ดูหนัง Sonic the Hedgehog (2020) โซนิค เดอะ เฮดจ์ฮ็อก เรื่องการผจญภัยของโซนิค เจ้าเม่นสายฟ้า ซึ่งกำลังเดินทางมาเผชิญกับความซับซ้อนของชีวิตบนโลกกับ ทอม มนุษย์-เพื่อนรัก-คนใหม่ โซนิค และทอม ผนึกกำลังกันเพื่อต่อสู้และหยุดยั้งด็อกเตอร์โรบ็อทนิก ที่ไล่ล่าจับโซนิค และทุ่มใข้พลังอย่างมหาศาลเพื่อครองโลก
อ่านรีวิวก่อน ดูหนังนักแสดง
Ben Schwartz
James Marsden
Jim Carrey
Tika Sumpter
ผู้กำกับ
Jeff Fowler
รีวิวหนัง Sonic the Hedgehog (2020) ดูหนังออนไลน์
Sonic ในตอนแรกที่มีการประกาศสร้าง ก็มีแฟนๆให้ความสนใจ และรอติดตามชมกับภาพลักษณ์และตัวอย่างของหนังที่สร้างมาจากเกมดังรายนี้ แต่ก็เป็นเรื่องราวกระแสโด่งดัง(ในทางแย่) เมื่อชาวแฟนๆ และชาวโลกได้เห็นดีไซน์ของเจ้าเม่นสายฟ้าในฉบับหนังจอเงิน จนเกิดกระแสแอนตี้อย่างหนัก จนเป็นที่สนใจในวงกว้าง และตัวหนังก็ยังต้องยอมกลับไปปรับปรุงแก้ไขดีไซน์ของเจ้าโซนิคกันใหม่ทั้งเรื่อง!!และนั่นเป็นสิ่งที่ตัดสินใจได้อย่างถูกต้องมาก เพราะมันช่วยส่งเสริมทางด้านความรู้สึกหลังจากได้ดูหนังเรื่องนี้เป็นอย่างมาก
หนังมีเนื้อหาที่ไม่ซับซ้อน ไม่มีอะไรต้องคาดเดาและต้องตีความให้มากมาย หนังเน้นเนื้อหาที่เบาสบาย และดูสนุก เหมาะทั้งสำหรับ เด็ก วัยรุ่น และผู้ใหญ่ ซึ่งจากตัวบทที่เรียบง่าย ทำให้เราสามารถอินไปกับบทบาทของตัวละครภายในเรื่องได้อย่างเต็มที่
สิ่งที่ทดแทนเนื้อเรื่องที่เรียบง่าย นอกจากบทบาทตัวละครแล้ว สิ่งที่ทำได้ดีอีกอย่างก็คือเรื่องของฉากแอคชั่นที่ดูได้สนุกและตื่นตาในระดับนึง
ตัวหนังยังมีมุกที่คอยแทรกออกมาเรื่อยๆทำให้ขำ และยิ้มกรุ้มกริ่มได้
บวกกับความซนซ่าน่ารักของเจ้าโซนิค ก็ทำให้เราดูหนังได้อย่างเพลินๆ
และสำหรับแฟนๆเกม ตัวหนังค่อนข้างใส่ Easter Egg fan service เข้าไปอีกเพียบ
ท้ายที่สุดสิ่งที่ดีงามและช่วยเสริมกำลังให้เรื่องนี้คือการแสดงของ Jim Carry ในบท Dr. Eggman
สรุป
เป็นหนังที่สามารถดูได้สนุก เพลิดเพลิน สามารถลบล้างคำสบประมาทของหนังที่สร้างจากเกมได้ดี
เหมาะแก่การ พาครอบครัว พาแฟน หรือนัดแก๊งเพื่อนไปดูได้ในวันหยุดพักผ่อน
beartai
น่าจะเป็นหนังวีดิโอเกมที่ถูกจับตามองมากที่สุดเรื่องหนึ่งเลยก็ว่าได้ สำหรับ Sonic the Hedgehog (2020) ที่ช่วงต้นปีที่แล้วมีประเด็นดราม่าจากเหล่าแฟนบอยของน้องเม่นสายฟ้าในตำนาน ซึ่งออกอาการไม่ปลื้มอย่างแรงหลังจากได้เห็นเทรลเลอร์เปิดตัว โดยเฉพาะดีไซน์ตัวโมเดลในแบบฉบับ live action ที่ทำเอาโหงวเฮ้งหน้าตาของเจ้าโซนิคดูห่างไกลกับเวอร์ชันต้นฉบับในเกมหรือการ์ตูนมากจนถูกแฟน ๆ แห่เข้าไปกด dislike กันใหญ่ และจากกระแสต่อต้านอย่างหนักนั้นก็ส่งผลให้ Jeff Fowler ผู้กำกับและทีมผู้สร้างตัดสินใจยอมปรับดีไซน์ตามคำเรียกร้องให้ใกล้เคียงกับในเกมมากที่สุด ซึ่งจากปัญหาเรื่องแก้ดีไซน์นี้ทำให้หนังต้องเลื่อนฉายจากกำหนดเดิมราว 3 เดือน แถมทาง Sega เจ้าของแฟรนไชส์ต้องเข้ามาดูแลการดีไซน์รอบใหม่ด้วย โดย Paramount Pictures ใช้งบประมาณการออกแบบตัวละครใหม่อยู่ประมาณ 5 ล้านเหรียญฯ
