ดูหนัง The Night (2020) โรงแรมซ่อนผวา เรื่องของคู่รักที่มาพักในโรงแรมแห่งหนึ่ง ก่อนเหตุการณ์สะพรึงเหนือธรรมชาติจะค่อยๆ ปลอดปล่อยด้านมืดและความลับที่พวก้ขาแอบซ่อนเอาไว้ออกมา
อ่านรีวิวก่อน ดูหนังนักแสดง
Rebecca Hall
Sarah Goldberg
Vondie Curtis-Hall
Evan Jonigkeit
ผู้กำกับ
David Bruckner
รีวิวหนัง The Night (2020) ดูหนังออนไลน์
เคยมั๊ยอยู่ๆ ก็มีอารมณ์อยากดูหนังลึกลับน่ากลัวๆ สักเรื่องก่อนนอน ก่อนหน้าเรื่องนี้ผมดู The Whole Truth ปริศนารูหลอน ก็ไม่ได้ตอบโจทย์ความหลอนก่อนนอนอะไรมากมาย ก็เลยลองค้นหาไปเรื่อยๆ มาเจอเรื่องนี้ที่ได้คะแนนจากเว็บ Rotten Tomatoes ถึง 87% ซึ่งก็ถือว่าสูงมาก แต่ข้อมูลของหนังเรื่องนี้ก็น้อยมากเช่นกัน
เล่าเรื่องราวของ เบ็ธ สาวม่ายที่เพิ่งจะสูญเสียสามีไปอย่างกะทันหัน ทำให้เธอต้องอยู่โดดเดี่ยวเพียงลำพังที่บ้านริมน้ำที่เธอได้ร่วมสร้างกับสามี ในขณะที่เธอกำลังพยายามปรับตัวเพื่ออยู่กับตัวเองให้ได้ เธอก็ได้เผชิญหน้ากับฝันร้ายสุดแปลกกับเสียงเรียกประหลาดจากในบ้าน และนั่นเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เธอค้นพบกับความลับดำมืดที่แอบซ่อนเอาไว้ในบ้านหลังนี้
ตัวหนังเองเดินเรื่องราวได้ลึกลับดีมาก ทั้งเรื่องราวทั้งบรรยากาศของหนัง สิ่งแวดล้อมรอบๆ บ้าน ภายในตัวบ้านเอง และองค์ประกอบต่างๆ รอบตัว มันสร้างบรรยากาศให้หนังมันอึมครึมน่าขนลุกได้ดีมากๆ ดูคนเดียวต้องมีแอบเสียวสันหลังแน่นอน
โดยหนังใช้แกนหลักเป็นอารณ์มืดดำด้วยความเศร้าโศกของ เบ็ธ ที่สูญเสียสามี โอเว่น ไปจากการฆ่าตัวตาย ก่อนที่หนังจะค่อยๆ เผยความลึกลับของตัวบ้าน และค่อยๆ เปิดเผบปริศนาที่ทำให้ โอเว่น ตัดสินใจทำการฆ่าตัวตายออกมาเรื่อยๆ ซึ่งหนังเรียง sequence ตรงพาร์ทเหล่านี้ได้ชวนติดตามมากๆ
ซึ่งหนังทำได้ดีมาจนถึงจุดๆ หนึ่งที่หนังกำลังจะเปิดโปงเรื่องทุกอย่างทั้งหมด แต่แล้วเหมือนรถบรรทุกพลิกคว่ำกลางถนน หนังไม่ได้หักมุมอะไร เพราะหนังค่อยข้างจะเดินมาแบบชัดเจนพอสมควร เพียงแต่ว่าพอหนังจะเฉลยเรื่องราวทั้งหมด หนังกลับใส่ความอินดี้เขามาในตอนท้ายให้คนดูงงเล่นๆ แบบว่า ห๊ะ จะจบแบบนี้จริงๆ เหรอ ซึ่งอารมณ์น่ากลัวที่ผ่านมา มาสตั๊นเอาตอนจบนี่แหละ
เอาเป็นว่า รีวิวสั้นๆ แค่นี้พอ คือหนังมันปูทางมาได้น่ากลัวน่าขนลุกแล้ว เหมือนกับผลไม้อร่อยๆ ผลหนึ่งที่กำลังจะสุกชวนกิน แต่พอกำลังจะกิน ดันเจอหนอนอยู่ตรงแกนกลางของผลซะงั้น ทำให้การรอคอยความอร่อยต้องหยุดชะงักลงแบบเซ็งๆ หรือว่าจริงๆ แล้วที่คะแนนมันสูงอาจจะเพราะมีคนชอบการหักมุมมแบบนี้เยอะก็เป็นได้นะ
sanook
