ดูหนัง Room (2015) ขังใจไม่ยอมไกลกัน
เล่าถึงขีวิตของ แจ๊ค เด็กอายุ 5 ขวบที่อยู่กับแม่ตามลำพัง แม่ของเขาพยายามปกป้องลูกที่เขารักด้วยความอบอุ่น เขาพยายามบอกกับแจ็คว่าห้องแคบๆ ที่เราอยู่นี้คือโลกทั้งใบของเรา ซึ่งแท้ที่จริงแล้วตัวแจ๊คและแม่นั้นถูกจับมาขังไว้ในห้องนี้จากฝีมือของคนร้ายโรคจิต ทั้งสองจึงพยายามวางแผนเพื่อที่จะหนีออกมาจากห้องนั้นให้ได้ ในเมืองแอครอน รัฐโอไฮโอจอย นิวซัม วัย 24 ปี และแจ็ค ลูกชายวัย 5 ขวบของเธอ อาศัยอยู่ในโรงเก็บของโทรมๆ ที่พวกเขาเรียกว่า “ห้อง” พวกเขาใช้เตียง ห้องน้ำ อ่างอาบน้ำ โทรทัศน์ และห้องครัวแบบหยาบๆ ร่วมกัน หน้าต่างบานเดียวคือช่องแสงบนหลังคา พวกเขาตกเป็นเชลยของชายคนหนึ่งที่พวกเขาเรียกว่า “นิคแก่” ซึ่งเป็นพ่อแท้ๆ ของแจ็ค ผู้ซึ่งลักพาตัวจอยไปเมื่อเจ็ดปีก่อน และข่มขืนเธอเป็นประจำในขณะที่แจ็คนอนหลับอยู่ในตู้เสื้อผ้า แจ็คคือผลผลิตจากการข่มขืน เธอพยายามมองโลกในแง่ดีสำหรับลูกชายของเธอ แต่เธอกลับต้องทนทุกข์กับภาวะทุพโภชนาการและภาวะซึมเศร้า เธอทำให้แจ็คเชื่อว่ามีเพียงห้องและสิ่งที่อยู่ในนั้นเท่านั้นที่เป็นจริง และโลกที่เหลือมีอยู่เพียงในโทรทัศน์เท่านั้น
อ่านรีวิวก่อน ดูหนัง
นักแสดง
Brie Larson บรี ลาร์สัน

