ดูหนัง The Predator (2018) เดอะ เพรดเดเทอร์
เรื่องราวเกิดขึ้นที่ จากห้วงอวกาศอันไกลโพ้น สู่ถนนเล็กๆ ในย่านชานเมือง การไล่ล่ากลับมาอีกครั้ง ในซีรีย์เพรดเดเทอร์อันโด่งดังของเชน แบล็ค และในตอนนี้ นักล่าที่อันตรายที่สุดในจักรวาลก็แข็งแกร่งขึ้น ฉลาดขึ้น และอันตรายยิ่งกว่าที่เคยเป็นมา พวกมันตัดต่อพันธุกรรมของตนเองเข้ากับดีเอ็นเอของสปีชี่อื่นๆ ในจักรวาล และเมื่อเด็กชายคนหนึ่งบังเอิญกระตุ้นให้พวกมันกลับมาที่โลกอีกครั้ง มีเพียงสมาชิกแร็กแท็กจากอดีตทหาร และอาจารย์สอนวิทยาศาสตร์อีกหนึ่งคนที่ไม่ได้รับการยอมรับเท่านั้น ที่จะช่วยไม่ให้เผ่าพันธุ์มนุษย์ต้องสิ้นสุดลง
อ่านรีวิวก่อน ดูหนังนักแสดง
บอยด์ โฮลบรู๊ก
เทรวานเท โร้ดส์
เจคอบ เทรมเบลย์
คีแกน ไมเคิล คีย์
ผู้กำกับ : เชน แบล็ก
รีวิว
ฮีโร่ตัวน้อย
[SR] (รีวิว) The Predator (2018) เดอะ เพรดเดเทอร์ | คนที่ผิดหวังนี่เขาหวังอะไรกัน พอดูจบ… อ้ออออ! [ไร้ส้มป่อย]
ก่อนจะเข้ารีวิว ก็ต้องขอขอบคุณทาง Major Cineplex ด้วยนะครับ ที่ทำให้ผมได้ดูหนังเรื่องนี้ในราคาที่ย่อมเยา เพราะ Gift Vouchers ของท่านแท้ๆ
หนังเรื่องนี้ก็ได้รับการกำกับโดย Shane Black ที่เคยจับชุดเกราะของโทนี่มาแล้วใน Iron Man 3 ซึ่งด้วยฝีมือของเขา ทำให้คนเกราะเหล็กภาคสามเป็นภาคที่ผมชอบมากที่สุด เพราะเป็นการฉีกแนวจากแบบเดิมของไอออนแมนได้แปลกใหม่ แต่ก็ยังใส่ลวดลายแบบมาร์เวลได้พอเหมาะ ซึ่งการที่เขามากำกับ Predator ภาคนี้ ก็เป็นอีกหนทางที่เขาจะพิสูจน์ตัวเองให้โลกรู้ว่า “ตรูวก็ทำได้นะโว้ย!” และผลที่ออกมาก็ต้องขอบอกเลยว่า “คุณมาถูกทางแล้วครับคุณแบล็ค”
เรื่องย่อ
เรื่องราวเกิดขึ้นจากห้วงอวกาศอันไกลโพ้น สู่ถนนเล็ก ๆ ในย่านชานเมือง การไล่ล่ากลับมาอีกครั้ง นักล่าที่อันตรายที่สุดในจักรวาลก็แข็งแกร่งขึ้น ฉลาดขึ้น และอันตรายยิ่งกว่าที่เคยเป็นมา พวกมันตัดต่อพันธุกรรมของตนเองเข้ากับดีเอ็นเอของสปีชี่อื่น ๆ ในจักรวาล และเมื่อเด็กชายคนหนึ่งบังเอิญกระตุ้นให้พวกมันกลับมาที่โลกอีกครั้ง มีเพียงสมาชิกแร็กแท็กจากอดีตทหาร และอาจารย์สอนวิทยาศาสตร์อีกหนึ่งคนที่ไม่ได้รับการยอมรับเท่านั้น ที่จะช่วยไม่ให้เผ่าพันธุ์มนุษย์ต้องสิ้นสุดลง
“เส้นทางใหม่ของซีรี่ส์ แต่ก็ท่าดีทีเหลว”