เจ้าเม่นสายฟ้ากับบทบาทที่ต้องออกมาเล่นกับคนจริง ๆ ถือเป็นโจทย์ที่ท้าทายไม่น้อย โดยไลน์อัปก็ไม่ขี้เหร่ นอกจาก เจมส์ มาร์สเดน (James Marsden) พ่อหนุ่ม Cyclops และที่หลายคนอาจคุ้นเคยกับบทคาวบอยในซีรีส์ Westworld, ทิก้า ซัมพ์เตอร์ Tika Sumpter สาวผิสีทรงเสน่ห์จาก Gossip Girl, แล้วยังมีลุงจิม แคร์รี (Jim Carry) กับบท ดร.โรบอทนิกส์ คู่อริตลอดกาลของโซนิค ที่คาแรกเตอร์ของ ดร.สติเฟื่องนี่ดูเข้าทางลุงแกมาก ๆ
เรื่องราวของ Sonic the Hedgehog เริ่มจากการปรากฏตัวขึ้นของโซนิค สิ่งมีชีวิตในต่างดาวอันไกลโพ้นหน้าตาคล้ายเม่น ที่มาพร้อมสกิลวิ่งเร็วระดับวาร์ปอันเลื่องชื่อ รวมทั้งมีพลังงานไฟฟ้าแรงสูง ต้องหลบหนีจากบ้านเกิดที่เติบโตตั้งแต่ยังเล็ก จับพลัดจับผลูหลุดมาอยู่ในโลกมนุษย์ที่เมืองกรีนฮิลล์ เมืองเล็ก ๆ ในรัฐมอนทาน่า โซนิคใช้ชีวิตอยู่ในถ้ำเล็ก ๆ อย่างโดดเดี่ยว ไม่มีเพื่อน อยากเล่นอะไรทำอะไรก็ทำคนเดียว จนกระทั่งเกิดเหตุไม่คาดฝันเผลอใช้พลังพิเศษในตัวระเบิดแม่เหล็กไฟฟ้า ทำให้ไฟฟ้าดับทั้งเมือง ซึ่งรัฐบาลสหรัฐช็อกกับเหตุการณ์ครั้งนี้มากจนเชิญนักวิทยาศาสตร์อย่าง ดร.โรบอทนิกส์ เข้ามาตรวจสอบหาสาเหตุ ดร.แกะรอยจนรู้ว่าเป็นโซนิค และค้นเจอเบาะแสสำคัญที่ทำให้ตระหนักถึงพลังไร้ขีดจำกัดของเม่นจอมแสบรายนี้ จึงออกไล่ล่าเม่นสีน้ำเงินทันที ขณะที่โซนิคเองก็ได้พบกับ ทอม วาชอวสกี้ (เจมส์ มาร์สเดน ) เจ้าหน้าที่ตำรวจหนุ่มประจำเมืองกรีนฮิลล์ ซึ่งโซนิคขอร้องให้ทอมช่วยคุ้มครองความปลอดภัยจาก ดร.โรบอทนิกส์ ขณะเดียวกันก็ต้องออกตามหาเหรียญวาร์ปสีทองที่เคยนำพาเขามายังโลกมนุษย์ ซึ่งบังเอิญทำหล่นหายไปในเมืองซานฟรานซิสโก
สำหรับ โซนิค เวอร์ชันนี้ต้องบอกเลยว่าลบฝันร้ายหรือคำสาปสำหรับวิดีโอเกมที่มักออกมาเละเทะเมื่อดัดแปลงเป็นหนังจอเงิน ด้วยการถูกวางในพลอตสำเร็จรูปที่เข้าถึงง่าย ขายความน่ารักสมจริงกับกลุ่มคนที่โตมากับการ์ตูนหรือเกมมากกว่าโฟกัสเด็กรุ่นใหม่ ยิ่งหากต่อยอดจากตัวละครแบบนี้ที่มีความเป็น iconic จ๋าอยู่ในตัวสูงแล้ว ความกดดันจากฐานแฟนบอยนี่แทบจะเป็นตัวกำหนดมาตรฐานไว้เลย นอกจากอาจจะมีบางเรื่องหลุดฟอร์มเลวร้ายจนกลายเป็นไปทำลายความฝันวัยเด็กซะงั้น อย่างพวก เต่านินจา, ดราก้อนบอล หรือนานกว่านั้นก็มาริโอ้ ที่แทบอยากจะลืม ๆ ไปเคยทำเป็นหนัง (ฮา)
