The Strangers Prey at Night (2018) คนแปลกหน้า ขอฆ่าหน่อยสิ

นักแสดง

  
Christina Hendricks คริสติน่า เฮนดริกส์

Martin Henderson มาร์ติน เฮนเดอร์สัน

Bailee Madison เบลีย์ เมดิสัน

Lewis Pullman ลูอิส พูลแมน

ผู้กำกับ

Johannes Roberts

รีวิว The Strangers Prey at Night (2018) คนแปลกหน้า ขอฆ่าหน่อยสิ

⭐ อวยไส้แตกแหกไส้ฉีก

🤩 คะแนน: 6/10 ดาว

ขอบอกก่อนนะว่าหนังเรื่องนี้อ่ะมันดูสนุกนะ แบบสนุกจริงๆ ลุ้นมากกกกด้วย แต่อยากจะบอกว่า อีด๊อกกกกกกกกกกกส์ ทั้งเรื่องกูกำลังดูอะไรคะ ไม่มีที่มาที่ไปเลย คือเอาสะใจอย่างเดียว เหมือนกำลังซั่มอยู่กับคนบ้า หาเหตุผลอะไรที่จะชอบคนแบบนี้ไม่ได้เลย นอกจากท้าทาย นอกจากอยากทำอะไรบ้าๆสักครั้งในชีวิต หนังมันเอาแค่สนุกสะใจ หาเหตุผลอะไรไม่ได้เลย แต่พอดูจบจะเกลียดมันก็เกลียดไม่ลง คือมันไปสุดของมันในทางไร้สติมาก! The Stranger เป็นหนังภาคต่อจากภาคก่อน 10 ปี แต่เนื้อหาไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกันเลย ใน The Strangers: Prey at Night เป็นเรื่องราวของครอบครัวนึงที่มีกันพ่อแม่ลูกชายและลูกสาวคนเล็ก อีตัวปัญหาคืออีชะนีคนเล็กที่เกเร เวิ่นเว้อ สำมะเล ลำไย จนครอบครัวต้องตัดสินใจส่งไปเรียนโรงเรียนประจำ และระหว่างทางที่จะส่งไปโรงเรียนมันไกลมากเลยต้องไปแวะพักที่รีสอร์ทของญาติ ที่แม่งเป็นรีสอร์ทที่เปลี่ยวมาก ไม่มีคนอยู่สักกะคน ตกกลางคืนก็มืด และที่สำคัญ ตกดึกมีคนมาเคาะประตูบ้านแล้วไล่ฆ่า โดยในหนังจะใส่ซาวด์เพลงหวานๆลงไปตอลดทั้งเรื่อง

หนังแม่งไร้สติมากกกกกก คือดูไปเนี่ย ก็ไม่รู้ที่มาที่ไปเลยว่าอีคนที่มาไล่ฆ่านี่มันไปหิวซกเล็กมาจากไหน คือบุกมาก็ไล่ฆ่าเลย อีครอบครัวเวรนี่ก็กระเจิดกระเจิงไปกันคนละทิศคนละทาง โดยอีฆาตกรหน้ากากนี่จะมีฆาตหรหน้ากากชะนีผมยาว หน้ากากกระสอบ และก็หน้ากากสาวพินอัพ ตามไล่ฆ่าไปเรื่อยๆ คือรีสอร์ทมันก็ดูไม่เล็กนะ แต่ไม่ว่าจะหลบไปบ้านไหน ฆาตกรตามมาหมด มาทั้งปีหน้าต่างก็มี ขับรถพุ่งเข้ามาในบ้านก็มี หนีไปไหนก็หนีไม่พ้น คือดูไปก็อยากจะบอกว่า ชะตากรรมของอีครอบครัวเวรนี่มืดมนต์มากกกก อีชะนีลูกสาวคนเล็กนี่คือห้าวหีสุด ตัวปัญหาสุด อยากจะวิ่งพุ่งเข้าไปในจอ ตบมันให้ติดฝาแล้วแกะออกมาตบใหม่ อีดอกนี่คือตัวลำไย ตัวน่ารำคาญ ส่วนพ่อแม่กับพี่ชายนี่กูสงสารพวกนางมากกกกก เอาจริงๆนะ หนังแม่ง 85 นาที คือสั้นมากกกกกกกกกก แป้บเดียวจบแล้ว ยังดูมันส์ๆอยู่เลย คือส่วนตัวนะดูสนุก แต่จริงๆหนังควรลงสตีมมิ่ง Netflix มากกกมันจะคุ้มค่ากว่านี้ อันนี้เสียตังไปดูแล้วมันไม่ฟินอ่ะ ดูจบนี่คือต้่องไปหาเพลง Making love Out of nothing at all ของ Air Supply มานั่งฟังในรถเพลินๆเลย