ในภาพลักษณ์ของซีรี่ส์ Predator จะเป็นอะไรที่ซีเรียสเล็กน้อย มีมุขคลายเครียดได้แบบนิดๆ ส่วนตัวเคยดูแค่ภาคที่ Robert Rodriguez กำกับนะครับ และก็ชอบภาคนั้นพอสมควร ถึงมันจะไม่ได้ยอดเยี่ยมกระเทียมดองอะไรมาก แต่องค์ประกอบโดยรวมหนังผ่านครับ ไม่ว่าจะเป็นฉาก แสง สี เสียง และสถานที่ มันเป็นอะไรที่เอื้ออำนวยมากๆ และยิ่งดนตรีประกอบนี่เล่นเอาระทึกจนแทบจะหยุดหายใจ และนักแสดงก็เล่นกันได้ถึงพริกถึงขิงทุกคนเลยจริงๆ เรียกได้ว่าหนังเอาตัวรอดได้อย่างหวุดหวิดครับ
และใน The Predator นี้ จะเล่าเรื่องแบบใหม่ครับ ต้นเรื่องจะเป็นแบบเอเลี่ยนจ๋าเลย คือเล่าการมาเยือนของตัวพรีเดเตอร์สายพันธ์ุใหม่ตัวนี้ว่ามันมาได้ไง มันมีสกิลการล่าโหดขนาดไหน แต่พอพ้นช่วง 5 นาทีแรกไป กลิ่นอายของ Shane Black มาเต็มครับ ทั้งการแนะนำตัวละครที่น่าสนใจ (ถึงแม้จะเยอะเกินไปก็เถอะ) การหยอดมุขจิกกัดกันไปมา บอกเลยครับว่าผมแอบคิดในใจ “นี่กูดูหนังตลกอยู่ป่าววะ!” หนังใช้เวลาแนะนำตัวละครไม่มากครับ แต่ก็พอจำได้หลายคน ในช่วงนี้ Black ทำได้ดีครับ เขาคุมโทนหนังได้ดี แต่มันก็กลายเป็นดาบสองคม บางคนดูไปก็อาจจะบ่นในใจว่า
“มันจะเอาฮาไปไหน มันไม่ใช่มาเวลนะโว้ย”
“มุขตลกสามช่า มาเป็นระยะจนยิ้มเป็นกษัย”
สิ่งหนึ่งที่ทำให้ผมชอบหนังมากกว่าที่คิดก็คือ “มุขตลก” ครับ ใครที่รู้จัก Black ดีจะรู้ว่าเขาสามารถกำกับจังหวะตลกของเขาได้ดีขนาดนี้ ในเรื่องนี้เขาก็ยังคงฝีมือไม่ตกครับ ขนาดแค่ตัวละครมองหน้ากัน ผมยังลั่นขำออกมาดังมาก ตรงนี้นักแสดงมีส่วนร่วมด้วยครับ ขาดพวกเขาไปหนังจะดูจืดกว่านี้มาก ทุกรายเด่นเท่ากัน จนพี่เดของเราดูจืดไปเลย
“แอคชั่นดูดี มีความมันส์แต่ขาดความลุ้น”
ในส่วนฉากต่อสู้ ขอบอกเลยว่า “โคตรมันส์ โคตรดิบ โคตรโหด” หนังได้เรต R นะครับ เพราะฉะนั้นในฉากแอคชั่นมันจะดูมีเลือด(กระฉูด)มีเนื้อ(กระจาย) กันมากพอสมควร ใครจะพาลูกหลานไปดู ผมขอแนะนำให้พิจารณาให้ดีนะครับ มันใม่ใช่น้ำหวานเฮลบลูบอยนะจ๊ะเด็กๆ
แต่กระนั้น ความโหดของมันก็พ่วงมาพร้อมปัญหาอันใหญ่หลวง นั่นก็คือ “อารมณ์ร่วม” ซี่งขอบอกเลยครับว่าฉากการต่อสู้นี่ นอกจากกลุ่มตัวเอกแล้ว ตัวละครสมทบอื่นๆ แทบจะดู “น่าสงสาร” พอสมควร ผมไม่ได้หมายถึงผมสงสารที่พวกเขาตายนะครับ แต่สงสารเพราะว่า
“พวกเองไม่น่ามาตายฟรีเล้ยยย”
โดยภาพรวมของ “The Predator” ก็เป็นผลงานของผกก. Shane Black ของเราที่ทำออกมาในรูปแบบที่เน้นเอาใจสายแฟนๆ เขาซะส่วนใหญ่ แต่ถ้าใครที่เป็นแฟนซีรี่ส์ชุดนี้ก็ต้องแอบทำใจนิดนึงนะครับ เพราะมันไม่ได้เป็นไปตามที่ท่านหวังเอาไว้หรอก แต่ถ้าท่านลองเปิดใจ หนังภาคนี้ก็จะเป็นอีกทางเลือกที่ดีของการคลายเครียดนะครับ ย้ำ! คลายเครียดนะ คลายเครียด อย่าไปตึง!
