ดูหนัง The Killers Game (2024) เกมนักล่า ล่านักฆ่า
เมื่อมือสังหารระดับแนวหน้า โจ ฟลัด ถูกวินิจฉัยว่าป่วยหนัก เขาจึงตัดสินใจลงมือจัดการด้วยตัวเอง โดยลงมือสังหารตัวเอง แต่เมื่อมือสังหารคนเดิมที่เขาจ้างมาเล็งเป้าไปที่อดีตแฟนสาวของเขาด้วย เขาจึงต้องต่อสู้กับกองทัพมือสังหารเพื่อนร่วมงานและทวงความรักในชีวิตกลับคืนมา ก่อนที่มันจะสายเกินไป ในการแสดงเต้นรำที่บูดาเปสต์ มือปืนโจ ฟลัด ได้ทำการลอบสังหาร แต่ถูกการ์ดจับได้ ในความโกลาหลที่เกิดขึ้น โจได้พบกับนักเต้นที่ล้มลง ชื่อว่าเมซ และช่วยเธอออกมาอย่างปลอดภัย เธอพยายามขอบคุณเขา แต่โจเริ่มปวดหัวและจากไปก่อนที่เมซจะช่วยเขาได้ หลังจากตรวจอาการปวดหัวแล้ว โจก็พบเมซที่สตูดิโอเต้นรำของเธอ และคืนโทรศัพท์ให้เธอ ซึ่งเธอทำหายระหว่างเหตุวุ่นวายครั้งก่อน เมซและโจก็ตกหลุมรักกันในไม่ช้า โดยที่เขาโกหกเรื่องอาชีพของเขากับเธอ โจได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคครอยต์ซ์เฟลด์-จาคอบ ในไม่ช้า โจก็ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคครอยต์ซ์เฟลด์-จาคอบ โดยแพทย์ประจำตัวของเขา ดร.คาแกน บอกว่าเขาจะมีชีวิตอยู่ได้อีกประมาณสามเดือน
อ่านรีวิวก่อน ดูหนัง
นักแสดง
Dave Bautista เดฟ บอทิสตา
Sofia Boutella
Terry Crews
ผู้กำกับ : เจเจ เพอร์รี่
รีวิว
entertainment
จะเกิดอะไรขึ้นถ้าหากว่านักฆ่าต้องการจะว่าจ้างให้นักฆ่าร่วมวงการมาจัดการเขาที่กำลังสิ้นหวังสุด ๆ แต่เรื่องมันอลวนพลิกผันไปยิ่งกว่านั้น กลายมาเป็นพล็อตหนังแอคชันสุดระห่ำ “The Killer’s Game เกมนักล่า ล่านักฆ่า” ที่นับว่าเป็นการขนกองทัพนักแสดงนานาชาติเอาไว้แบบแน่น ๆ พร้อมด้วยลีลางานออกแบบท่วงท่าบู๊สุดปัง แต่ว่า…แต่ว่า…
โจ ฟลัด นักฆ่ารุ่นใหญ่รุ่นอาวุโสผู้เลื่องชื่อในทวีปยุโรป เขากำลังคิดที่จะหันหลังให้กับวงการนี้ หลังพบว่าตัวเองมีอาการประหลาด ๆ แต่เมื่อเข้ารับการตรวจวินิจฉัยโรคก็ได้ค้นพบว่าตัวเองกำลังเผชิญหน้ากับโรคร้ายที่ยังไม่มีวิธีรักษา ยิ่งทำให้เขาสิ้นหวังในการดำรงชีวิตอยู่ เขาจึงจำใจต้องผละทิ้งทุกสิ่ง แล้วว่าจ้างนักฆ่าจากทั่วภูมิภาคให้กับปลิดชีพเขาเสีย เพื่อผลประโยชน์ให้กับผู้ที่รับผลประโยชน์ แต่เมื่อนาฬิกาเวลาถึงเวลาที่เขาต้องถูกไล่ล่าฆ่า หมอกลับแจ้งว่าผลการตรวจโรคเกิดความผิดพลาด