⭐ Platypuschow

🤩 คะแนน: 4/10 ดาว

ขอพูดตรงๆ ว่าฉันเกลียด The Strangers (2008) มาก และไม่คิดเลยว่าพวกเขาจะทำภาคต่อหลังจากนั้นอีกสิบปีฉันไม่ค่อยแน่ใจว่าหนังเรื่องแรกมีอะไร แต่ดูเหมือนว่ามันจะดูด้านเดียว ไม่มีจุดมุ่งหมาย และเป็นเพียงการทรมานแบบลวกๆ ซึ่งไม่ได้ช่วยอะไรฉันเลยคราวนี้เราเห็นครอบครัวหนึ่งตั้งแคมป์ในรถเทเลอร์พาร์ค แต่กลับถูกล้อมโจมตีโดยคนโรคจิตสวมหน้ากากสามคนเดิม ซึ่งรวมถึงคริสตินา เฮนดริกส์ผู้สวยงาม และเบลีย์ เมดิสัน อดีตดาราเด็กด้วยโชคดีที่สิ่งที่เราเห็นนั้นไม่ได้ด้านเดียวและมีโครงเรื่อง แน่นอนว่าโครงเรื่องเป็นหนังสยองขวัญแบบเดิมๆ แต่ถึงอย่างไร มันก็เป็นโครงเรื่องอยู่ดีแล้วหนังเรื่องนี้มีอะไรดีล่ะ? อย่างแรกเลย เพลงประกอบก็ยอดเยี่ยมเช่นเดียวกับดนตรีประกอบ มันเข้ากับหนังได้อย่างลงตัวและย้อนยุคอย่างสดชื่น นอกจากนั้นเรายังถ่ายภาพได้ยอดเยี่ยมอีกด้วย หนังเรื่องนี้มีสไตล์อย่างแน่นอน มันดูดี เสียงก็เยี่ยม และเรามีเฮนดริกส์อยู่ในทีมด้วย แล้วอะไรผิดพลาดล่ะ นอกจากจะดูธรรมดาแล้ว เฮนดริกส์ก็ไม่ใช่ตัวละครหลักอย่างที่คุณคิด ดังนั้นลืมเรื่องที่เธอรับบทนำไปได้เลย แย่ไปกว่านั้น มันยังตกอยู่ในกับดักของหนังสยองขวัญหลายเรื่อง ดังนั้น เราเคยเห็นมันมาเกือบหมดแล้ว

⭐ brammerhammer

🤩 คะแนน: 7/10 ดาว

เพลงเป็นส่วนที่ดีที่สุดของภาพยนตร์เรื่องนี้ ฉันชอบเพลงประกอบที่มีธีมเป็นยุค 80 โดยเฉพาะฉากสระน้ำ ภาพยนตร์เรื่องนี้ค่อยๆ เพิ่มความตึงเครียดขึ้นเรื่อยๆ และเมื่อถึงขีดสุดก็ไม่มีทีท่าว่าจะเลิกเลย มันผ่อนคลายลง ตัวละครทำเรื่องโง่ๆ แน่นอน แต่นั่นก็เป็นเรื่องปกติสำหรับภาพยนตร์ประเภทนี้ ในท้ายที่สุด คุณก็จะใส่ใจมากพอที่จะอยากให้พวกเขามีชีวิตรอด ฉันยอมรับว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่ได้นำเสนออะไรใหม่ๆ มากนัก แต่สิ่งที่นำเสนอออกมาได้นั้นก็ทำได้ดีทีเดียว ฉันขอแนะนำสำหรับแฟนๆ ของภาพยนตร์แนวสแลชเชอร์และภาพยนตร์ต้นฉบับ

⭐ austinonifc

🤩 คะแนน: 7/10 ดาว

ฉันเป็นแฟนตัวยงของเรื่อง Strangers ภาคแรก ฉันคิดเสมอมาว่านี่เป็นหนังสยองขวัญเกี่ยวกับการบุกรุกบ้านที่น่ากลัวที่สุด และไม่คิดว่าจะต้องมีภาคต่อ ฉันกลัวว่าพวกเขาจะทำลายมันด้วยวิธีใดวิธีหนึ่ง แต่หลังจากดูเรื่อง Strangers 2 ซ้ำหลายครั้ง ฉันอาจจะสนุกกับภาคนี้มากขึ้น ฉันชื่นชมแนวทางที่พวกเขาใช้กับภาคนี้ มันดำเนินเรื่องเร็วและสยองขวัญที่สุด พวกเขาเล่าเรื่องราวของพวกเขาในภาคแรก ดังนั้นตอนนี้พวกเขาจึงหลีกทางให้กับหนังที่ดำเนินเรื่องเร็วแบบสุดเหวี่ยง และนั่นคือสิ่งที่พวกเขาทำในภาคนี้ เราได้การโต้ตอบที่ดีระหว่างฆาตกรและครอบครัวที่พวกเขาไล่ตาม และตอนจบคือตอนจบที่ฉันชอบที่สุดจริงๆ มีบางครั้งที่รู้สึกเหมือนว่าพวกเขาได้แนวคิดมาจากหนังสยองขวัญเรื่องอื่น แต่ก็โอเคเพราะมันเข้ากันได้และทำให้หนังดำเนินต่อไปได้ ฉันไม่เคยคิดว่าจะพูดแบบนี้ แต่ฉันอยากได้เรื่อง Strangers 3 เดี๋ยวนี้เลย บ้าเอ้ย!