ไปดูตั๋วลดราคาน่าจะคุ้มนะ สำหรับแฟนๆ ของ Black แต่ถ้าใครที่เป็นแฟน Predator แนะนำว่ารอเช่าดีกว่าครับ
นักเลงโรงหนัง
— รีวิว The Predator (2018) — ( หนังแม่งเพลินมากกกก สนุกจริงจัง เป็น Predator ที่มีทั้งความมันส์และความตลกที่โคตรฮา )
.. 8/10 คะแนน ..
.
.. ต้องยอมรับเลยว่า Predator เวอร์ชั่น 2018 แม่งสนุกแบบบ้าบอคอแตกจริงๆ เป็นเพรดเดเตอร์ที่โคตรฉีกจากภาคเดิมๆ เพราะมีมาทั้งความตลก ความมันส์ ความเท่ห์ และความติดเรทกระซวกไส้ไหลแบบที่อยากจะเบือนหน้าหนี เป็นหนังที่เน้นเอาใจคอหนังแอคชั่นอย่างแท้จริง ช่วงนี้ผมเป็นไรไม่รู้ดูหนังอะไรก็ไม่ค่อยสนุกสงสัยเมนส์ใกล้มา แต่พอเจอเรื่องนี้ต้องยอมรับว่าหนังมันดูเพลินและสนุกแบบไม่ต้องคิดเยอะจริงๆ ประกอบกับดูในโรง Imax ที่มีทั้งความใหญ่ ยาว ร้องเสียงดังจนข้างห้องต้องมาเคาะว่าเบาๆหน่อยคนจะนอน ฉากท้ายๆนี่ต้องขมิบรัวๆ เพราะ หนังมันส์มากก! ..
.
.. หนังเริ่มต้นด้วยการที่มียานต่างดาวตกมาบนโลก จวบเหมาะกับที่ Quinn McKenna ตัวละครหลักในเรื่องกำลังทำภารกิจอยู่แถวนั้นพอดี ทำให้ แม็คเคนน่า แอบเก็บของบางอย่างติดตัวหนีออกมาด้วย นำพามาซึ่งเหตุการณ์เสี่ยงตายแบบวินาศสันตะโรของการไล่ล่าระหว่างคน กับเพรดเดเตอร์ แบบที่เค้าคงได้แต่นึกในใจว่า ไอ่ชิบหาย กูไม่น่าหยิบมาเล้ยยยยยยยยยย ขณะเดียวกันลูกชายของ แม็คเคนน่าก็มีความสามารถบางอย่างอันเกิดจากอุปกรณ์ที่พ่อเค้าไปขโมยมา ทำให้ถูกเพรดเดเตอร์และคนบางกลุ่มไล่ล่า แบบเอาเป็นเอาตาย …
.
.. การได้ Shane Black มารับหน้าที่กำกับ ทำให้หนังมันเสน่ห์แบบที่ปฎิเสธไม่ลงจริงๆ มุขตลกในเรื่องนี่ต้องยอมรับว่าบางมุขแม่งขำจริงๆ บางช่วงบางตอนนี่ลืมไปเลยว่า พระเอกของงานคือตัวเพรดเดเตอร์ เพราะโดนพวกตัวละครในเรื่องยิงมุขกันฮากระจายกลบซะมิดด้าม ผมเป็นคนที่ชอบมุขตลกและจังหวะอะไรแบบนี้ในหนังมาก แต่บางช่วงก็รู้สึกว่าหนังมันทำเป็นเล่นไปหน่อย predator ตัวใหญ่ชิบหาย ประมาณเมียตอนเพิ่งกินหมุกระทะอิ่มใหม่ๆ แล้วทักษะการฆ่านี่มาแบบไม่มียั้งมือ แต่พวกมึงยังมานั่งหัวเราะกันเอิ๊กอ๊าก สบายใจเฉิบกันอยู่เลย ฮาา …
.
