ดูหนัง Unstoppable (2024) สู้สุดใจไม่หยุดฝัน
แม้ว่าแอนโทนี่ โรเบลสจะเกิดมาโดยไม่มีขาขวาและเติบโตมาในครอบครัวที่เต็มไปด้วยการทารุณ เขาก็สามารถคว้าแชมป์มวยปล้ำระดับอุดมศึกษาดิวิชั่น 1 ได้สำเร็จ และสุดท้ายก็คว้าแชมป์ระดับประเทศมาครอง เอาชนะทีมระดับหัวแถวอย่างมหาวิทยาลัยไอโอวาที่เคยปฏิเสธเขา แอนโธนี่ โรเบลส์ เกิดมาโดยไม่มีขาขวา เขาเติบโตขึ้นในเมืองเมซา รัฐแอริโซนาภายใต้การเลี้ยงดูของจูดี้ โรเบลส์ ผู้เป็นแม่ แม้จะมีอคติทางสังคมและปัญหาทางร่างกาย แต่แอนโธนี่ก็พัฒนาจิตวิญญาณที่เข้มแข็งขึ้น ในช่วงมัธยมศึกษาตอนปลาย เขาค้นพบความหลงใหลในมวยปล้ำและเข้าร่วมทีมของโรงเรียน แม้ว่าในตอนแรกจะถูกสงสัยโดยโค้ชและเพื่อนร่วมทีม แต่เขาก็กลายเป็นนักแข่งขันที่น่าเกรงขามด้วยความมุ่งมั่นและการฝึกฝนที่ไม่ลดละ หลังจากเรียนจบมัธยมปลาย แอนโธนี่วางแผนที่จะเล่นมวยปล้ำในระดับมหาวิทยาลัย เขาได้รับข้อเสนอทุนการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเดร็กเซลแต่เลือกที่จะเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยแห่งรัฐแอริโซนา (ASU) เพื่ออยู่ใกล้ครอบครัวมากขึ้น เขาเข้าร่วมทีมมวยปล้ำในฐานะนักกีฬาสำรอง และได้รับเลือกแม้ว่าในตอนแรกโค้ชของเขาจะไม่เชื่อก็ตาม
อ่านรีวิวก่อน ดูหนัง
นักแสดง
Jharrel Jerome จาร์เรล เจอโรม

Bobby Cannavale

Michael Peña

ผู้กำกับ : William Goldenberg
รีวิว
entertainment
อีกหนึ่งตำนานนักกีฬาที่มีเรื่องราวที่เหมาะเจาะกับการมาจับร้อยเรียงขึ้นจอใหญ่ได้อย่างเกรียงไกรไม่ยากเย็นนัก ก็คงจะเป็น “แอนโทนี โรเบลส” นักกีฬามวยปล้ำระดับตำนานของอเมริกา ชีวิตของเขาได้กลายมาเป็นหนังชีวิตกับเส้นทางในแวดวงกีฬาใน สู้สุดใจไม่หยุดฝัน” ที่อาจจะดูเป็นหนังกีฬาทั่ว ๆ ไป แต่เรื่องนี้ค่อนข้างโดดเด่นมาก ๆ ในด้านการแคสติ้งนักแสดงระดับชั้นแนวหน้าแบบแน่นเอียด
นี่คือเรื่องราวและเส้นทางชีวิตของ แอนโทนี โรเบลส เด็กหนุ่มที่เกิดมาพร้อมกับขาเพียงข้างเดียว แต่เขามุ่งฝันและฝึกซ้อมอย่างหนัก ก่อนจะคว้าแชมป์กีฬามวยปล้ำระดับชาติ เพื่อหวังจะได้โอกาสได้ทุนไปสู่รั้วมหาวิทยาลัยที่เขามุ่งหวังกับการสานต่ออนาคตในฐานะนักกีฬาอาชีพ และนี่คือเส้นทางชีวิตของเขาที่ได้เลือก ก่อนจะกลายมาเป็นเมนเทอร์นักกีฬามวยปล้ำอาชีพผู้ทรงคุณวุฒิและเป็นต้นแบบแรงบันดาลใจของคนรุ่นหลักในปัจจุบัน
ผลงานกำกับหนังใหญ่เรื่องแรกของ “วิลเลียม โกลเดนเบิร์ก” มือตัดต่อหนังระดับอาชีพที่เคยตัดหนังดัง ๆ อย่าง Zero Dark Thirty หรือ Argo ก้าวขึ้นมาอยู่หลังเลนส์กล้องสร้างหนังเป็นครั้งแรกของเขา จากบทหนังที่ผนึกกำลัง 3 นักเขียน “อีริค แชมป์เนลลา”, “อเล็กซ์ แฮร์ริส” และ “จอห์น ฮินด์แมน” ที่พวกเขาอาจจะไม่ได้มีเครดิตในงานเขียนบทที่น่าจดจำอะไรมากนัก แต่ก็ร้อยเรียงออกมาเป็นหนังชีวประวัติกีฬาที่เข้มข้นที่ดี
เอาจริง ๆ ก็เป็นหนังดรามากีฬาที่เหมือนเดิมหมากตามสูตรเดิม ๆ ของหนังประเภทนี้ ที่แทบจะไม่ออกนอกลู่นอกทางจากสูตรที่คุ้นเคยเลย กลายเป็นหนังความยาว 2 ชั่วโมงที่ทำได้แค่เพียงดูได้เรื่อย ๆ ชวนกระตุ้นกระตุกความดรามาในชีวิตที่ฝ่าฝันของนักกีฬาคนหนึ่ง เป็นหนังที่ชวนสร้างแรงบันดาลใจกับคนดูได้ในระดับที่น่าพอใจ แต่น่าเสียดายที่ในแง่ความเป็นหนังอาจจะยังไม่ได้สุดทางถึงขนาดนั้น
ขณะที่เทคนิคงานสร้างในแง่มุมต่าง ๆ ก็ไม่ได้มีอะไรแปลกใหม่ ก็คือการร้อยเรียงในจังหวะที่หนังกีฬาสักเรื่องพึงมี ร่องรอยการตัดต่อก็ไม่ได้ช่วยบิวท์อารมณ์ของคนดูได้สักเท่าไหร่ เมื่อมาผนวกเข้ากับบทหนังธรรมดา ๆ ที่ไม่ได้ตื้นลึกหนาบางได้สักเท่าไหร่ ก็ทำให้ กลายเป็นหนังที่หาความพิเศษไม่ค่อยได้เท่าไหร่ จัดได้ว่าก็ดีตามมาตรฐานที่ควรจะเป็นไปนั่นเอง
ไฮไลต์ที่แบกหนักสุด ๆ ของหนังเรื่องนี้ก็คงจะเป็นทีมนักแสดง เพราะถือว่าเป็นหนังที่แคสต์ทีมดารามาได้อย่างน่าเหลือเชื่อ ที่จะสามารถรวมพลคนดัง ๆ เอาไว้ได้แน่นขนาดนี้ “จาร์เรล เจอโรม” อดีตดาราเด็กที่เราเคยเห็นเขาเปล่งปลั่งมาจากหนังออสการ์เมื่อหลายปีก่อน อย่าง Moonlight วันนี้เติบใหญ่และแบกรับบทที่หนักหน่วงไปอีกครั้ง ถึงแม้ว่าพลังของเขาอาจจะยังไม่สามารถแบกหนังทั้งเรื่องเอาไว้เพียงลำพังได้