ดูหนัง The Ice Road (2021) เหยียบระห่ำ ฝ่านรกเยือกแข็ง
หลังจากเกิดเหตุการณ์ถล่มของเหมืองเพชรแห่งหนึ่งที่ได้ตั้งอยู่ในแคนนาดา ซึ่งได้มีคนขับรถขุดเจาะแท่นน้ำแข็งจะต้องไปปฏิบัติภารกิจในการกู้ภัยที่มีแต่ความเป็นไปไม่ได้ในครั้งนี้ และสุดท้ายจะต้องพยายามเป็นอย่างมากเพื่อช่วยเหลือพวกคนงานที่ได้ติดอยู่ในเหมืองแห่งนี้ก่อนที่ทุกอย่างจะกลับกลายไปเป็นน้ำแข็ง การระเบิดที่เหมืองในแมนิโทบาทำให้คนงานเหมือง 26 คนติดอยู่ในเหมือง ไมค์ แม็คแคนและกูร์ตี้ น้องชายของเขาซึ่งเป็นทหารผ่านศึกสงครามอิรัก ที่ป่วยเป็นโรค PTSDและภาวะพูดไม่ได้ทำงานให้กับบริษัทขนส่งในนอร์ทดาโคตาจนกระทั่งไมค์ต่อยคนขับรถบรรทุกอีกคนเพราะล้อเลียนความพิการทางสติปัญญา ของกูร์ตี้ และทั้งคู่ก็ถูกไล่ออก ไมค์ได้ยินเรื่องต้องการคนขับรถบรรทุกบนน้ำแข็งในวินนิเพกและพวกเขาก็ยื่นใบสมัคร จิม โกลเดนร็อด คนขับรถบรรทุกอีกคน ตกลงที่จะเป็นผู้นำภารกิจกู้ภัยเพื่อนำหัวบ่อน้ำมันไปที่เหมือง เขาจ้างแม็คแคนและกูร์ตี้ พร้อมกับหญิงสาวชาวพื้นเมือง ที่รู้จักกันในชื่อแทนทู นอกจากนี้ ยังมีวาร์เนย์ นักคณิตศาสตร์ ประกันภัยที่รับผิดชอบการประเมินความเสี่ยงประกันภัยของ Katka ซึ่งเป็นบริษัทที่เป็นเจ้าของเหมือง เข้าร่วมภารกิจกู้ภัยด้วยเงิน 200,000 ดอลลาร์จะถูกแบ่งให้คนขับรถบรรทุกทั้งสี่คน ซึ่งจะนำไปแจกจ่ายให้กับผู้รอดชีวิตหากมีผู้เสียชีวิต ในขณะเดียวกัน คนงานเหมืองกำลังสื่อสารกับผู้บริหารของบริษัท Katka โดยใช้รหัสแตะและผู้จัดการทั่วไปของบริษัท Katka คุณ Sickle ส่งข้อความว่าพวกเขาวางแผนที่จะปล่อยคนงานโดยการระเบิดอุโมงค์
อ่านรีวิวก่อน ดูหนัง
นักแสดง
Liam Neeson เลียม นีสัน
Benjamin Walker
Amber Midthunder
ผู้กำกับ : โจนาธาน เฮนส์ลีย์
รีวิว The Ice Road (2021) เหยียบระห่ำ ฝ่านรกเยือกแข็ง
beartai
ว่าด้วยเรื่องของ ‘ไมก์’ (Liam Neeson) คนขับรถบรรทุก 18 ล้อตกอับ ได้รับการติดต่อให้ทำงานเมื่อเหมืองเพชรใต้ดิน ‘วินนีเพ็ก’ ที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศแคนาดาที่ปกคลุมไปด้วยหิมะและน้ำแข็งเย็นยะเยือก เกิดเหตุพายุหิมะจนทำให้เหมืองถล่มปิดตาย คนงาน 26 คนต้องติดอยู่ในเหมือง
ไมก์และ ‘จิม’ (Laurence Fishburne) จึงต้องนำขบวนรถบรรทุก ซิ่งข้ามมหาสมุทรเยือกแข็งระยะทางกว่า 300 ไมล์ ที่กำลังจะละลาย ฝ่าภูมิประเทศและภูมิอากาศที่โหดร้ายอย่างกับนรกภายในระยะเวลาจำกัดเพียง 30 ชั่วโมง เพื่อขนส่งบางสิ่งบางอย่างไปช่วยคนงานในเหมืองใต้ดินให้รอดตาย ซึ่งนอกจากพวกเขาจะต้องต่อสู้กับภัยธรรมชาติที่ยากต่อการเอาชนะแล้ว ก็ยังมีภัยบางอย่างที่กำลังจะมาทำให้ภารกิจยากยิ่งกว่าเดิมเข้าไปอีก