.. ฉากติดเรทอันเป็นเอกลักษณ์ของ Predator เป็นอีกสิ่งที่เวอร์ชั่นนี้ยังทำออกมาได้สะใจดีเหมือนเดิม กระซวกกันแต่ละดอกนี่เสียวท้องน้อยแปร๊บแปร๊บ ตัดขาขาด ตัวขาด ไส้ทะลัก ยิงลูกตา นี่ถ้ามือเพรดเดเตอร์มันยาว มันคงเอามือยัดตูดศัตรูแล้วโผล่ออกทางปากเพื่อมาชูนิ้วกลางไปแล้ว ในส่วนนี้ต้องปรบมือให้ว่าถึงแม้หนังมันจะแมสเอาใจคนมากขึ้นและมีความตลกพร่ำเพื่ออันเป็นเอกลักษณ์ของผู้กำกับ แต่หนังมันก็ยังไม่ทิ้งความดิบเถื่อนและฉากติดเรทแบบที่สายแข็งชอบเห็นอะไรสยองๆแหวะๆให้ลดน้อยลงไป ..
.
..จุดอ่อนของหนังถ้าจะจับผิดก็มีเพียบ ฉากตัดสลับไปมานี่มึนมากคือพวกมึงหายตัวกันได้หรือไง ทำท่าว่าจะโผล่ตรงนั้น ทำท่าว่าจะโผล่ตรงนี้ อยู่ดีๆพวกนายก็ไปตรงนั้น อยู่ดีๆพวกนายก็ไปตรงนี้ ว๊ายยยยย น้องก็ต๊กใจตื๊นนนน ถุยยย กูมาลงตรง พี่ฮาย อาภาพรได้ไงวะ 5555555555 เนื้อหาถ้าว่ากันจริงๆก็มีรอยโหว่มีอะไรที่ผิดที่ผิดทางเยอะพอสมควร แต่โดยรวมแล้วมันก็ยังพอถูๆไถๆ ดันๆ คลึงๆ เค้นๆ ไปได้อยู่ เพราะตอนท้ายๆหนังมันสนุกมากจริงๆ ..
.
.. สรุป .. หนังโอเคเลยแหละ ดูเอามันส์ ดูเอาฮา จัด IMAX โลดใหญ่ยาวสะใจดี ตอนจบหนังทิ้งท้ายไว้แบบนี้ ภาค 3 น่าจะเป็นอะไรที่สนุกและเฟี้ยวน่าดู เช็คให้แล้วนะมาดูได้เลยที่รักไม่เสียดายเงินแน่นอนครับ
.
.. ขอบคุณที่อ่านจนจบ ดูหนังให้สนุก นอกจากรักพวกคุณทุกคนแล้ว ผมก็ไม่เก่งอะไรอีกเลย ..
สมาชิกหมายเลข 1352856
[CR] Review The Predator 2018 หนังที่ไม่ได้มีแต่โหดดิบเถื่อนเหมือนภาคก่อนๆ ฉีกมาหน่อยก็ได้ ผมให้ 7/10
The Predator 2018 หนังที่ไม่ได้มีแต่โหดดิบเถื่อนเหมือนภาคก่อนๆ ฉีกมาหน่อยก็ได้ ผมให้ 7/10
The Predator (2018)
กำกับโดย: Shane Black
เขียนบทโดย: Shane Black, Fred Dekker
นักแสดงนำ: Boyd Holbrook, Trevante Rhodes, Jacob Tremblay
ประเภทหนัง: Action, Adventure, Horror
ThePredator หรือที่พวกเราเรียกกันว่า พรีเดเตอร์ ,เพรดเดเตอร์ สำหรับผมแล้วตัวละคร เพรดเดเตอร์เป็นตัวละครที่
น่าสนใจและมีเอกลักษณ์อยู่ไม่น้อย ผมจำได้ในสมัยตอนยังเด็ก ช่วงที่มีหนัง เอเลี่ยนปะทะเพรดเดเตอร์, เพรดเดเตอร์ 1, 2 ,3
เอาตามจริงแล้วผมก็จำเนื้อเรื่องไม่ได้แล้วด้วยสิ ก็หนังมันกว่าจะออกก็นานพอสมควรเลย ถ้าคุณไม่เคยดูมาก่อน
แล้วมาดูภาคนี้ผมบอกได้เลยว่า น่าจะเข้าใจไม่ยากเท่าไหร่ เพราะเหมือนว่าหนังมันฉีกกฎอะไรเก่าๆมาเหมือนกันนะ เหมือนกับผู้กำกับ
พยายามจะยัดนู้นยัดนี่ใส่เข้าไป จนบางอย่างมันดูตลก ไม่เมคเซ้นส์เท่าไหร่ ไอนี่มาไง ไอนั่นมาโน่น ปนเปไปหมด
แต่มาในภาคนี้รับรองเลย คุณจะได้เห็นถึงฉาก ระเบิดตูมตามแล้วก็กลายเป็นโกโก้ครั๊นซ์ ไม่ใช่ ผ่าม ผ่าม!! ภาคนี้รับร้องได้เห็นถึงฉากโหด เลือดสาด เห็นเครื่องในกันเลยทีเดียว ก็หนังระดับเรทRนิ เห็นไส้เห็นพุงอยู่แล้วแหละ จะเล่าเนื้อเรื่องย่อแบบย่อๆ ให้ฟังนะ เอ้าย่อสิ นั่งลง ถุ้ย!!!
