ดูหนัง The Coldest Game (2019) เกมลับสงครามเย็น
ในช่วงวิกฤตการณ์ขีปนาวุธคิวบาปี 1962 นักคณิตศาสตร์อัจฉริยะปัญหารุมเร้าได้รับมอบหมายให้เดินหมากชี้ชะตาสหรัฐอเมริกาและสหภาพโซเวียต พร้อมเดินเกมในแผนจารกรรมสุดอันตราย เจ็ดวันก่อนหน้านี้ นักเล่นหมากรุกชาวอเมริกันกำลังเล่นโป๊กเกอร์และปิดข่าวเกี่ยวกับการแข่งขันหมากรุกที่กำลังจะมีขึ้นระหว่างอเล็กซานเดอร์ กาฟรีลอฟแห่งสหภาพโซเวียตและโคนิกส์เบิร์กแห่งสหรัฐอเมริกา เขาชนะและได้รับส่วนแบ่งจากบาร์เทนเดอร์ที่คอยจับคู่ให้เขาเล่นกับผู้เล่นที่อ่อนแอกว่าเป็นประจำ เอเจนต์สโตนเข้าไปหาผู้เล่นหมากรุก โดยอ้างว่าจำเขาได้ว่าเป็นโจชัว แมนสกี้ นักคณิตศาสตร์ผู้ชาญฉลาดและอดีตแชมป์หมากรุก แมนสกี้ไม่สนใจและเดินออกไป แต่ถูกเอเจนต์ไวท์จับตัวไปและวางยา หัวหน้าปฏิบัติการ เอเจนต์โนวัค สอบปากคำแมนสกี้ผู้มีพรสวรรค์แต่เอาแน่เอานอนไม่ได้ ซึ่งเอาชนะโคนิกส์เบิร์กเมื่อ 20 ปีก่อน ในห้องปลอดภัย
อ่านรีวิวก่อน ดูหนัง
นักแสดง
Bill Pullman บิลล์ พูลแมน

Lotte Verbeek

James Bloor

ผู้กำกับ : Łukasz Kośmicki
รีวิว
playinone
จากการรับชมตัวอย่างนับมีเค้าโครงที่น่าสนใจอยู่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล่าหรือโทนของภาพยนตร์ที่ดูเปี่ยมไปด้วยคุณภาพ การอิงเรื่องราวในประวัติศาสตร์ทำให้ภาพยนตร์ดูสมจริงมากยิ่งขึ้น รวมถึงการเล่นประเด็นโดยมีหมากรุกเป็นตัวเชื่อมโยงทำให้มีความน่าสนใจเป็นอย่างมาก ความคาดหวังมีค่อนข้างสูงเลยทีเดียว มาดูกันเถอะครับว่าจะเป็นไปตามที่เราหวังไว้หรือไม่ บอกก่อนว่าบทความนี้มีการสปอยล์เล็กน้อยนะครับ
ตามความรู้สึกของผมนะครับ พบว่า…ตามคาดในหลายส่วน บทภาพยนตร์ว่าด้วยการดำเนินเรื่องราวและเนื้อเรื่องมีความน่าสนใจเป็นอย่างมาก เรียกว่าทางผู้เขียนบทอย่าง Lukasz Kosmicki และ Marcel Sawicki ทำการบ้านมาดีมากเลยครับ ทั้งสองคนได้มีการประสานเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริงในประวัติศาสตร์ เชื่อมกับสถานการณ์ภายในภาพยนตร์ได้อย่างสมจริง ในขณะที่การแข่งขันหมากรุกมีเรื่องลับลมคมในอยู่ ช่วงที่เกิดผลกระทบกับพวก Joshua Mansky ก็เกิดเช่นเดียวกับสถานการณ์โลกภายนอก การเชื่อมโยงเรียกว่าสัมพันธ์กันอย่างเห็นได้ชัด จนบางครั้งเรารู้สึกถึงการเล่าเรื่องที่ชาญฉลาดและไม่สูญเสียสารภายในเรื่องเลยแม้แต่น้อย นี่เป็นจุดเด่นที่เห็นได้ชัดในภาพยนตร์เรื่องนี้
นอกจากนั้นภาพยนตร์เรื่องนี้ยังมีมุมกล้องที่ทำออกมาได้ดีงามมาก หลายฉากดูจัดองค์ประกอบได้ดี รวมถึงมีการนำเสนอภาพได้ดูย้อนยุคอย่างสมจริง ความรู้สึกที่เราได้รับราวกับกำลังชมเหตุการณ์จริงภายในช่วงยุคนั้นเลยละครับ ในงานด้านภาพจะไม่ดีขนาดนี้หากขาดการลำดับภาพที่ดีไป การลำดับภาพภายในเรื่องทำออกมาได้เข้ากับบทภาพยนตร์ สถานการณ์สองสถานการณ์มีความสอดคล้องกันเรื่อยมา การเริ่มจุดไฟทีละนิดจนนำไปสู่บทสรุปที่อันแข็งแรงในช่วงท้ายเรื่อง นั่นส่งผลให้สองส่วนผสมนี้ทำออกมาค่อนข้างลงตัวเลยละครับ