ดูหนัง The Bubble (2022) วิกฤตไวรัส กองถ่ายหรรษา
เรื่องราวของเหล่านักแสดงที่ถูกทางสตูดิโอบังคับให้ถ่ายทำหนังภาคต่อยอดฮิตอย่าง “Cliff Beasts 6” ให้เสร็จ แต่เนื่องจากเหตุการณ์ในหนังอยู่ในช่วงที่โรค COVID-19 ระบาดอย่างหนัก ทำให้นักแสดงทุกคนต้องมากักตัวอยู่ที่โรงแรมเดียวกันเพื่อถ่ายทำหนังดังกล่าว โดยสถานที่นี้ถูกเรียกว่า เป็นสถานที่ ที่ปลอดภัยจากโรค COVID-19 มากที่สุดในโลก มีเจ้าหน้าที่สาธารณะสุขคอยดูแลอยู่ตลอด สถานที่นี้ถูกสร้างมาเพื่อสำหรับใช้ในการถ่ายทำหนังโดยเฉพาะ หนังก็จะให้เราได้ดูว่านักแสดงพวกนี้อยู่กันยังไง ต้องเจอกับอะไรบ้างจากการถูกบังคับให้ถ่ายหนัง และไม่ให้กลับบ้านจนกว่าจะถ่ายเสร็จ หลังจากบทบาทภาพยนตร์ที่มีปัญหาซึ่งเกือบทำลายอาชีพการงานของเธอ นักแสดงหญิงแครอล ค็อบบ์ ได้รับโอกาสในการฟื้นคืนอาชีพของเธอโดยกลับมารับบทฮีโร่ ดร. เลซีย์ ไนติงเกล อีกครั้งในภาคที่ 6 ของ แฟรนไชส์ Cliff Beasts ที่ได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม : Cliff Beasts 6: Battle for Everest – Memories of a Requiemหลังจากปฏิเสธที่จะปรากฏตัวในภาคที่ 5 เพื่อรับบทที่ถูกวิจารณ์ข้างต้น ในตอนแรกแครอลกลัวว่าอดีต นักแสดง Cliff Beastsอาจมีความแค้นเคืองต่อเธอ
อ่านรีวิวก่อน ดูหนัง
นักแสดง
Karen Gillan คาเรน กิลแลน

Vir Das

Pedro Pascal

ผู้กำกับ : จัดด์ อพาโตว์
รีวิว
playinone
หนังตลกที่เหมือนคิดมุกสดล้อเลียนการทำหนังในช่วงระบาดโควิด 19 ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องใหม่เพราะมีหลายเรื่องก็เอาช่วงโควิดมาเล่นเป็นมุกตลกมาก่อนแล้ว แต่เรื่องนี้ดูจะจริงจังกับการล้อเรื่องโควิดกันสุดๆ กว่าเรื่องไหน เพราะล้อตั้งแต่พล็อตเรื่องที่ว่าด้วยการสร้างหนังภาคต่อไดโนเสาร์บินได้กินคนที่มีมาแล้ว 5 ภาค ที่ดูก็รู้ว่าล้อเลียนจูราสสิคพาร์คกันตรงๆ โดยอ้างว่าถ้าไม่ทำหนังออกมาอุตสาหกรรมภาพยนตร์ของฮอลลีวู๊ดต้องมีอันล่มจมแน่ ซึ่งเรื่องนี้ก็เลือกโลเกชั่นการระบาดไปที่อังกฤษเมื่อ 2 ปีก่อน แล้วบังคับให้ดารานักแสดงในเรื่องต้องอยู่ในโรงแรมถ่ายทำเรื่องนี้ในแบบมาตรการป้องกันโควิดสุดๆ ที่เรียกว่า “บับเบิล” คือเซฟทุกอย่างให้ปลอดภัยไม่ให้โควิดมาทำลายการถ่ายทำนี้ได้ แต่ในอีกนัยนึงก็คือทางสตูดิโอจับพวกนักแสดงมาขังบังคับเล่นหนังเรื่องนี้ให้จบในสภาวะการกักตัวถ่ายทำที่เลวร้ายขั้นสุดยอด
สิ่งที่ฮาในเรื่องนี้จริงๆ แล้วไม่ใช่มุกเรื่องโควิดสักเท่าไหร่ เพราะส่วนนี้เป็นแค่โครงหลวมๆ หุ้มเรื่องนี้ไว้เหมือนบับเบิลที่รอวันแตกแน่ๆ เท่านั้น แต่เป็นความฮาจากความติ๊งต๊องการถ่ายทำหนังคลิฟบีสต์ในเรื่องมากกว่า ส่วนนึงเลยที่ฮาก็เพราะมันพยายายามล้อจูราสสิคปาร์คหลายอย่างแบบทุนต่ำ ด้วยการเล่นกับเบื้องหลังกรีนสกรีนโดยมีคนแต่งเป็นไดโนเสาร์หลอกๆ ไว้เป็นเป้าสายตาของนักแสดง ซึ่งมันก็คือเบื้องหลังการถ่ายทำของหนังจูราสสิคปาร์คจริงๆ แต่ถูกนำมาทำให้ฮาจากคนเบื้องหลังฉาก โดยมีฉากจริงที่ทำให้เสร็จแล้วให้ดูก่อนตัดมากรีนทสกรีน และบทหนังไดโนเสาร์ที่ทำออกมาก็เจาะกลุ่มเด็กดู จนบทจะเขียนยังไงก็ได้ แบบมีไดโนเสาร์ออกมาเต้นลงติ๊กต็อกแบบนี้หน้าตาเฉย หรือฉากยิงเจี๊ยวไดโนเสาร์เพราะมันเป็นจุดอ่อนงี้ ซึ่งก็ชวนให้ขำได้อยู่เรื่อยๆ ตัวนักแสดงก็ต้องทนเล่นกับบทหนังพิลึกๆ แบบนี้จนทำเอาสติแตกตามไปด้วย แต่ก็แย้งไม่ได้เพราะผู้กำกับสั่งมายังไงก็ต้องเล่น กลายเป็นสะสมความไม่พอใจไว้รอระเบิดในตอนท้ายด้วยการรวมตัวหนีจากบับเบิล ซึ่งก็พยายามทำให้เป็นไคลเม็กซ์งบจำกัดทุนต่ำ แต่ก็มีอะไรพอให้ขำอยู่นิดๆ ได้เหมือนกัน
ที่ฮาอีกส่วนคือการต่อสู้กันของทีมงานผู้สร้างที่พยายามกักตัวนักแสดงไม่ให้หนีออกกอง โดยใช้การป้องกันที่เว่อร์เกินจริงเหมือนสนามรบ มีแสงอินฟาเรดดักจับพื้นที่นอกโรงแรมกันคนหนี มีกระทั่งใช้ปืนจริงยิงนักแสดงที่พยายามหนีจนเนื้อกระจุยด้วยก็มี ตัวหนังจึงติดเรต R ไม่ใช่แค่เพราะมุกตลกลามกเท่านั้น แต่มีความรุนแรงจากแหวะกับฉากหวาดเสียวด้วย แต่ฉากเหล่านั้นก็ถูกทำออกมาให้เป็นตลกล้วนๆ ซึ่งก็พอขำๆ ได้อยู่