ในภาคนี้เราจะได้เห็นเพรดเดเตอร์สายพันธุ์ผสมที่ดุร้าย โหดหน้าเหี่ยว ตัวสูงท่าตึก60ชั้น นั่นมันก๊อตซิล่า โว๊ย!!! เพรดเดเตอร์สายพันธุ์ใหม่ ตัวสูงและใหญ่พอสมควร มันมีเป้าหมายอะไรบางอย่างบนโลกมนุษย์ ซึ่งเป้าหมายนั้นอยู่ที่เพรดเดเตอร์บนโลก เอ้าพูดแบบนี้ เหมือนจะมีมากกว่า1ตัว เอ่อก็ใช่แหละแต่ไม่บอกหร๊อกกว่า ว่ามากันกี่ตัว แฮ่! เรื่องคือ เกิดจากที่ลูกทีมของ พระเอกเรานั้น ถ้าใครจำตัวร้ายที่มีแขนกลคนแปรธาตุในเรื่องโรแกนได้ นั่นแหละถูกแล้ว ภาคนี้เขามาในหน้าที่ของ พระเอ๊กอี๊เอ๊กเอ๊กกก “พระเอกนั่นแหละ” หลังจากที่พี่เขาเป็นตัวร้ายในเรื่องโรแกนมาแล้ว ภาคนี้เขาก็ได้เชิดฉายสักที!!! ลูกทีมของพี่เขาโดยเพรดเดเตอร์จัดการซะราบคาบ จึงทำให้
เรื่องราวมันบานปลายเมื่อพี่เขาได้เก็บชิ้นส่วนอาวุธของเพรดเดเตอร์และได้ส่งไปที่บ้าน ทำให้ลูกชายของเขาที่เป็นเด็กพิเศษ จึงจำใจต้องมีภัยอย่างที่ไม่สัมผัสมาก่อน
เอ้าาแล้ว ไอเด็กนี่มันไปมีพง มีภัยอะไรได้ไงเล่า เล่าต่อสิ….ไม่บอกหรอกไปดูเอา อิอิ
ถ้าคิดๆดูแล้วหนังภาคนี้คิดว่ามันค่อนข้างฉีกและแตกต่างกันกับ ภาค1และ2 ในส่วนที่ หนังมีการใส่มุขตลกเข้ามา ผมว่าเป็นจุดที่หนังทำได้ดีนะและรู้สึกว่าเออมุขตลกมันไป
ได้กับหนังว่ะ หนังมันตลกนะแต่ไม่ได้มากมายขนาดขำก๊ากลั่นโรง พอคุคิได้นิดหน่อย แต่หนังมันก็ไม่ได้ทิ้งความเป็นแอ็คชั่นนะ ในส่วนแอ็คชั่นบู๊ตูมตามหนังก็จัดเต็มเช่นกัน
เเต่ไม่สามารถทำได้ดีเท่าส่วนของตลก หนังมันเเอ็คชั่นนะแต่ผมจำได้ว่า ภาค1,2 มันดูโหดร้ายดุดิบเถื่อนมากกว่านี้ ภาคนี้มันยังเดินเรื่องไว๊ไป๊ป๊ป๊ป๊ ไม่รู้ว่าผู้กำกับหรือคนเขียนบท
เขาคิดอะไรอยู่ บางทีเขาอาจคิดว่าคนรู้จักเพรดเดเตอร์อยู่แล้วมั้ง น้ำหนักของตัวละครแต่ละตัวก็ดูน้อย ดูไม่มีประวัติที่มาอะไรสักเท่าไหร่
ภาคนี้รู้สึกตลกและน่าเสียดายตรงที่ ช่วงแรกเปิดเรื่องมามันดูไม่น่าจดจำอะสิ อารมณ์และโทนหนังในช่วงแรกๆก็มาแบบยัดมาโต้งๆ ตอนเปิดเรื่องมายังไม่เท่าไหร่ ตอนจบดิ โห่ว!!!
