Steven Strait สตีเวน สเตรต 

ผลงานภาพยนตร์

After (2012)

ในปี 2012 อาน่า พยาบาลที่เคยอยากเป็นนักเขียน ได้พบกับเฟรดดี้ นักวาดการ์ตูนผู้ใฝ่ฝัน บนรถบัส แม้ว่าอาน่าจะไม่แยแสต่อ แต่เฟรดดี้ก็ยังคงพูดคุยต่อไป ทั้งสองรู้สึกประหลาดใจเมื่อพบว่าพวกเขาอาศัยอยู่บนถนนสายเดียวกันในเมืองเล็กๆ แต่ก่อนที่พวกเขาจะได้คุยกันต่อ รถบัสก็ประสบอุบัติเหตุ แอนน่าตื่นขึ้นบนเตียงเพราะไปทำงานสาย เมื่อเธอมาถึงโรงพยาบาล ดูเหมือนว่าโรงพยาบาลจะร้างผู้คน แต่เธอก็พบบันทึกเสียงลึกลับที่ฟังแทบไม่เข้าใจ แม้ว่าในตอนแรกเมืองจะดูว่างเปล่า แต่เสียงเพลงที่ดังก็ดึงดูดเธอให้ไปที่บ้านของเฟรดดี้ หลังจากเปรียบเทียบประสบการณ์แล้ว ทั้งสองก็ออกเดินทางสำรวจเมือง

 

Life Like (2017)

เจมส์ทำงานที่กองทุนทรัสต์ที่พ่อของเขาเป็นผู้ดูแล หลังจากพ่อของเขาเสียชีวิต เขาจึงได้กลายมาเป็นซีอีโอของบริษัท เจมส์และโซฟีภรรยาของเขาจึงย้ายออกจากเมืองไปอยู่คฤหาสน์ชานเมือง โซฟีไม่ได้ทำงานและใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ที่บ้าน เธอรู้สึกไม่สบายใจที่เจมส์มีพ่อบ้าน แม่บ้าน และพ่อครัว เธอจึงไล่พวกเขาออก เจมส์และโซฟีพบกับจูเลียน ชายที่ขาย หุ่นยนต์ อัจฉริยะเพื่อใช้เป็นคนรับใช้ในบ้าน ทั้งคู่เลือกหุ่นยนต์เพศ ชาย ชื่อเฮนรี่ ซึ่งทำหน้าที่ตามคำสั่งต่างๆ ในบ้านอย่างเชื่อฟัง อย่างไรก็ตาม เฮนรี่เริ่มมีอารมณ์และมีความฝันเมื่อได้รับกำลังใจจากโซฟีที่อ่านหนังสือให้เขาฟัง

 

10000 BC (2008) บุกอาณาจักรโลก 10000 ปี

ท่ามกลางชนเผ่าชาวเขาอันไกลโพ้น นักล่าวัยหนุ่ม ดี เลห์ (สตีเวน สเตรท) ได้ค้นพบปรารถนาแห่งหัวใจ สาวงามนามว่าเอโวเล็ท (คามิลลา เบล) เมื่อบรรดานักรบลึกลับบุกเข้ายึดหมู่บ้านของเขาและลักพาตัวเอโวเล็ทไป ดี’เลห์ถูกบังคับให้เป็นผู้นำกลุ่มนักล่าจำนวนหยิบมือในการไล่ล่าพวกนักรบไปยังสุดขอบโลกเพื่อช่วยชีวิตเธอ ด้วยแรงขับแห่งโชคชะตา เหล่านักรบจำเป็นจะต้องเผชิญกับเสือเขี้ยวดาบ และสัตว์ร้ายยุคก่อนประวัติศาสตร์ และได้ค้นพบอารยธรรมที่สูญหายในตอนจบของการเดินทางอันกล้าหาญของพวกเขา ชะตาชีวิตที่ท้าทายของพวกเขาขึ้นอยู่กับอาณาจักรที่เหนือจินตนาการซึ่งมีกลุ่มปิรามิดสูงเสียดฟ้า ณ ที่นั้นพวกเขาจะต้องต่อกรกับเทพเจ้าทรงอำนาจซึ่งทำให้ผู้คนต้องตกเป็นทาสอย่างทารุณ ในยุคก่อนประวัติศาสตร์ แถบหุบเขา นักล่าวัยหนุ่ม ดี’เลห์ (สตีเวน สเตรท) ได้พบรักกับเอโวเล็ท (คามิลลา เบล) เมื่อบรรดานักรบลึกลับคุกคามหมู่บ้านของเขา และลักพาตัวเอโวเล็ตไป ดี’เลห์ถูกบังคับให้เป็นผู้นำกลุ่มนักล่าจำนวนไม่มาก ในการไล่ล่าเพื่อช่วยชีวิตเธอ และได้ผจญภัยในดินแดนที่ไม่รู้จักที่ดินแดนที่มีอารยธรรมที่เหนือกว่าพวกเขา กลุ่มนักล่าพบว่ามีอีกหลายชนเผ่า ที่ยอมเข้าเป็นแนวร่วมคนพวกนี้ ได้เคยถูกรุกรานจากบรรดากลุ่มนักรบที่ล่าทาส ทำให้นักล่าที่เคยเป็นกลุ่มเล็กๆ ของดี’เลห์ ได้กลายเป็นกองทัพไปเสียแล้ว