เบธ (รีเบคก้า ฮอลล์) คุณครูประจำโรงเรียนไฮสคูลที่ตัดสินใจลาพักร้อนหลังจากที่สามีของเธออย่างโอเว่น (อีวาน โจนิกไคท์) ตัดสินใจฆ่าตัวตายในเรือพาย ที่ทะเลสาบข้างบ้านของตัวเอง ด้วยความเศร้าโศกและอาการช็อค เบธจึงพยายามทำใจด้วยตัวคนเดียว ท่ามกลางบ้านหลังงามที่เคยเป็นเรือนหอของทั้งสองร่วมสร้างกันมา
ชีวิตอันแสนโดดเดี่ยวของเบธ ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับการปรับตัวในบ้านหลังเดิม จนกระทั่งเธอเริ่มได้ยินเสียงอันแปลกประหลาดคลับคล้ายคลับคลา ว่าจะเป็นเสียงของโอเว่น เธอจึงเริ่มค้นหาที่มาที่ไปว่าตกลงแล้วนี่เป็นอาการหลอนไปเอง หรือจริงๆแล้วมีพลังงานลึกลับบางอย่างที่กำลังคุกคามตัวเธออยู่
ความโดดเด่นประการสำคัญคือการเป็นหนังสยองขวัญที่มีจังหวะจะโคนในการเร้าอารมณ์ของผู้ชมได้อย่างถูกที่ถูกเวลา ยังไม่รวมถึงบรรยากาศหลอนๆไม่น่าไว้วางใจของตัวหนังเองที่เล่นกับเรื่องสถาปัตยกรรมตัวบ้าน อันมีลักษณะในการออกแบบที่โมเดิร์น ซึ่งหนังก็เล่นกับองค์ประกอบเรื่องดีไซน์ต่างๆ จนกระทั่งสร้างจังหวะหลอกหลอนผ่านมุมบ้านหรือกระทั่งเงาสะท้อน
ไม่เพียงเท่านั้นความพยายามในการล่อหลอกผู้ชม ว่าความน่ากลัวทั้งหมดนั้นอาจจะมีที่มาที่ไปมาจากโอเว่น ที่หมกมุ่นอยู่กับการออกแบบบ้านที่พวกเขาอาศัยอยู่ให้มีลักษณะเป็นเขาวงกตและใช้ศาสตร์มืดในการสร้างเรื่องราวชั่วร้ายขึ้น แต่ความเป็นจริงแล้วไม่ใช่อย่างนั้นเลย เพราะพลังงานมืดที่เกิดขึ้นนั้นเกี่ยวพันกับตัวของเบธเองล้วนๆ
สิ่งที่น่าสนใจในช่วงบทเฉลยของเรื่อง ช่วยให้เราวิเคราะห์เพิ่มเติมได้ว่า จริงๆแล้วตัวเอกอย่างเบธเองเป็นคนที่มีอาการซึมเศร้าโดยที่ตัวเธอเองไม่รู้ตัวมาก่อน เพราะหลังจากเหตุการณ์ “ตาย 4 นาที” และฟื้นชีวิตกลับมานั้น บางทีแล้วพลังงานชั่วร้ายที่ตามกลับมาพร้อมกับเธอนั้นอาจจะดูเป็น “ความชั่วร้าย” ในเชิงรูปธรรม แต่วิธีที่หนังเลือกจะนำเสนอผ่านงานด้านภาพด้วยการใช้ “เงาโปร่งแสง” เป็นตัวแทนดังกล่าว พอจะทำให้เราตีความได้ว่า จริงๆแล้วความชั่วร้ายที่ว่านี้อาจจะเป็นอาการที่หม่นเศร้าที่ตัวเบธเองไม่รู้ตัวและส่งผ่านพลังงานนี้ให้กับสามีของตัวเองโดยไม่รู้ตัว
หลังจากอาการซึมเศร้าที่สั่งสมมาเรื่อยๆในตัวของโอเว่นยาวนานถึง 15 ปี วันหนึ่ง “เสียงกระซิบ” ได้ทำให้สามีของเธอตัดสินใจปลิดชีวิตตัวเองลงก็เป็นได้ และฉากสุดท้ายก่อนที่เครดิตจะขึ้น ร่างโปร่งแสงนั้นก็ไม่ได้หายไปไหนก็พอจะเอื้อให้เราเข้าใจได้ว่าสุดท้ายแล้วสิ่งนี้ก็ยังไม่ได้ถูกจัดการให้สูญสิ้นไป แต่ยังรอคอยเวลาที่ประจวบเหมาะยามที่ตัวเบธเผลออีกครั้งก็เป็นได้
ไม่ว่าจะมองในเชิงรูปธรรมหรือนามธรรมก็ตาม ก็ถือเป็นหนังสยองขวัญที่ทำหน้าที่ของตัวเองได้อย่างสมบูรณ์แบบและดูสนุกไม่เบาเลยทีเดียว