หรือ ‘เหยียบระห่ำ ฝ่านรกเยือกแข็ง’ ในชื่อภาษาไทย เป็นผลงานการกำกับของ ‘โจนาธาน เฮนสเลก’ (Jonathan Hensleigh) ผู้กำกับและผู้อำนวยการสร้างที่เคยผ่านงานแอ็กชันที่เรียกได้ว่าแต่ละเรื่องนี่ ถือว่าระดับเป้ง ๆ ทั้งนั้น ตั้งแต่ ‘Con Air’ (1997), ‘Armageddon’ (1998) และ ‘Gone in 60 Seconds’ (2000) พร้อมกับ ‘มาร์ก เวนสโลว์’ (Mark Vanselow) สตันต์และนักออกแแบบคิวบู๊คู่ใจลุงเลียม นีสันมาร่วมออกแบบงานแอ็กชันเย็นยะเยือกในครั้งนี้ด้วย แล้วที่สำคัญคือ ตอนนี้ Netflix รีบประมูลหนังเอาเข้ามาให้ดูกันผ่านทางสตรีมมิงเรียบร้อยแล้วด้วย แต่ว่าตอนนี้น่าจะดูได้เฉพาะในต่างประเทศนะครับ Netflix ภาษาไทยยังไม่มี
แต่แม้ว่ามันจะมีให้ดูกันผ่านสตรีมมิง (ส่วนของไทยก็น่าจะเร็ว ๆ นี้แหละ) แต่สิ่งที่ผู้เขียนเองอยากแนะนำก็คือ หนังเรื่องนี้เป็นหนังที่เหมาะกับการดูในโรงภาพยนตร์ครับ ไม่ได้ว่าจะอะไรนะครับ แต่ด้วยแอ็กชันของตัวหนังที่่ว่าด้วยเรื่องของการทำภารกิจผจญภัยสไตล์บู๊บนรถบรรทุก ภายใต้บรรยากาศเย็นเยือกแข็งแบบนี้ การดูในโรงน่าจะเป็นอะไรที่เหมาะมาก ๆ เพราะนอกจากจะได้ซึมซับภาพและเสียงแอ็กชันได้อย่างเต็มที่แล้ว น่าจะได้ซึมซับกับแอร์โรงหนังที่น่าจะหนาวสู้กับความหนาวในหนังได้อะไรแบบนั้นเลย น่าจะได้บรรยากาศไปอีกแบบ (แซวนะครับ 555)
entertainment
เหยียบระห่ำ ฝ่านรกเยือกแข็ง เป็นเรื่องราวของ ไมค์ คนขับรถบรรทุก 18 ล้อมากประสบการณ์ ที่ต้องฝ่ามรสุมเข้าไปช่วยชีวิตชาวเหมือง หลังจากเหมืองเพชรที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของแคนาดาเกิดถล่ม เขาต้องเร่งนำทีมกู้ภัยซิ่งข้ามมหาสมุทรอันเยือกแข็งเพื่อช่วยเหลือชาวเหมืองที่ติดอยู่ใต้ดินก่อนที่ออกซิเจนจะหมดลง พร้อมฝ่าทุกอุปสรรคเพราะสภาพอากาศที่เลวร้ายไม่ใช่อันตรายเพียงหนึ่งเดียวที่เขาต้องเผชิญหน้าและรับมือ
ตลอดระยะเวลาชั่วโมงครึ่งของหนังเรื่องนี้ได้สร้างบรรยากาศอันหนาวเหน็บส่งถึงคนดูได้อย่างน่าเชื่อ แม้ว่าหลายๆ องค์ประกอบของหนังเรื่องนี้จะดูเรียบง่ายและง่ายดายไปเสียหมด ไม่ว่าจะเป็นบทหนังที่มากับพล็อตเรื่องง่ายๆ ไม่ได้เน้นรายละเอียดมากมาย เหมือนกับพวกหนังแอคชั่นทุนต่ำหรือหนังเกรดบีไปเสียหน่อย แต่พล็อตง่ายๆ ของเขาก็ทำให้คนดูสามารถย่อยเรื่องราวได้ง่ายๆ เช่นเดียวกัน
แน่นอนว่าหนังได้เน้นที่ตัวละครที่ “เลียม นีสัน” รับบทเป็นหลัก แม้ว่าจะพยายามสร้างมิติให้กับคาแรกเตอร์ของเขา แต่ก็ยังตื้นเขินไปเสียส่วนใหญ่ จะกล่าวได้ว่านี่น่าจะเป็นบทบาทสไตล์ฮีโร่คนเก่งกาจของลุงเลียม ที่มีเลือดเนื้อและจิตใจมากกว่าเรื่องอื่นๆ เพราะเขาไม่ใช่ฮีโร่ที่สู้สุดใจและเก่งเหนือลุงเลย บทบาทที่ตีความออกมาก็แค่เป็นโชเฟอร์บรรทุกธรรมดาๆ ที่ชกต่อยไม่ได้หมัดเหมาอะไร เพียงแต่เลือกขับเคลื่อนด้วยโทสะแบบมนุษย์