ดูหนัง The Teacher s Diary (2014) คิดถึงวิทยา
“สอง”อดีตนักมวยปล้ำตกอับที่ผันตัวเองมาเป็นครูเพียงคนเดียวที่มาสอนที่โรงเรียนซึ่งตั้งอยู่กลางเขื่อน ที่ไม่มีทั้งไฟฟ้าและน้ำประปา แถมยังไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ให้ติดต่อโลกภายนอกได้ สิ่งเดียวที่ช่วยให้สองคลายเหงาก็คือ ไดอารี่เล่มหนึ่งที่ถูกลืมทิ้งไว้ของ”แอน”ครูคนก่อนที่เพิ่งย้ายออกไป ซึ่งเขียนบรรยายเรื่องราวของเธอเอาไว้อย่างน่าสนใจ สองอ่านเรื่องราวของแอนจนรู้สึกเหมือนเธอเป็นเพื่อนเพียงคนเดียวที่เข้าใจเขา เป็นความผูกพันผ่านตัวหนังสือที่ยิ่งได้อ่านก็ยิ่งคิดถึง…คิดถึงใครบางคนที่ไม่เคยแม้แต่จะเห็นหน้ากันมาก่อน เป็นภาพยนตร์ไทยแนวดราม่าโรแมนติก ที่ออกฉายในปี พ.ศ. 2557 กำกับโดย นิธิวัฒน์ ธราธร นำแสดงโดย สุกฤษฎิ์ วิเศษแก้ว และ เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์ ภาพยนตร์นี้ทำรายได้ 100.17 ล้านบาท ยังเป็นตัวแทนภาพยนตร์ไทยเข้าชิงรางวัลออสการ์อีกด้วย คิดถึงวิทยา เต็มเรื่อง
อ่านรีวิวก่อน ดูหนัง
เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์
ศุกลวัฒน์ คณารศ
ผู้กำกับ : นิธิวัฒน์ ธราธร
รีวิว The Teacher s Diary (2014) คิดถึงวิทยา
entertainment
ในชีวิตของผม ในแต่ละวันดูหนังอย่างน้อย ๆ ก็หนึ่งเรื่องหรือสองเรื่อง และในแต่ละเดือนดูหนังเยอะมาก เรียกว่าดูมันทุกแนว ทุกประเภทเลยทีเดียว ไม่ว่าจะหนังไทย จีน ฝรั่ง หรือการ์ตูน แต่ผมจะไม่ดูหนังอยู่ประเภทเดียวคือ หนังรัก นอกนั้นชอบดูหมด ยิ่งเป็นหนังผี นี่ยิ่งชอบดูคนเดียว ชอบดูตอนกลางคืนด้วยนะ เพราะฝึกจิตใจเราให้เข้มแข็งได้ป็นอย่างดี หนังแต่ละเรื่องแต่ละประเภทให้แง่ดีให้ข้อดีแก่เรานะ
อยู่ที่เราจะมองว่าเราได้ประโยชน์อะไรจากหนังนอกจากความบันเทิงที่ได้ ไม่ใช่ว่าพอดูหนังจอก็จบกันไป มันไม่ใช่ เหมือนกับหนังไทยค่ายนี้เลย GTH หรือปัจุบันเปลี่ยนชื่อค่ายหนังมาเป็น GDH จำได้ว่าชอบดูหนังไทยของค่ายหนังค่ายนี้มาก ๆ นอกจากให้ความบันเทิงแล้วยังให้แง่คิด ในการใช้ชีวิตต่าง ๆ ให้ตัวละครมาสอนคนดู และเรื่องที่จะมาแนะนำและรีวิวในวันนี้ เป็นหนังไทยจากค่าย GDH เรื่อง พระเอกชื่อ บี้ สุกฤษ กับนางเอกชื่อ พลอย เฌอมาลย์ เรื่องนี้เก่าแล้วหนังตั้งแต่ 2016 4-5 ปีแล้วแต่ผมก็ยังพอจำเนื้อเรื่องของหนังได้
เรื่องย่อของหนังเรื่อง จะเล่าถึง โรงเรียนบนแพ ที่อยู่บนเขื่อน แห่งหนึ่งที่จะมีครูเข้ามาสอนและเปลี่ยนครูบ่อยมาก โรงเรียนบนแพแห่งนี้จะสอนนักเรียนอยู่ 4 คน และแต่ละคนจะเรียนคนละชั้น และครูที่มาสอนต้องสอนทุกวิชาทุกชั้นเรียน หนังเล่าถึงครูคนเก่าและครูคนปัจจุบัน โดยครูคนปัจจุบันชื่อ สอง ได้เดินทางมาที่โรงเรียนแพกลางเขื่อนแห่งนี้ และใช้ชีวิตอยู่กับนักเรียนทั้ง 4 คน ผจญกับฝนผจญกับภาวะอากาศต่าง ๆ
ร่วมกับนักเรียน จนอยู่ไป ๆ ครูสองได้ไปเจอไดอารี่ของครูแอน ซึ่งเป็นครูคนก่อนได้เขียนเอาไว้ เล่าถึงชีวิตของตัวเอง ที่ใช้ชีวิตบนโรงเรียนแพแห่งนี้ในแต่ละวัน และเล่าถึงครูคนก่อน ๆ ที่ถูกแฟนทิ้ง จนต้องหนีมาสอนที่โรงเรียนบนแพแห่งนี้ ไดอารี่ยังบรรยายถึงความเหงาและความรู้สึกของครูแอน และครูสอนก็ได้เขียนบรรยายความรู้สึกความเหงาของตนลงไปในไดอารี่ เขียนต่อจากของครูแอนเช่นกัน และนั่งแต่คิดถึงครูแอน จนครุสองได้ออกจากโรงเรียนแพกลางน้ำนี้ไป และครูแอนได้กลับเข้ามาสอนใหม่อีกครั้ง และอ่านไดอารี่นี้อีกครั้ง และพบว่ามีคนเขียนไดอารี่ต่อจากตน จึงอยากรู้ว่าครูสองนั้นเป็นใคร
