ดูหนัง Outcast (2014) อัศวินชิงบัลลังก์
เรื่องราวเกิดขึ้นในเมืองของชาวมัวร์ในช่วงสงครามครูเสด เมืองนี้กำลังจะตกไปเป็นของพวกชาวคริสต์ ซึ่งรวมถึง แกลเลี่ยน คนสำคัญคนหนึ่งในกองทัพครูเสด และผู้เป็นอาจารย์ของ เจค็อบ แกลเลี่ยน เริ่มรู้สึกเหนื่อยกับสงครามและการฆ่าชาวบ้านบริสุทธิ์ เขาบอกเจค็อบว่าเขาจะออกเดินทางไปทางทิศตะวันออก ณ ประเทศจีน กองกำลังที่จงรักภักดีต่อ ชิง องค์ชายคนโตของพระมหาจักรพรรดิกำลังก่อการรัฐประหาร ก่อนที่ องค์ชายชิง จะมาถึงวัง พระมหาจักรพรรดิได้ประกาศยกบัลลังก์ให้กับบุตรชายคนสุดท้องของเขาและแต่งตั้ง เจ้าชายเชา เป็นรัชทายาท แต่เจ้าชายเชา และพี่สาวเจ้าหญิงเหลียน ได้หลบหนีออกจากพระราชวังไปยังที่ประจำการของนายพลแห่งกองทัพที่อยู่ไกลออกไป เจ้าหญิงเหลียน และเจ้าชายเชา ไปโผล่ในโรงเตี๊ยมที่พวกเขาพยายามที่จะขอความช่วยเหลือ พวกเขาได้พบกับ เจค็อบ ผู้ที่หนีออกมาจากทุ่งสังหารแห่งสงครามครูเสด และการช่วยเหลือระหว่าง 2 ชนชาติและการต่อสู้เพื่อกู้บัลลังก์จึงได้เริ่มต้นขึ้น
อ่านรีวิวก่อน ดูหนัง
นักแสดง
Hayden Christensen เฮย์เดน คริสเตนเซน

Nicolas Cage

Liu Yifei

ผู้กำกับ : Nick Powell
รีวิว
กองอวยหนังจีน
เป็นภาพยนตร์เรื่องที่ข้าน้อยลุ้นมากที่สุดในเรื่องการเข้าฉาย เพราะเป็นเรื่องที่ถูกเลื่อนทั้งจากทางฝั่งจีน และทางฝั่งไทยก็เกือบโดนถอดออกจากผัง ก่อนหนังฉายจริงเพียงวันสองวัน
เรื่องย่อ
สำหรับเนื้อเรื่องนั้นหลักๆเป็นเรื่องราวของการหลบหนีจากการก่อการแย่งชิงบัลลังก์โดย “ชิง”โอรสคนโตผู้กระหายการเป็นเจ้าแผ่นดิน จากฮ่องเต้ผู้ซึ่งร่างกายอ่อนแอจากอาการเจ็บป่วยผู้ซึ่งได้ทำการมอบราชบัลลังก์แหละตราจักรพรรดิให้โอรสองค์เล็ก และมีรับสั่งให้ ” เชา ” พระโอรสองค์เล็กและ “เหลียน” พระธิดาหนีออกไปขอความช่วยเหลือจากนายพลผู้จงรักภักดีที่อยู่นอกด่าน อีกด้าน เจค็อบ นายทหารผู้หนีออกมาจากทุ่งสังหารแห่งสงครามครูเสดก็ได้เดินทางร่อนเร่มาทางตะวันออก จนเจอร้านอาหารแห่งหนึ่งและได้พบกับเหลียน ที่เข้ามาขอความช่วยเหลือในการคุ้มกันตนและพระอนุชาในการเดินทางหลบหนีการตามล่า เรื่องราวการระหว่าง 2 ชนชาติและการต่อสู้เพื่อกู้บัลลังก์จึงได้เริ่มต้นขึ้น
จากที่ได้ไปชมมา คิดว่าช่วงยุ่คสมัยของโครงเรื่องมีส่วนคล้ายคลึงกับเรื่อง ดาบมังกรฟัด หรือ Dragon Blade ที่ฉายและเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ไปก่อนหน้านี้ แต่…การตีความและเนื้อเรื่องช่างต่างกันโดยสิ้นเชิง ซึ่งในภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นการแต่งเรื่องขึ้นมาโดยไม่มีการอิงประวัติศาสตร์ซึ่ง ซึ่งทีแรกคิดว่าเนื้อเรื่องน่าจะแลดูมีที่มาที่ไปมากกว่านี้โดยเฉพาะเนื้อเรื่องเกี่ยวกับที่มาที่ไปของ เจค็อบน่าจะมีความชัดเจนมากกว่านี้ แต่กลับกลายเป็นว่าเนื้อเรื่องดำเนินค่อนข้างช้าและรายละเอียดน้อยมาก จึงทำให้รู้สึกว่าจืดชืดไปหน่อย
สำหรับเรื่องภาพนั้น อยู่ในเกณฑ์พอใช้ได้ แต่ด้วยความที่มีฉากที่เป็นลักษณะบุคคลที่ 1 ที่กำลังสลึมสลือในช่วงต้นก่อนถึงกลางเรื่องบ่อยมาก และในหลายๆฉากเปลี่ยนมุมกล้องไวมากทำให้ตาลายอยู่เป็นพักๆ ส่วนด้านเครื่องแต่งกายตัวละครและวิวฉากซีจีต่างๆนานาก็นับว่าอยู่ในระดับไม่เลวเลย โดยเฉพาะวิวเวลามุมกล้องเสยขึ้นมีความงดงามมากๆ (ชอบฉากเป็นการส่วนตัว)
ส่วนการแปลบทนั้น ทำได้ดี แม้ว่าจะมีคำบรรยายบางส่วนที่รู้สึกว่าไม่ลื่นไหลเท่าไหร่ และมีผิดเพี๊ยนจากเสียงภาษาอังกฤษไปบ้าง(ไม่กี่คำ) แต่ก็ไม่ถึงกับขัดใจหรือขัดสายตา ความชักเจนของเสียงอยู่ในขั้นดีกว่าหลายๆเรื่องที่เคยชม
สรุปโดยรวม
เป็นภาพยนตร์ที่เนื้อหามีน้อยมากและรายละเอียดหลายๆอย่างไม่ชัดเจนเท่าไหร่ แต่ก็ยังถือว่าเนื้อเรื่องมีทิศทางการดำเนินเรื่องที่ชัดเจนอยู่แล้ว เลยทำให้ดูเพลินไม่น่าเบื่อ แต่เรื่องความสนุกแล้วแต่คนจริงๆ(แต่ข้าน้อยว่าผ่านนะเรื่องการที่คนดูมีอารมณ์ร่วมกับภาพยนตร์ได้) นอกจากนี้ในตัวหนังยังมีมุมสะท้องถึงการให้มีสติระมัดระวังตัวอยู่เสมอโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับคนไม่คุ้นเคย
สุดท้ายก็แอบผิดหวังเล็กๆตรงที่คาดหวังไว้ว่าการเอานักแสดงที่ค่อนข้างมีชื่อมาแสดงหลายคน แต่ตัวภาพยนตร์กลับไม่สามารถขับเสน่ห์ของเหล่านักแสดงออกมาทางตัวภาพยนตร์อย่างได้เต็มที่ และจนจบก็ยังทิ้งคำถามหลายๆอย่างไว้ด้วย ทำให้รู้สึกเหมือนหนังจบแล้วสมองยังมึนๆ ยังไม่เข้าใจ