ดูหนัง Unthinkable (2010) ล้วงแผนวินาศกรรมระเบิดเมือง
รัฐบาลได้ยินข่าวแผนการทำลายล้างอเมริกาซึ่งเกี่ยวข้องกับอาวุธนิวเคลียร์ 3 ชนิดซึ่งไม่มีใครรู้แน่ชัดว่าอยู่ที่ไหน เป็นหน้าที่ของนักสืบที่มีประสบการณ์และเจ้าหน้าที่เอฟบีไอที่จะค้นหาว่าอาวุธนิวเคลียร์เหล่านั้นอยู่ที่ไหนกันแน่ สตีเวน ยังเกอร์ อดีต เจ้าหน้าที่ หน่วยเดลต้าฟอร์ซ ของอเมริกา กำลังถ่ายวิดีโอ เฮเลน โบรดี้ เจ้าหน้าที่พิเศษเอฟบีไอประจำลอสแองเจลิสและทีมของเธอถูกเรียกตัวไปที่โรงเรียนมัธยมศึกษาแห่งหนึ่ง ซึ่งถูกกองทัพเข้าควบคุมตัวในฐานะสถานที่ลับที่คุมขังยังเกอร์ (ซึ่งเรียกตัวเองว่ายูซุฟ โมฮัมเหม็ด) พวกเขาดูเทปของยูซุฟ ซึ่งแสดงให้เห็นระเบิดนิวเคลียร์สามลูกในเมืองต่างๆ ของสหรัฐฯ โดยตั้งเวลาให้ระเบิดพร้อมกันหากข้อเรียกร้องของเขาไม่ได้รับการตอบสนอง
อ่านรีวิวก่อน ดูหนัง
นักแสดง
Samuel L. Jackson ซามูเอล แอล. แจ็กสัน
Michael Sheen
Carrie-Anne Moss
ผู้กำกับ : เกรกอร์ จอร์แดน
รีวิว
หนังโปรดของข้าพเจ้า
ไม่คิดว่าพล็อตหนังแค่การทรมานนักโทษเพื่อเค้นข้อมูล มันจะเค้นจิตใจคนดูให้ถลำลึกไปในสิ่งที่หนังกำลังตบหน้าการสืบสวนต่าง ๆ ด้วยวิธี ‘ทรมานนักโทษ’
เมื่อ ‘ยังเกอร์’ (Michael Sheen) อดีตทหารหน่วยเดลต้าหันไปนับถือศาสนาอิสลามและเขาได้ขู่วางระเบิดนิวเคลียร์ในอเมริกาจำนวน 3 ลูกในอีก 3 วันข้างหน้า เมื่อทหารจับตัวเขาได้จึงต้องนำตัวมาสอบสวนเพื่อให้เขาสารภาพว่าระเบิดทั้ง 3 ลูกซ่อนอยู่ที่ไหน กระทรวงยุติธรรมจึงได้ให้อำนาจ ‘เฮช’ (Samuel L. Jackson) ในการทรมานนักโทษ และเขาก็ได้ขอให้ ‘โบรดี้’ (Carrie-Anne Moss) เป็นคนคอยใช้น้ำเย็นเข้าลูบหลังจากนักโทษถูกทรมานอย่างหนัก
แก่นของเรื่องนี้คือการตั้งคำถามตบหน้าเส้นคาบเกี่ยวระหว่างศีลธรรม สมมุติคนร้ายขู่วางระเบิดนิวเคลียร์ขนาดเล็กที่สามารถฆ่าคนได้หลักพันหลักหมื่นคน คุณยินดีที่จะทำทุกวิถีทางเพื่อเค้นให้นักโทษบอกที่ซ่อนหรือไม่ แม้ว่านั่นจะหมายถึงการทรมานนักโทษอย่างโหดร้าย แล้วคนที่นิ่งเฉยนั่นหมายถึงคุณยอมรับรูปแบบการทรมานนักโทษใช่หรือไม่
อยากบอกว่าตั้งแต่ต้นจนจบหนังตบหน้าหลายคนชาเลยครับ ‘เฮช’ คือตัวแทนของการทรมานนักโทษ เขาคือคนที่ยอมละเมิดศีลธรรม ยอมมือสกปรกทรมานนักโทษเพื่อให้คนในชาติปลอดภัย เขาต้องทำทุกอย่างเพื่อให้นักโทษเชื่อว่าเขาสามารถทรมานขนาดไหนก็ได้เพื่อให้นักโทษเกิดความเกรงกลัว ในขณะที่ ‘โบรดี้’ เธอไม่เห็นด้วยกับการทรมานนักโทษ เธอเชื่อว่ามันเป็นสิ่งที่ผิดทั้งกฎหมายและละเมิดศีลธรรมความเป็นมนุษย์ แต่เมื่อเวลาบีบเหลือน้อยลงเรื่อย ๆ การนิ่งเฉยของเธอก็เหมือนเป็นการยอมรับแล้วว่าเธอเห็นด้วยกับการทรมานนักโทษ
ความเด็ดของหนังยังอยู่ที่อารมณ์ลุ้นระทึกว่าแผนการของ ‘ยังเกอร์’ ที่แสดงโดยไมเคิล ชีนจะสำเร็จหรือไม่ เขาเป็น villian หรือใครบางคนอาจจะมองว่าเป็น anti-hero ที่มีแรงจูงใจต่อต้านนโยบายต่างประเทศของอเมริกา มีความสามารถในการรับมือกับการทรมานนักโทษเพราะเคยฝึกทหารมาก่อน จังหวะการดำเนินเรื่องของหนังก็เข้มข้นขึ้นตามลำดับเมื่อเวลาเหลือน้อยลง และมันยังมาพร้อมตอนจบที่ตบหน้าเหล่านักสิทธิมนุษยชน เหล่าคนรักศีลธรรม เหล่าคนมือถือสากปากถือศีล พร้อมกับทำให้คนดูเกิดคำถามที่ว่า ‘เราจะทำอย่างไรเมื่อต้องอยู่ในสถานการณ์เช่นนั้น’ เราจะยอมละเมิดศีลธรรมเพื่อช่วยเหลือคนอีกเป็นหมื่นหรือไม่