Jacob Tremblay

Joan Allen

ผู้กำกับ : Lenny Abrahamson
รีวิว Room (2015) ขังใจไม่ยอมไกลกัน
Review-me
ชีวิตของคู่แม่ลูกที่ถูกกักขังไว้ในห้องแคบๆเป็นเวลาหลายปี กระทั่งวันหนึ่งก็สามารถพากันหลบหนีออกมาได้ ซึ่งช่วงแรกพูดถึงโลกภายในห้องเล็กๆที่มีห้องน้ำ พื้นที่ทำครัว และเตียงนอน อัดแน่นเบียดเสียดกัน แต่ในสายตาฝั่งลูกที่อยู่กับมันมาตั้งแต่เกิด มองว่าคือโลกแห่งความจริง ที่เต็มไปด้วยความสนุก การปลดปล่อยจินตนาการ โลกที่มีเพียงเขากับแม่ กระทั่งทั้งคู่หลบหนีออกมาเผชิญโลกกว้างที่กลายเป็นรอยต่อแห่งการข้ามผ่านครั้งสำคัญ ที่บางอย่างกลับดูเลวร้ายลงโดยเฉพาะฝั่งแม่ที่ต้องมาเห็นครอบครัวแตกหักหลังจากเธอถูกลักพาตัว กลายเป็นการตอกย้ำตราบาปในใจเธอ ขณะเดียวกันฝั่งลูกก็ต้องพยายามปรับตัวต่อโลกใบใหม่ ที่เต็มไปด้วยสิ่งที่เขาไม่รู้และต้องค้นหาคำตอบ
ทำเรื่องเล่นให้เป็นเรื่องใหญ่
หนังที่ถูกสร้างขึ้นจากนิยายขายดีของ เอ็มม่า โดโนฮิว ซึ่งบ้านเราถูกแปลออกมาแล้วในชื่อ ‘เด็กชายในห้องปิดตาย’ตัวหนังเล่าถึง จอย หญิงสาวที่ถูกชายโรคจิตจับตัวมาขังเอาไว้ในห้องเล็กๆ ห้องหนึ่ง และข่มขืนเธอจนเธอคลอดลูกชายที่ชื่อว่า แจ็ค ออกมา โดยที่แจ็คนั้นไม่เคยออกจากห้องเล็กๆ ห้องนั้นเลยตั้งแต่เขาเกิดมาในหนังเรื่องนี้ มีเหตุการณ์ต่างๆ เกิดขึ้นไม่มากเท่าไหร่ แต่ความน่าสนใจของ อยู่ที่ รายละเอียดในเชิงลึก ของตัวละครสองแม่ลูก ที่ทำออกมาได้อย่างน่าสนใจ
ความเข้มข้น ของหนังเรื่องนี้มากองอยู่ที่ครึ่งเรื่องแรกซะเยอะ โดยเฉพาะ จุดพลิกผัน ในช่วงกลางเรื่องที่บีบคั้นอารมณ์สุดๆส่วนครึ่งหลังของเรื่อง จะเน้นไปที่การเผยให้เห็น ปมในใจ ของตัวละครหลักทั้งสองคน ซึ่งแม้จะเป็นเรื่องที่น่าสนใจ แต่ด้วยสถานการณ์ที่ไม่ตึงเครียดเท่าครึ่งแรก กราฟอารมณ์ของหนังในครึ่งหลังก็เลยค่อนข้างดรอปลงพอสมควร
ส่วนตัวแล้ว ผมคิดว่าประเด็นที่น่าสนใจมากๆ ของหนังเรื่องนี้ก็คือ มุมมองที่มีต่อโลก ของแจ็ค เด็กชายที่ใช้เวลา 5 ปีแรกในชีวิตของเขาให้ห้องปิดตาย และเข้าใจโลกทั้งใบผ่านทางทีวีเก่าๆ เครื่องเดียวและนั่นก็เป็นความลำบากของ แม่ อย่างจอย ที่ต้องทนแบกรับความทุกข์ทรมานไปพร้อมๆ กับที่ต้องพยายามใช้ ‘จินตนาการ’ ของตัวเองในการสอนให้ลูกได้เข้าใจโลกทั้งใบ ในสถานการณ์ที่เต็มไปด้วยข้อจำกัด เพื่อให้แจ็คเติบโตขึ้นมาอย่างปกติที่สุด
แน่นอนว่าสิ่งที่ต้องชื่นชมมากๆ ในหนังเรื่องนี้ก็คือการแสดงของ บรี ลาร์สัน และ เจค๊อบ เทรมเบลย์ ที่ถ่ายทอดตัวละครสองแม่ลูก จอย และ แจ็ค ออกมาได้อย่างลึกซึ้งในภาพรวม ผมคิดว่า ก็เป็นหนังคุณภาพอีกเรื่องหนึ่งที่ดีสมราคาหนังที่เข้ารอบสุดท้ายออสการ์ปีนี้ แต่ส่วนตัว ผมก็ยังรู้สึกว่าหนังเรื่องนี้ยังเป็นรองหนังเรื่องอื่นที่เข้ารอบมาด้วยกันอยู่พอสมควร
สำหรับสาขานำแสดงหญิง ผมยังไม่ได้ดูฝีมือการแสดงของผู้เข้าชิงอีก 4 คน ก็เลยยังบอกอะไรมากไม่ได้ แต่ส่วนตัวผมชอบการแสดงของ บรี ลาร์สัน มาตั้งแต่เรื่อง Short Term 12 แล้ว และก็ค่อนข้างเชียร์เธอสำหรับบทบาทที่ท้าทายของเธอในครั้งนี้ครับ