น่าจะบอกกล่าวอะไรท่านผู้ชมหน่อย (เพลงพี่ตูนนะรู้ป่าว อิ) ในตอนท้ายมันดูไม่ได้ให้น่าจดจำงะ มันไม่ได้สรุปอะไรให้ได้ดีกว่านี้เลย มันเลือกจบแบบไม่บอกกล่าวอะไรถึงประเด็นที่หนังต้องการเล่ามาแรกๆเลย เพรดเดเตอร์แล้วไง รู้ประวัติอะไรบ้างไหม ไม่มี๊! หนังมันอยากโชว์ของมากกว่า
ส่วนของเพรดเดเตอร์ในภาคนี้ผมรู้สึกว่า มันยังไม่โดดเด่นอะไรมาสักเท่าไหร่ บทมันก็ไม่ส่งเสริม มีเรื่องของการบู๊ล้างผลาญที่ยังขาดความเฉลียวฉลาดแต่เพิ่มความ โหดเถื่อนดิบเข้ามา เอะอะเป็นยิง ปิ้วๆ ฆ่าฟันมนุษย์ฉึบฉับ ผมว่าบทเพรดเดเตอร์มันดูธรรมดาอะไม่เน้นล่า เพราะมันมีเป้าหมายอย่างอื่นแทน ไม่เล่าดีกว่าาาา นั่นแหละ!มันเลยทำให้ภาคนี้ดู ดรอปเรื่องความน่ากลัวอะไรลงไปเลย ผมว่าผู้กำกับต้องการทำให้หนังมันแตกต่างล่ะมั้ง ผมว่าหนังภาคนี้ไม่สามารถเทียบกับสองภาคแรกได้เลยกับฉากแอ็คชั่น แต่ภาคนี้จุดแข็งผมว่ามันอยู่ที่ตัวละครนะ
ตัวละครหลักๆทำออกมาได้ไม่น่าเบื่อ น่าจดจำอีกตะหาก ถ้าตัวที่ตลกเด่นๆเลยเห็นทีจะเป็น Keegan-Michael Key กับ Thomas Jane ผมจำไม่ได้ว่าเขาเคยเล่นหนังเรื่องไหนมาแล้วบ้าง แต่ในหนังเรื่องนี้ ผมว่าทั้งคู่มีการหยอกล้อกันตลกๆนะ ดูบทแต่ละคนที่มันไม่ได้เด่นมาก แต่พอจะตลกก็ตลกอะ เออแปลกดี ยังมีพระเอกจากหนังรางวัลออสการ์อย่างเรื่อง MoonLight มาแสดงด้วยอีก เออตัวละครดังๆเยอะดีนะ ส่วนตัวละครอื่นๆก็เล่นได้ดีนะ แต่ข้อเสียเห็นทีจะเป็นการบอกเล่าประวัติของตัวละครบางตัว ที่อยู่ๆก็โผล่มาทำนู้นทำนี่ได้ ทหารรึป่าวก็ไม่ใช่ไหงทำอะไรเป็นเยอะจริงจริ๊งงง
และที่ชอบมว๊ากกกก็คือ เหล่าเมคอัพอาร์ตติสที่ทำเพรดเดเตอร์ให้ออกมา น่าเกลียดน่ากลัว น่ากินมะขาม ถุ้ย! น่าเกรงขามได้ แล้วยังมีพวกอุปกรณ์ไฮเทคต่างๆ
ที่ดูแล้วเออ มันดูดีกว่าภาคก่อนๆอะ
ใครว่างก็ไปดูนะ ขำๆเพลินๆ สนุกดี เอาไป7/10 พอนะแจ๊ะ
จอแจ๊ฟรีวิว
ขอขอบคุณข้อมูลบางส่วนจาก Movie Nowhere
#รีวิวหนัง #มือใหม่หัดรีวิว #ThePredator2018 #ภาพยนตร์แอ็คชั่น #หนังต่างประเทศ #ภาพยนตร์
#จอแจ๊ฟหัดรีวิว #ดูหนังคนเดียว #เปลี่ยนจากคนเหงาลาดกระบังเป็นคนเหงาเจริญกรุงแทนละ #คนเหงาเจริญกรุง2018