paradise hawaiian style (1966) ดูหนัง
paradise hawaiian style (1966) ดูหนัง Rick Richards (Presley) กลับไปบ้านที่ฮาวายหลังจากถูกไล่ออกจากงานในตำแหน่งนักบินของสายการบิน เขาและเพื่อนร่วมรุ่นแดนนี่โคฮานะ ( เจมส์ชิเกต้า ) เข้าสู่ธุรกิจเช่าเหมาลำเฮลิคอปเตอร์ด้วยกัน แต่การบินโดยประมาทของริคและความเจ้าชู้อย่างไม่ระมัดระวังของเขากับผู้หญิงในท้องถิ่นอาจทำให้ธุรกิจของริคต้องเสียค่าใช้จ่ายและแดนนี่ทำให้บ้านของเขาต้องเสียไป
แนวโน้มนี้ดูเหมือนจะเข้ามาขัดขวางเลขาของพวกเขาจูดี้ ฟรายเดย์ ฮัดสัน ( ซูซานนาลีห์ ) และริคเริ่มอยู่ด้วยกัน หายนะเกิดขึ้นเมื่อแดนนี่ค้างชำระบนเที่ยวบินหลังจากที่ริคถูกเจ้าหน้าที่ของรัฐวางสาย ริคต้องตัดสินใจว่าเขาควรเสี่ยงต่อการสูญเสียใบอนุญาตตลอดไปหรือไม่โดยไปหาเพื่อนของเขา
ผิดหวังอย่างแรง
โน่นคือความรู้สึกแรกที่ได้เห็น Paradise Hawaiian Style ที่โรงแสดงละครถิ่นฐานบ้านช่องของฉันในฤดูใบไม้ผลิปี 1966 สำหรับฉันในยุคนั้น ภาพยนตร์เอลวิสเป็นอย่างแรกที่สำคัญที่สุดเกี่ยวกับดนตรีของเขา และก็ภายหลังมองภาพยนตร์เรื่องนี้ ฉันก็ออกจากโรงแสดงละคร มั่นใจว่าเพลงดำรงชีพที่แย่ที่สุดของเพรสลีย์ ฉันหมายคือ มีเอลวิส ยังคงเป็นราชาดนตรีร็อกแอนด์โรลของฉัน ร้องเพลงเกี่ยวกับมะละกอ ทราย และก็สุนัข—แล้วก็ร้องคู่กับเด็กสาวอายุเก้าขวบ ปฏิกิริยาของฉันที่มีต่อ Paradise Hawaiian Style นั้นแย่มากจนฉันจำไม่ได้ว่าเคยดูมันอีกตราบจนกระทั่งเมื่อเร็วๆนี้อย่างไรก็แล้ว
แต่ ระยะเวลา 42 ปีที่ผ่านมาได้ขยายขอบเขตการคาดการณ์ภาพยนตร์ที่ครั้งหนึ่งฉันเคยแคบ รวมทั้งทำให้ฉันได้เห็นจุดเด่นบางประการในความอุตสาหะครั้งที่ 21 ของฮอลลีวูดในฮอลลีวูด เวลาที่หลายปีที่ผ่านเลยมามิได้ทำอะไรเพื่อทำให้จำนวนดนตรีที่อ่อนแอของเพรสลีย์ในรูปภาพยนตร์มองสดใส แม้กระนั้นขณะนี้ฉันเห็นได้ชัดว่าการที่เอลวิสกับผู้อำนวยการผลิตฮาล วาลลิสที่ Paramount กลับมารวมตัวอีกรอบ