beartai
โดยมีเรื่องราวที่เกิดขึ้นจากครูแอน (รับบทโดย พลอย เชอมาลย์) ได้เข้าไปสอนที่โรงเรียนเรือนแพ ที่อยู่ห่างไกลความเจริญและด้วยความเหงาบวกกับความห่างไกลเทคโนโลยีรวมถึงสัญญาณโทรศัพท์ ทำให้เธอต้องระบายความรู้สึกผ่านไดอารี่เล่มหนึ่ง จนเวลาผ่านไป ครูสอง (รับบทโดย บี้ สุกฤษฏ์) เข้ามาสอนต่อและได้พบกับสมุดบันทึกที่ครูแอนได้เขียนและลืมทิ้งไว้ เมื่อเปิดอ่านทำให้ครูสองเกิดความรู้สึกดีดีกับครูแอนแม้ไม่เคยเห็นหน้ากันมาก่อน ซึ่งการที่ครูสองได้อ่านบันทึกของครูแอนนั้นจึงเป็นจุดเริ่มต้นของความรู้สึกและเหมือนได้รู้จักเพื่อนใหม่ที่มีความเข้าใจความรู้สึกที่ตรงกัน แม้ว่าทั้งสองจะไม่เคยเจอหน้ากันมาก่อนแต่การที่ครูสองได้อ่านบันทึกของครูแอน ทำให้ครูสองอยากจะพบหน้าของครูแอนซักครั้ง
และด้วยเนื้อเรื่องที่ไม่ซับซ้อน รวมถึงนักแสดงที่ได้รับบทที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทำให้เรื่องราวของหนังถูกถ่ายทอดออกมาอย่างลื่นไหลและเป็นไปอย่างธรรมชาติ การจัดวางมุมของภาพ การจัดแสง และบทพูดของนักแสดงที่ทำให้รู้สึกถึงความเป็นชนบทและความรู้สึกเหงาอย่างแท้จริง ใจความของเรื่องราวที่บอกผ่านภาพที่บอกถึงความรู้สึกละเมียดละไม ทำให้การดำเนินเรื่องเป็นไปได้อย่างสมบูรณ์ได้อย่างไม่เสียชื่อค่ายหนังคุณภาพอย่าง GTH
sanook
แน่นอนว่าผลงานสร้างชื่อของผู้กำกับอย่าง นิธิวัฒน์ ธราธร คงจะหนีไม่พ้น Season Change เพราะอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย ซึ่งแจ้งเกิดให้กับสองดารานำที่ปัจจุบันยังจะพอมีผลงานการแสดงอยู่บ้างอย่าง บอล วิทวัส สิงห์ลำพอง และ ต่าย ชุติมา ทีปะนาถ ซึ่งทั้งสองคนนี้ก็โผล่มารับบทบาทเป็นแขกรับเชิญในคิดถึงวิทยาด้วยเช่นกัน เพราะบทภาพยนตร์และการแสดงของทั้งสองคนนั้นอาจจะกล่าวได้ว่า “ส่งเสริม” ให้เรื่องราวของเด็กในรั้วโรงเรียนมหิดลดุริยางค์ศิลป์นั้นทวีความสดใหม่และน่าติดตามประกอบกับแสดงที่สดใหม่ยิ่งเกื้อกูลให้หนังสมบูรณ์แบบมากในยุคสมัยนั้น
ทว่าเมื่อกลับมามองในผลงานชิ้นล่าสุดของ “คิดถึงวิทยา” เราจะพบว่า ถึงแม้ตัวหนังจะพูดถึงแก่นเรื่องของความเป็น “ครู” ในต่างจังหวัด แต่ถ้าเราลองพินิจพิเคราะห์แต่ละเหตุการณ์ให้ดีแล้ว เราจะพบว่า “จังหวัดลำพูนและโรงเรียนบ้านแก่งวิทยา สาขาเรือนแพ” นั้นมีความแฟนตาซีอยู่สูงมาก อาทิโรงเรียนแห่งนี้มีเด็กนักเรียนเพียงแค่ 4 คน แถมแต่ละคนก็มีจริตของความเป็นเด็ก “เมือง” มากกว่าชนบท ตัวละครของ น้องทูน่า เด็กหญิงเพียงคนเดียวที่มีความใฝ่ฝันอยากจะเป็นนางเอกละครโทรทัศน์ คำถามคือครอบครัวของเธอไปดูทีวีจากที่ไหนกันในเมื่อหนังให้เหตุผลว่าไฟเป็นสิ่งที่ค่อนข้าง “เข้าถึงยาก” ในชุมชนเรือนแพ แต่การแสดงของน้องให้ความรู้สึกประหนึ่งว่าน้องซึมซับแอคติ้งเช่นนั้นมาจากสถาบันสอนการแสดงในเมืองใหญ่ชัดๆ