ดูหนัง The Covenant (2023) เดอะ โคเวแนนท์
ผลงานล่าสุดของ กาย ริชชี่ ‘เจค จิลเลนฮาล’ ลุยเดี่ยวถล่มทั้งกองทัพ เพื่อช่วยเพื่อนคนเดียว! ภารกิจสุดระทึก ฝ่าสมรภูมิเดือด!! ในเดือนมีนาคม 2018 ท่ามกลางสงครามในอัฟกานิสถานจ่าสิบเอก จอห์น คินลีย์แห่ง กองกำลังพิเศษของกองทัพบกสหรัฐฯ และหน่วยของเขาถูกซุ่มโจมตีโดยระเบิดรถบรรทุกที่วางแผนโดยกลุ่มตาลีบันระหว่างการตรวจสภาพรถ ตามปกติ ที่ลาชการ์กาห์ซึ่งทำให้ล่ามของเขาเสียชีวิต เขาต้องการคนมาแทนที่ จึงได้รู้จักกับอาเหม็ด อับดุลลาห์ ล่ามที่มั่นคงแต่ไม่เป็นที่ชื่นชอบ ซึ่งอ้างว่าเขาทำงานนี้เพื่อเงินเท่านั้น ในระหว่างภารกิจจับกุมลับ คินลีย์ได้รู้ว่าอาเหม็ดเคยเกี่ยวข้องกับกลุ่มตาลีบันผ่าน การค้า ฝิ่นแต่ได้แปรพักตร์ไปเมื่อกลุ่มตาลีบันสังหารลูกชายของเขา ต่อมาอาเหม็ดช่วยทีมของคินลีย์จากการถูกซุ่มโจมตีโดยหน่วยตาลีบันที่ได้รับความช่วยเหลือจาก ทหาร กองทัพแห่งชาติอัฟกานิสถาน ที่มีปัญหาด้านจิตใจ ทำให้คินลีย์ได้รับความเคารพ
อ่านรีวิวก่อน ดูหนัง
นักแสดง
Jake Gyllenhaal เจค จิลลินฮาล
Dar Salim
Antony Starr
ผู้กำกับ : กาย ริทชี่
รีวิว The Covenant (2023) เดอะ โคเวแนนท์
entertainment
ถึงคิวผลงานใหม่อีกเรื่องหนึ่งของผู้กำกับ “กาย ริตชี” ที่ได้มีโอกาสลงโรงฉายในเมืองไทยแบบชนกันทั้งสองเรื่อง (อีกเรื่องก็คือ Operation Fortune: Ruse de guerre) ในสัปดาห์กลางเดือนเมษายน และเรื่องนี้คือ ที่มาพร้อมกับโหมดขึงขัง พกกองกำลังทหารสหรัฐฯ มาอย่างมาดแมน แต่เนื้อแท้ของหนังเรื่องนี้สอดแทรกไปด้วยประเด็นมิตรภาพ ความหวัง และโอกาสในสงคราม ที่เผลอ ๆ อาจจะต้องเสียน้ำตาให้ด้วย
เป็นเรื่องราวของ จ่าสิบเอก จอห์น คินลีย์ กับ อาเหม็ด ล่ามภาษาชาวอัฟกัน ที่ต้องระหกระเหินฝ่าฟันดงตาลีบานร่วมกัน หลังจากกองกำลังของพวกเขาได้ถูกซุ่มโจมตีอย่างหนักหน่วง โดยที่อาเหม็ดได้พยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อที่จะช่วยชีวิตจอห์นเอาไว้ให้ได้ แต่เมื่อจอห์นฟื้นขึ้นมาทราบว่า อาเหม็ดยังคงหลบ ๆ ซ่อน ๆ อยู่ที่อัฟกานิสถาน ที่ตาลีบานได้หมายหัวเขาเอาไว้จากวีรกรรมที่เขาได้ช่วยเหลือทหารอเมริกันเอาไว้ ทำให้เขาเลือกที่จะกลับไปสู่สมรภูมิตัวเองอีกครั้ง เพื่อช่วยเหลือ…เพื่อนร่วมรบ
และก็อีกเช่นเคย ก็ยังคงเป็นผลงานการเขียนบทหนังของ 3 ทหารเสือหน้าคุ้น กาย ริตชี ร่วมด้วย อิแวน แอตคินสัน กับ มาร์น เดวีส์ ที่พวกเขาทั้งสองคนต่างจับมือกันเขียนบทและพัฒนาบทมาด้วยกันในผลงานหลาย ๆ เรื่องนี้ สำหรับในหนังเรื่องนี้นั้นถือว่ามีกลิ่นอายที่ต่างไปจากงานเดิมของพวกเขาอยู่ไม่น้อย แม้ว่ามันจะยังสอดแทรกกลิ่นอายความเป็นหนังสุภาพบุรุษแนวถนัดอยู่ไปบ้าง แต่กับมีเส้นเรื่องและองค์ประกอบอื่นที่หนักแน่นยิ่งกว่า
โดยจะว่าไปแล้ว ถือว่าเป็นหนังที่มีซีนและท่วงท่าที่เชิดชูกองทัพสหรัฐฯ อยู่ไม่เบา แต่พวกเขาก็ไม่ได้ทำออกมาเป็นหนังกองทัพจ๋า ๆ แบบชวนเลี่ยนอะไรทำนอง แต่กลับสดุดหน้าที่เล็ก ๆ ที่สำคัญในสงครามกับตาลีบานที่น่าจะถูกมองข้ามไป อย่างเจ้าหน้าที่ล่ามภาษาท้องถิ่น ที่ถือว่าเป็นหนึ่งในกองกำลังที่เสียสละและเสี่ยงชีวิตกับการอยู่รอดในสังคม เพื่อมาทำหน้าที่ในการแปลภาษาให้กับฝ่ายศัตรูของบ้านเกิดของพวกเขา
ต้องยอมรับว่าพล็อตเรื่องง่าย ๆ ของหนังเป็นจุดที่ทำให้มันเวิร์กได้ดี เมื่อมาผนวกเข้ากับการเล่าเรื่องที่ไม่ได้มีอะไรซับซ้อน จึงกลายเป็นหนังแอคชั่นทางการทหารที่ดูได้สนุกเพลินเอาการ เนื้อเรื่องค่อน ๆ ทวีคูณความเข้มข้นตามลำดับขั้นของสถานการณ์ที่หนังสร้างขึ้นมาในแต่ละซีน ถึงมันจะยังมีจุดที่เกินจริงและไม่สมเหตุสมผลปะปนอยู่ไปบ้าง แต่หนังก็มอบความบันเทิงแบบที่ผู้ชมต้องการได้เป็นอย่างดี