ดูหนัง Now You See Me 2 (2016) อาชญากลปล้นโลก 2
เรื่องราว 1 ปีหลังจากเหตุการณ์ในภาพยนตร์ภาคที่แล้วที่เหล่า ‘กลุ่มจตุรอาชา’ (หรือ The Four Horsemen) ได้ร่วมกันชิงไหวชิงพริบเอาชนะเจ้าหน้าที่ FBI ได้สำเร็จ รวมไปถึงยังได้รับเสียงชื่นชมและคำสรรเสริญจากเหล่าผู้คนมากมายถึงความชาญฉลาดของพวกเขา … กลับมาในครั้งนี้พวกเขาก็จะขอแท็กทีมร่วมกันทำภารกิจสุดยิ่งใหญ่เหมือนเช่นเคย แต่คราวนี้จะต้องเจอศัตรูตัวฉกาจรายใหม่ที่มีฝีมือยอดเยี่ยมและทัดเทียมไม่แพ้พวกเขา นี่จึงกลายเป็นจุดเริ่มต้นของการปล้นครั้งใหม่ที่ยิ่งใหญ่และอันตรายกว่าเดิมหลายเท่าตัว จตุรอาชาลอบเข้าไปในงานเปิดตัวสินค้าของเคส โดยมีเจ้าหน้าที่ FBI ตามมาที่งาน ในระหว่างที่จตุรอาชากำลังจะเปิดโปงเคส กลับมีบุคคลลึกลับเข้ามาขัดขวางแล้วเปิดโปงว่าไวลเดอร์ที่เชื่อว่าเสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถคว่ำเมื่อปีก่อนยังมีชีวิตอยู่ และเปิดโปงว่าโรดส์ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ FBI ที่จริงแล้วเป็นพวกกับจตุรอาชา โรดส์และจตุรอาชาแยกกันหนี แต่จตุรอาชาถูกคนของเชส แมคคินนีย์ พี่ชายฝาแฝดของเมอร์ริตจับตัวไปมาเก๊าเพื่อพบกับวอลเตอร์ มาบรี อัจฉริยะด้านเทคโนโลยีที่แกล้งตายหลังถูกเคสยึดบริษัทของตนเองไป
อ่านรีวิวก่อน ดูหนัง
นักแสดง
Jesse Eisenberg เจสซี ไอเซนเบิร์ก
มาร์ก รัฟฟาโล
วูดดี ฮาร์เรลสัน
ผู้กำกับ : จอน เอ็ม. ชู
รีวิว Now You See Me 2 (2016) อาชญากลปล้นโลก 2
หนังโปรดของข้าพเจ้า
เอาตามจริงควรเลิกนับเป็นหนังมายากลได้แล้ว เรียกเป็นหนังแฟนตาซีที่ใช้เทคนิคมายากลมาโชว์อะไรเว่อร์ ๆ โม้ ๆ ดีกว่า พอบอกอย่างนี้แล้วเราชอบฉากปล้นสติ๊กโดยใช้กลซ่อนไพ่ส่งของไปมามาก เป็นฉากที่โคตรสร้างสรรค์ในการใช้เทคนิคซ่อนไพ่หลบหลีกการตรวจจับของรปภ. ซึ่งเราไม่ได้ชอบฉากนี้ในแง่มายากลสมจริง แต่ชอบไอเดียกลซ่อนไพ่ที่นำมาใช้ได้อย่างสร้างสรรค์แม้จะมี cg ช่วยและก็ค่อนข้างโอเว่อร์ก็ตาม เป็นโชว์ฉากเดียวที่ยกนิ้วให้เลย
.
รอบนี้กลุ่มจตุรอาชาเหลือ 3 คนคือ ‘แอตลาส’ (Jesse Eisenberg), ‘เมอร์ริตต์’ (Woody Harrelson) และ ‘แจ็ค’ (Dave Franco) ได้ถูกมหาเศรษฐี ‘วอลเตอร์’ (Daniel Radcliffe) จับตัวไว้ที่มาเก๊าพร้อมบังคับให้ขโมยสติ๊ก ไอเท็มชิ้นสำคัญที่อยู่ภายใต้การคุ้มกันอย่างแน่นหนา พวกเขาทั้ง 3 และสมาชิกหน้าใหม่คือ ‘ลูล่า’ (Lizzy Caplan) จึงต้องยอมทำตามเพื่อกู้ชื่อเสียงและเปิดโปงวายร้ายให้เผยโฉมออกมา
.
อ่านสัมภาษณ์คนเขียนบทมาเขาบอกภาคนี้จะเป็นแนวมายากล vs. วิทยาศาสตร์ ซึ่งมันก็มีให้เห็นผิวเผินในหนัง แต่โดยหลักแล้วมันเป็นแฟนตาซีเว่อร์ ๆ ตัดสลับกับกลที่พยายามให้ดูสมจริง คือการที่หนังมันมีกลโม้ ๆ ดูเป็นไปไม่ได้เยอะ ๆ เนี่ยทำให้บางกลซึ่งอาจจะทำได้จริงดูไม่น่าเชื่อถือไปเลย อย่างการสะกดจิตนี่พี่เมอร์ริตต์แกใช้ซะนึกว่าดูชาร์ลส เซเวียร์ใน X-Men ยังไงยังงั้น, แล้วมุกหายตัวไปดื้อ ๆ นี่ถูกใช้จนนึกว่าตัวละครล่องหนกันได้ แทนที่เราจะมีฟีลลิ่งเหมือนดูหนังปล้นเก๋ ๆ แบบ Ocean’s Eleven เลยกลายเป็นเหมือนดูยอดมนุษย์ X-Men รวมทีมกันปล้นด้วยเทคนิคลอกเลียนมายากลมากกว่า ซึ่งพอมองมุมนี้หนังก็ไปไม่สุดอีก เพราะยังกั๊ก ๆ ว่าจะเอาสมจริงหรือจะเอาโม้ไปเลย
.
กด 8/10 ให้เฉพาะฉากปล้นสติ๊กด้วยกลซ่อนไพ่ ฉากนี้มันมีความหละหลวมของรปภ.อย่างไม่น่าเชื่อแต่ไม่ใช่สาระสำคัญอะไรเพราะไฮไลท์ของฉากนี้คือการโชว์กลซ่อนไพ่ที่ยกนิ้วให้ความสร้างสรรค์ของคนออกแบบงานชิ้นนี้เลย หนังเล่นกับเทคนิคซ่อนไพ่/สลัดไพ่ รับส่งไปมากันได้ลื่นไหล มันอาจจะดูไม่สมเหตุสมผลเท่าไรในเรื่องการตรวจค้นของรปภ. เพราะกลุ่มนี้มันโคตรมีพิรุธ แต่อย่างที่บอกว่าเขาออกแบบกลซ่อนไพ่ได้เยี่ยมจนเป็นฉากที่น่าจดจำของหนังภาคนี้