ดูหนัง Not Friends (2023) เพื่อน (ไม่) สนิท
หนุ่มมัธยมปลายหวังว่าจะชนะการประกวดหนังสั้น ด้วยการปั้นแต่งเรื่องราวของมิตรภาพระหว่างเขากับเพื่อนร่วมชั้นที่เพิ่งเสียชีวิต แต่จะถูกจับได้ไหม เป้ เด็ก ม.6 ที่กำลังถูกพ่อกดดันในการสอบเข้ามหาวิทยาลัย ได้รู้ข่าวการรับนักศึกษาเข้าเรียนโดยการทำหนังสั้นส่งประกวด เขาจึงเกิดไอเดียในการนำเรื่องของ โจ เพื่อน(ไม่)สนิทที่นั่งโต๊ะติดกัน แต่ดันโชคร้ายเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ มาทำเป็นหนังสั้นด้วยความเชื่อที่ว่า “ทำหนังเกี่ยวกับคนที่จากไป ยังไงแม่งก็ซึ้ง” Not Friends แต่เรื่องก็ไม่ง่ายอย่างที่คิด เพราะเป้ไม่มีความรู้เกี่ยวกับการทำหนังเลย แถมยังเจออุปสรรคจาก โบเก้ เพื่อนสนิทตัวจริงของโจ ที่โชว์สปิริตเสนอตัว ขอมาช่วยทำหนังสั้นเรื่องนี้แบบที่เป้ไม่รู้ว่าจะปฏิเสธยังไงดี ภารกิจในการทำหนังสั้นที่มีอนาคตของเป้เป็นเดิมพันจึงเริ่มต้นขึ้น โดยได้รับความช่วยเหลือจากคณะเด็กเนิร์ดหนังประจำห้องโสต ท่ามกลางการรับรู้ของคนทั้งโรงเรียนและแรงกดดันจากครอบครัวของโจ ที่เฝ้ารอชมผลงานหนังสั้นสุดประทับใจของคนที่จากไป แต่ในเวลาเดียวกัน การถ่ายหนังสั้นให้เพื่อนไม่สนิทของเป้ครั้งนี้ กลับทำให้เขาได้ค้นพบ ความลับ อะไรบางอย่างที่โจซ่อนเอาไว้ ซึ่งอาจจะกระทบต่อความทรงจำ และก้อนความสัมพันธ์ที่อยู่ในใจ ซึ่งพวกเขาเคยมีให้เพื่อนคนสำคัญคนนี้ไปตลอดกาล
อ่านรีวิวก่อน ดูหนัง
นักแสดง
อันโทนี่ บุยเซอเรท์
พิสิฐพล เอกพงศ์พิสิฐ
ธิติยา จิระพรศิลป์
ธนกร ติยานนท์
ผู้กำกับ : อัตตา เหมวดี
รีวิว Not Friends (2023) เพื่อน (ไม่) สนิท
beartai
ในวงการภาพยนตร์ หลายคนอาจไม่คุ้นชื่อของ ต้า อัตตา เหมวดี มือเบสวง Two Million Thanks ที่เพิ่งจะมาชิมลางกำกับ ‘เพื่อน(ไม่)สนิท’ ภาพยนตร์ตลกวัยรุ่นเรื่องใหม่ของ GDH และ เฮาส์ตัน ฟิล์ม แบงค็อก (Houseton Films Bangkok) แต่ถ้าใครคุ้นเคยกับผลงานของเขาบ้าง ก็จะพอรู้ว่าเขาคือผู้กำกับโฆษณา โดยเฉพาะมิวสิกวิดีโอเพลงไทยหลายเพลง เอาแบบคร่าว ๆ ก็เช่น “ฝากไว้กับดาว” และ ‘ไม่รู้ทำไม” ของวง Whal & Dolph,”ก็เพราะว่าชอบเธอ” ของ BNK48, “1%” – ของ แสตมป์ อภิวัชร์, “ลบไม่ได้ช่วยให้ลืม” ของ อิ้งค์-วรันธร, “ดวงใจ” ของ ปาล์มมี่ และอีกมากมาย โดยได้ วัน วรรณฤดี พงษ์สิทธิศักดิ์ และ บาส นัฐวุฒิ พูนพิริยะ ผู้กำกับ ‘ฉลาดเกมส์โกง’ (2017) และ ‘One for the Road’ (2021) มารับหน้าที่เป็นโปรดิวเซอร์