นำมาซึ่งค่าการสร้างที่มีคุณภาพดีมากยิ่งกว่าภาพอื่นๆกว่าครึ่งโหลก่อนหน้าที่ผ่านมาในภาพยนตร์เจ็ดเรื่องก่อนหน้าของเขากับเอลวิส วาลลิสได้สร้างต้นแบบการถ่ายทำดาราในสถานที่แปลกใหม่ รวมทั้งเมื่อเขาพาเพรสลีย์ไปฮาวายอีกรอบในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2508 ภาพยนตร์หัวข้อนี้ถือเป็นสถานที่ถ่ายทำสำคัญหนแรกของเอลวิสในรอบสองปี ทิวภาพของเกาะที่เกิดขึ้น—ส่วนใหญ่มาจากอากาศ—และก็พิธีกรรมทางดนตรีประจำถิ่นทำให้ภาพยนตร์มีความเพลิดเพลินทางภาพเท่าๆกัน ในทางนั้นกับบลูฮาวาย การสร้างอีกชิ้นหนึ่งของวัลลิสเมื่อสี่ปีกลาย
วาไรตี้เชิดชูพาโนรามาแบบฮาวาย
ในการทบทวน Paradise Hawaiian Style เมื่อวันที่ 8 เดือนมิถุนายน พุทธศักราช 2509 วาไรตี้ได้ชมเชยเบื้องหลังของภาพยนตร์โพลินีเซียน : “ฮัล วาลลิส … คืนนักร้องสู่เกาะในละครเพลงที่สนุกสนานรื่นเริงและก็ไหลลื่น ไม่ค่อยมีภาพพาโนรามาและภูมิประเทศของฮาวายที่ถูกนำมาใช้เพื่อประโยชน์อันเขียวชอุ่ม ติดอยู่ในโทนสีที่เยี่ยมที่สุดของ Technicolor และก็ให้ดาวด้วยเบื้องหลังในบรรยากาศสำหรับจำพวกของเส้นด้ายที่เขาเหมาะที่สุดสำหรับ … เด็กหญิงและเพลง เป็นเรื่องปกติสำหรับแฟนคลับของเพรสลีย์ที่ดูเหมือนจะเป็นทหารรวมทั้งมีสมรรถนะในการหาผลประโยชน์ที่อดทน
”เค้าโครงเรื่อง ซึ่งธรรมดาแล้วจะบางสำหรับภาพอายุหกสิบเศษของเพรสลีย์ เอลวิสพยายามสร้างเนื้อตั้งตัวในธุรกิจด้านการท่องเที่ยวบนเกาะ ซึ่งมีความคล้ายคลึงกับบลูฮาวายอีก ตามแบบฉบับ โครงเรื่องได้รับการออกแบบมาเพื่อรองรับการสลับฉากดนตรีของเอลวิสมากกว่าที่จะนำเรื่องราวไปพร้อมเพียงกัน แน่นอนว่ามีฝูงสาวสวยมาตรฐานอยู่ที่นั่น แม้กระนั้นบทภาพยนตร์ยังช่วยเด็กอีกกว่าครึ่งโหลเข้ามาเกี่ยวด้วย นอกจากดอนน่า บัตเตอร์เวิร์ธที่เอาชนะเอลวิสในบางฉากแล้ว ยังมีเด็กอีก 5 คน แล้วก็นักเต้นฮูลาที่สวยขนาดเท่าไพน์ แสดงตัวในผลงานเพลงของเอลวิสด้วย
ฉากหมาในชอปเปอร์ได้รับความรุ่งโรจน์
ละเว้นขณะสั้นๆเกี่ยวกับเฮลิคอปเตอร์ที่หายไป Paradise Hawaiian Style เป็นละครเพลงแนวขำขัน โดยที่ Elvis ได้ส่งเครื่องบินเพียงลำเดียวส่วนมาก แม้กระทั้งฉากต่อสู้ที่ประจบประแจงเพียงฉากเดียวก็ยังเป็นฉากหวาดเสียว โดยเอลวิสจะปราบผู้มาทั้งสิ้นโดยไม่ชกแม้แต่ครั้งเดียว นักวิจารณ์ของวาไรตี้รู้สึกติดใจกับฉากหมาจำเจในภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นพิเศษ “ซีเควนซ์เฉพาะอย่างหนึ่งคือภาพยนตร์ตลก เพรสลีย์สูญเสียการควบคุมรถชอปเปอร์ของเขาขณะขนส่งสุนัขหกสายพันธุ์ไปยังการแสดงหมาบนเกาะอื่น