเหรียญ ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับคำวิจารณ์ในเชิงบวกโดยทั่วไป โดยผลงานของสมิธได้รับคำชมเป็นพิเศษ ในขณะที่คำวิจารณ์มุ่งเน้นไปที่ความแตกต่างจากนวนิยาย โดยเฉพาะตอนจบ ในปี 2022 มีการเปิดเผยว่าภาคต่อกำลังอยู่ในระหว่างการพัฒนา โดยสมิธจะกลับมารับบทเนวิลล์อีกครั้ง และร่วมอำนวยการสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้กับไมเคิล บี. จอร์แดน ซึ่งจะมีบทบาทนำด้วย
The Pursuit of Happyness ยิ้มไว้ก่อนพ่อสอนไว้
ยิ้มไว้ก่อนพ่อสอนไว้ ในชื่อภาษาอังกฤษว่า The Pursuit of Happyness เป็นภาพยนตร์ที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์สาขาเพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ออกฉายเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม ค.ศ. 2006 นำแสดงโดย วิลล์ สมิธ เป็นภาพยนตร์ ที่เกี่ยวกับชีวประวัติของคริส การ์ดเนอร์ มหาเศรษฐีชาวอเมริกันผิวสี ในช่วงที่เขากำลังอยู่ในช่วงลำบากของชีวิต ช่วงที่เขาเป็นพ่อหม้ายที่มีภาระต้องเลี้ยงดูลูกชาย คริสโตเฟอร์ จูเนียร์ อีกคนทั้งๆที่เป็นคนพเนจรไม่มีบ้าน แต่ก็สามารถสร้างตัวเองขึ้นมาได้จากการเป็นนายหน้าค้าหุ้น จนกลายเป็นเจ้าของธุรกิจพันล้านในปัจจุบัน
Bad Boys: Ride or Die (2024)
Bad Boys: Ride or Die (2024) ฉายรอบปฐมทัศน์ที่ Coca-Cola Arena ในดูไบเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2024 และออกฉายในสหรัฐอเมริกาเมื่อวันที่ 7 มิถุนายน ภาพยนตร์เรื่องนี้ทำรายได้ทั่วโลก 404 ล้านเหรียญสหรัฐ จากงบประมาณการผลิต 100 ล้านเหรียญสหรัฐ และได้รับคำวิจารณ์ทั้งดีและไม่ดีจากทั้งนักวิจารณ์และผู้ชม