‘เพื่อน(ไม่)สนิท’ เล่าเรื่องของ เป้ (อันโทนี่ บุยเซอเรท์) เด็ก ม.6 ขี้แพ้ไร้เพื่อนที่ต้องย้ายโรงเรียนใหม่กลางคัน เขาได้พบกับ โจ (พิสิฐพล เอกพงศ์พิสิฐ) เพื่อนร่วมห้องธรรมดาแต่อัธยาศัยดี ที่อยากจะเป็นเพื่อนสนิท แต่เป้กลับไม่สนใจใยดี จนกระทั่งเมื่อโจเสียชีวิตกะทันหันจากอุบัติเหตุ เป้ที่ต้องการทำหนังสั้นเพื่อส่งเข้าประกวด จึงได้เลือกเรื่องราวของโจมาทำเป็นหนังสั้น ทั้งที่ตัวเองก็ไม่มีความรู้เรื่องการทำหนัง แถมยังไม่สนิทกับโจอีกต่างหาก เป้และเพื่อนร่วมชั้น จึงต้องร่วมมือกับเพื่อน ๆ ทั้ง โบเก้ (ธิติยา จิระพรศิลป์) เด็กสาวผู้มีแม่เป็นตากล้องถ่ายหนัง, ปิง (ธนกร ติยานนท์) หัวหน้าเด็กห้องโสต และ หลิว (ณัฐทิชา จันทรวารีเลขา) เด็กกิจกรรมหน้าตาดี ร่วมกันทำหนังสั้นที่ได้แรงบันดาลใจจากโจเพื่อนสนิทของทุกคน (แต่ไม่สนิทของเป้) ขึ้นมาให้สำเร็จ
อัตตาเลือกที่จะผสมเรื่องราว 3 แกนที่ถูกเชื่อมเข้าเป็นเรื่องราวเดียวกัน ทั้งการเป็นหนังที่เล่าเกี่ยวกับการทำหนัง (Filmmaking) ที่ถูกชูขึ้นเป็นหน้าหนังในครึ่งแรก ซึ่งมีนำเสนอผ่านวิธีการและจริตที่เต็มไปด้วยพลังงานแบบวัยรุ่นเบียว ๆ บ้าพลัง เล่าเรื่องแบบทีเล่นทีจริงได้เหลือร้ายและบันเทิงเริงใจมาก ๆ รวมทั้งการใช้ภาษาภาพ การแสดง ไดอะล็อกที่เป็นธรรมชาติ เพลงประกอบ ฯลฯ เข้ามาช่วยในการเล่าเรื่อง เล่ามุก และสะท้อนจริตของเด็กยุคสมัยนี้ได้กวงติงและเพลิดเพลินมาก ๆ คือไอ้ประโยค “เบียวชิบหาย แต่ได้กู…” ในหนังนี่แหละที่น่าจะจำกัดความครึ่งแรกของหนังได้ชัดเจนที่สุดแล้ว
sanook
จริงๆ แล้ว เรื่องนี้ได้ใจเราไปตั้งแต่ตอนที่ดูตัวอย่างภาพยนตร์ แค่เนื้อเรื่องช่วงต้นก็น่าสนใจมากแล้วที่ตัวละครที่แทบไม่ได้รู้จักอะไรกับคนคนนั้นในแบบที่จะเรียกว่าเพื่อนสนิทได้เต็มปาก หยิบเอาเรื่องของเขามาทำหนัง แถมยังส่งประกวดเพื่อชิงรางวัลอีก พอเพื่อนตัวจริงมาท้วง เลยอยากรู้ว่าเรื่องราวจะเป็นยังไงต่อ อีหรอบไหนถึงได้ทำหนังต่อ ระหว่างถ่ายทำเกิดอะไรขึ้นบ้าง และสรุปหนังเรื่องนี้จะได้ทำออกมาได้สำเร็จหรือไม่ ทุกคำถามเหล่านี้คอยนำทางให้เราติดตามดูหนังเรื่องนี้ได้ตลอดทั้งเรื่องโดยไม่มีช่วงเบื่อเลย
ส่วนที่ประทับใจมาก คือการหยิบเอาเรื่องของ “เพื่อนสนิท” มาตีความได้ดี เป็นเรื่องราวง่ายๆ ใกล้ตัวที่ใครๆ ก็ต้องเคยคิด ว่าเราจะวัดความสนิทของเพื่อนกันที่ตรงไหน ระหว่างโบเก้ คนที่เรียกตัวเองว่าเป็นเพื่อนสนิทของโจมาตั้งแต่ม.ต้น กับเป้ เพื่อนที่เพิ่งรู้จักโจได้เดือนเดียว เราฟันธงได้ทันทีจริงหรือว่าโจสนิทกับโบเก้มากกว่าเป้ แล้วความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นในระยะสั้นๆ ระหว่างถ่ายหนังให้โจของปิง เป้ และโบเก้ เรียกว่าเป็นเพื่อนสนิทกันได้ไหม
นอกจากนี้ พัฒนาของเนื้อเรื่องที่มีจุดหักมุม การแก้ไขปัญหาของตัวละคร ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นระหว่างเป้และโบเก้ที่มีโจเป็นจุดเชื่อมโยงจะจบลงยังไง บอกได้เลยว่า ครึ่งชม. แรกหัวเราะจะท้องแข็ง ครึ่งชม.กลางเรื่องช็อกตาตั้ง และครึ่งชม. สุดท้ายน้ำตาคลอเบ้าไปจนจบเรื่องจริงๆ