ในเวลาเดียวกัน การแสดงสตันท์ของเฮลิคอปเตอร์ก็เต็มไปด้วยความตื่นเต้น ซึ่งเป็นสิ่งที่เหมาะสมที่สุดที่เคยถ่ายทำในการขยับเขยื้อนลักษณะนี้”สำหรับเอลวิส รูปลักษณ์ที่กล้าแกร่งของเขาเด่นจากฉากเปิดตัวของภาพยนตร์แล้วก็ยังคงปรากฏให้เห็นตลอด ถึงแม้ผู้กำกับไมเคิล มัวร์จะพยายามใช้มุมกล้องถ่ายรูปเพื่อลดหุ่นส่วนเกินของเพรสลีย์อย่างชัดเจนก็ตาม ในฉากหาดแห่งหนึ่ง เอลวิสสวมชุดว่ายน้ำ แต่เมื่อเขาลุกขึ้นยืนจากทราย กล้องถ่ายภาพก็ตั้งมั่นจับร่างกายส่วนบนของเขาจากข้างหลังเท่านั้น
ไฮไลท์ดนตรีจำกัด
เฉพาะลำดับที่การผลิตเอลวิสได้แสดงบทของเขาในฐานะชายที่มีเพศสัมพันธ์มากเกินความจำเป็น ซึ่งเขาเล่นเป็นครั้งสุดท้ายในรูปภาพยนตร์เรื่อง Girl Happy ของ MGM เมื่อปีก่อน มันเป็นบทบาทที่ไม่อยากมากมายสำหรับเขาอีกรอบ แต่ว่าอย่างน้อยเอลวิสก็เล่นด้วยรอยยิ้มที่สดใสร่าเริง ทัศนคติที่สำคัญต่อภาพยนตร์เพรสลีย์ในช่วงกลางทศวรรษ 1960 เป็นอย่างมาก เมื่อเขาแบกภาระความบันเทิงทั้งปวงของภาพไว้บนข้างหลังของเขา “เพรสลีย์พรีเซนเทชั่นหนึ่งสำหรับเพื่อการแสดงภาพที่น่าปลื้มตามขนบธรรมเนียมของเขา” วาไรตี้กล่าว “ด้วยน้ำเสียงธรรมดาแล้วก็ชำนิชำนาญเรื่องตลก”
เก้าเพลงที่ไม่ได้รับแรงดลใจจากเอลวิสต้องทนทุกข์ยิ่งกว่าเดิมจากการที่เพรสลีย์เล่นเป็นนักบินในภาพยนตร์หัวข้อนี้ เพื่อพิสูจน์ว่าการขับร้องของเขาในภาพยนตร์ก่อนหน้านี้ เพรสลีย์ชอบแสดงเป็นนักร้องมืออาชีพหรืออย่างต่ำก็เป็นบุคคลภายนอกเวลา ไม่เช่นนั้นในสไตล์พาราไดซ์ฮาวาย ไม่มีคำอธิบายอะไรก็ตามสำหรับในการร้องเพลงของเขาอย่าง “Queenie Wahine’s Papaya,” “Scratch My Back,” “A Dog’s Life” แล้วก็ “House of Sand”ไฮไลท์ทางดนตรีสอง
เรื่องของภาพยนตร์เรื่องนี้คือเลขการสร้างที่ผลิตขึ้นมาจากเพลงภาษาโพลินีเซียน “Drums of the Islands” คนหนึ่งมีเอลวิสอยู่ในเรือแคนูการสู้รบในหนังกึ่งกลางเรื่อง และก็อีกคนหนึ่งปฏิบัติภารกิจเป็นฉากสุดท้ายของภาพ ทั้งสองเป็นแว่นหลายสีสัน โดยมีนักเต้นองค์การอนามัยโลกลา รวมถึงนักเล่นดนตรีรวมทั้งดาราชาวฮาวายประจำถิ่นคนอื่นวาไรตี้เผยว่า “น้องที่น่าประทับใจที่สุดของเพรสลีย์
สมัครสมาชิก ID LINE : @win666





