ดูหนัง Thor Love and Thunder (2022) ธอร์ ด้วยรักและอัสนี
จะได้ไปผจญภัยในแบบที่ไม่เหมือนครั้งไหนที่เขาเคยเจอมาก่อน ภารกิจในการค้นหาความสงบสุขภายใน แต่การเกษียณของเขาถูกรบกวนโดยนักฆ่าข้ามจักรวาลนามว่า กอร์ นักเชือดเทพเจ้า (คริสเตียน เบล) ผู้แสวงหาการสูญพันธ์ของเทพเจ้าทั้งมวล เพื่อต่อสู้กับภัยคุกคามนี้ ธอร์ควานหาความช่วยเหลือจาก ราชาวัลคีรี่ (เทซซ่า ทอมป์สัน), คอร์ก (ไทก้า ไวตีติ) และแฟนเก่าของเขา เจน ฟอสเตอร์ (นาตาลี พอร์ตแมน) ผู้ที่ทำให้ธอร์ตกใจจนตาค้าง เมื่อเธอกำลังถือครองค้อนโยเนียร์ของเขา ในฐานะของ The Mighty Thor พวกเขาต้องร่วมมือกันผจญภัยข้ามจักรวาลไปเพื่อค้นหาความลับเบื้องหลังความแค้นของนักเชือดเทพเจ้าคนนี้ เพื่อหยุดยั้งเขาเอาไว้ก่อนที่มันจะสายจนเกินไป
อ่านบทความ ดูหนัง Thor ธอร์ เทพเจ้าสายฟ้า
อ่านบทความ ดูหนัง Thor The Dark World ธอร์ เทพเจ้าสายฟ้าโลกาทมิฬ
อ่านบทความ ดูหนัง Thor Ragnarok ธอร์ ศึกอวสานเทพเจ้า
อ่านรีวิวก่อน ดูหนัง
นักแสดง

คริสเตียน เบล

เทสซา ธอมป์สัน

เจมี อเล็กซานเดอร์

ผู้กำกับ : ไทกา ไวทีที
รีวิว
beartai
ต้องยอมรับว่านอกจากรูปลักษณ์และชื่อเสียงของซูเปอร์ฮีโรที่มาจากคอมิกของธอร์แล้ว การสวมบทบาทของ คริส เฮมส์เวิร์ธ (Chris Hemsworth) ก็เป็นหลักฐานชั้นดีว่าบางคาแรกเตอร์มันก็เลือกนักแสดง ซึ่งนับจากปี 2011 ที่เราได้เห็นพี่เฮมส์เวิร์ธเป็นขุนค้อน ผู้ชมก็ไม่อาจสลัดภาพของเขาออกจากตัวของธอร์ได้ แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องยอมรับล่ะนะครับว่าเสน่ห์เฉพาะตัวของเขาที่สร้างให้กับธอร์เองก็ดันทำให้ผู้ชมชินกับภาพเดิม ๆ จนเราอาจไม่ค่อยเซอร์ไพร์สเท่าไหร่แล้วกับการปรากฎตัวของเขา เอาเป็นว่าเฮมส์เวิร์ธก็ยังเป็นธอร์ที่เรารักได้เหมือนเดิมแหละครับ แถมแฟนเซอร์วิสด้วยฉากโชว์ก้นที่สาว ๆ รอคอยแต่ยังเทียบกับอีก 2 คนที่เราจะพูดถึงไม่ได้
และสำหรับคนแรกที่เราจะพูดถึงก็คือ คริสเตียน เบล (Christian Bale) นักแสดงอังกฤษเจ้าบทบาทที่เคยสวมชุดมนุษย์ค้างคาวมาแล้วในไตรภาค ‘The Dark Knight’ ของค่ายดีซี แต่พอข้ามฝั่งมามาร์เวล เบล ถูกทาตัวขาวใบหน้ามีแผลเป็นเหมือนอสุรกายร่างย่อม ๆ ที่ทรงพลัง แต่เมกอัปและความเป็นแฟนตาซีไม่อาจบดบังฝีมือการแสดงอันเอกอุได้ ไม่แปลกใจเลยที่ไวทิทิ ผู้กำกับเลือกให้เวลาตอนเปิดเรื่องเล่าที่มาความเจ็บปวดของวิลเลียนตัวล่าสุดอย่างกอร์ เพราะเบลสามารถถ่ายทอดความคับแค้นใจ และบาดแผลที่ลูกรักถูกพรากไปได้อย่างหมดจดและทรงพลัง
อีกคนที่อาจไม่ใช่หน้าใหม่แต่เป็นความน่ายินดีกับการกลับมาก็หนีไม่พ้น นาตาลี พอร์ตแมน ที่กลับมารับบท ดร. เจน ฟอสเตอร์ ซึ่งจากตัวอย่างหนังเราคงเห็นกันไปแล้วว่าเธอมาในมาดสุดเท่ แต่ในหนังจริง ที่มาที่ไปของพลังที่ทำให้เธอได้ครองค้อนโยเนียร์ก็ทำให้บทฟอสเตอร์ของเธอคราวนี้เป็นการกลับมาที่ไม่ใช่แค่กิมมิกของเรื่องราว แต่มันยังส่งผลต่อคาแรกเตอร์หลักอย่างธอร์ และที่สำคัญคือมันเติมอารมณ์โรแมนติกให้กับเรื่องราวของหนังได้เป็นอย่างดี