“เจ. เจ. เพอร์รี” สตันท์แมนมืออาชีพของฮอลลีวูดกลับมาสร้างหนังที่เป็นผลงานหนังใหญ่เรื่องที่ 2 ของเขา หลังจากเดบิวต์ในหนังบู๊แวมไพร์ Day Shift เมื่อไม่กี่ปีก่อน มาครั้งนี้ได้หยิบเอางานเขียนชื่อเดียวกันของ เจย์ โบแนนสิงกา มาดัดแปลงสร้างเป็นบทหนัง ที่ได้ “แรนด์ ราวิช” กับ “เจมส์ คอยน์” มารับหน้าที่ปลุกปั้นบทหนังเรื่องนี้ นับว่าเป็นการผนึกกำลังทีมงานผู้สร้างแอคชันระดับอหังกาฬมาร่วมทีมกันเอาไว้ในเรื่องเดียว
แต่น่าเสียดายที่ The Killer’s Game ค่อนข้างผิดที่ผิดทางไปหมด โดยเฉพาะการปั้นเรื่องและสร้างบทหนังที่ดูเหมือนจะหนักแข็ง แต่กลับกลวงโบ๋อย่างเหลือเชื่อ เพราะไม่ต่างกับการหยิบเอาพล็อตหนังบู๊ดัง ๆ หลายเรื่องมายำรวมเป็นหนังใหม่ แต่โชคดีที่หนังมีต้นฉบับเป็นลายลักษณ์อักษรอยู่แล้ว แต่บทหนังค่อนข้างลืมใส่เสน่ห์และความสนุกเข้ามาได้อย่างลงตัวไปสักหน่อย แค่เปิดเรื่องมาก็มัวเสียเวลากับการสาธยายปูเรื่องที่ยาวเกินจำเป็น
พอม้วนหน้าเข้าสู่เส้นเรื่องที่ควรจะแกนหลักของหนัง ก็กลับกลายเป็นเพียงแค่น้ำที่ไร้เนื้อ ถูกใส่เข้ามาแบบเซอร์วิสแฟนหนังบู๊อย่างไร้น้ำหนัก มีดีแค่เพียงการออกแบบฉากบู๊ที่ขึงขังและทำได้ถึงแค่เท่านั้น แต่กลับไม่มีเสน่ห์อะไรที่ชวนจดจำได้เลยสักนิดเดียว เป็นแค่เพียงการแตะต่อยต่อสู้เจ็บตัวกันทั่ว ๆ ไป ที่ไม่ได้ช่วยขับพลังของหนังเรื่องนี้ออกมาได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ทั้ง ๆ ที่ควรจะเป็นจุดขายที่โดดเด่นโดยแท้
อย่างที่เราเกริ่นไปว่า The Killer’s Game ค่อนข้างมีงานสร้างคิวบู๊ที่น่าพอใจ ก็เพราะว่าหัวเรือหลักของหนังก็คือสตันท์แมนเก่า ทำให้การใส่ใจในรายละเอียดดีไซน์ฉากบู๊ต่าง ๆ ทำออกมาได้ค่อนข้างมีดีเทลที่ชัดเจน และมุมภาพมุมกล้องก็ยังตอบรับได้ดีในหลาย ๆ ฉาก เรียกว่าน่าจะเป็นองค์ประกอบที่ดีที่สุดของหนังเรื่องนี้แล้ว
แคสติ้งนักแสดงที่ดูเหมือนว่าจะเป็นอีกจุดที่โดดเด่นไม่เบา แต่กลายเป็นว่า “เดฟ บอทิสต้า” ยืนหนึ่งในการแบกรับหนังทั้งเรื่องนี้เอาไว้…อย่างกระท่อนกระแท่น เพราะบทบาทที่เขาได้รับก็ซ้ำเดิมกับสิ่งที่เขาเคยสวมบทบาทมาแล้วจากผลงานก่อนหน้านี้ จึงทำให้ไม่มีอะไรน่าตื่นตาเลย และการแสดงของเขาก็อยู่ในระดับเดฟสร้าง จัดอยู่ในมาตรฐานเดิม ๆ ที่เขาเคยรับมือมันเอาไว้ได้ดี