ความน่ารักแสบสันต์ และแววตาก๋ากั่นของเจ้าโซนิคที่ต้องยกความดีความชอบให้ทีมผู้สร้างที่ตัดสินใจดีไซน์ใหม่ ตัวหนังเซอร์วิสแฟนดั้งเดิมของโซนิคเป็นอย่างดี โดยจะใส่รายละเอียดศัพท์แสงที่คนเคยเล่นเกมโซนิคสมัยเด็ก ๆ ในยุค 90s ต้องคุ้นเคยมาเป็นระยะ ทำให้รู้สึกอินได้ง่ายมาก ซีจีทำได้ค่อนข้างดีเลย แต่ยังมีส่วนที่รู้สึกลอย ๆ อยู่บ้าง ซึ่งตรงนี้ไม่แน่ใจว่าส่วนหนึ่งเป็นเพราะการดีไซน์โซนิคใหม่ที่มีความเป็นตัวการ์ตูนมากกว่าเดิมหรือไม่ อย่างไรก็ตาม เหนือเรื่อง CGI ออกไป MVP ตัวจริงคือ ลุงจิม แคร์รี นี่แหละที่ขยันขโมยซีนมาก! บางฉากลุงแกฮาซะเอาน้องเม่นเจื่อนไปเลย (ฮา) เรียกว่าเข้ามาเป็นเดอะแบ็กตัวจริง และเมื่อหักลบกับพลอตเบา ๆ ตัวละครแบน ๆ แบบดูขำ ๆ แล้ว ลุงจิม คือคนที่ยกระดับ Sonic the Hedgehog ขึ้นมาสู่ระดับที่เรียกว่า ‘ดีเกินคาด’ อย่างแท้จริง
นอกจากนี้ พาร์ตหนึ่งที่ประทับใจชนิดเซอร์ไพรส์หน่อย ๆ ก็คือเมสเซจเรื่องชีวิตที่ซุกซ่อนอยู่ โดยเฉพาะการตั้งคำถามกับการมีชีวิตอยู่ มันทรงพลังกว่าที่คิดไว้มาก ช่วงท้ายทำซึ้งเอาเรื่อง มันเป็นภาพจำใหม่ ๆ ของโซนิคในมุมที่แตกต่างออกไปจากยี่สิบกว่าปีก่อน เจ้าเม่นสายฟ้าไม่ได้เป็นเพียงตัวละครเท่ ๆ ที่มีไว้โชว์สปีดเร็วกว่านรกอีกต่อไป แต่จะได้เห็นโซนิคมีพัฒนาการหันเหมาเป็นซุปเปอร์ฮีโรคอยปกป้องเมืองกรีนฮิลล์แห่งนี้ด้วย แถมยังมีเครดิตแถมท้ายให้สาวกได้กรี๊ดกร๊าดกันอีก
trueid
เชื่อว่าคนที่ชอบเล่นเกมหลาย ๆ คนน่าจะต้องรู้จักกับเกม Sonic the Hedgehog ที่มีเจ้าเม่นขนสีฟ้าวิ่งกระโดดหยอง ๆ ม้วนตัวไปมาเก็บวงแหวนสีทองและโจมตีศัตรูด้วยท่าทางต่าง ๆ กันมาบ้าง โดยเกม นั้นสามารถเล่นได้ทั้งในโทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์ และเครื่องเล่นเกมต่าง ๆ เกมนี้ถือเป็นหนึ่งในเกมที่ค่อนข้างเก่าแก่มากพอสมควร ถูกสร้างขึ้นโดยบริษัทเซก้า (Sega) ประเทศญี่ปุ่นและวางจำหน่ายมาตั้งแต่สมัยปีค.ศ. 1991 ก่อนที่ผู้เขียนจะเกิดเสียอีก
และในปัจจุบันซึ่งผ่านมาแล้วเกือบ 30 ปี เกมนี้ก็ได้กลายเป็นเกมที่มีความโด่งดังเป็นที่รู้จักของคนทั่วโลกไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก่อนที่จะถูกหยิบยกมาสร้างเป็นภาพยนตร์โดยใช้ชื่อว่า เช่นเดียวกันกับชื่อเกมและออกฉายอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา
และกว่าที่ภาพยนตร์เรื่องนี้จะเข้าฉายได้ก็ต้องฝ่ามรสุมดราม่าจากบรรดาแฟนเกมทั่วโลก เนื่องจากภาพเปิดตัวของเจ้าเม่นสายฟ้าในตอนแรกนั้นมีหน้าตาและสัดส่วนที่ผิดแผกแตกต่างไปจากในตัววิดิโอเกมเป็นอย่างมาก ทำให้ทีมงานต้องทำการเลื่อนฉายภาพยนตร์พร้อมกับแบกรับเอายอด dislike มหาศาลกลับไปพิจารณาแก้ไขตัวละครใหม่ทั้งหมด ซึ่งก็ถือว่าเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องอย่างยิ่งของผู้กำกับ เพราะหลังจากที่โซนิคกลับมาเป็นเม่นสีฟ้าตาโตอย่างที่เราเห็นกันในปัจจุบันก็สามารถเรียกความสนใจจากคนดูให้อยากกลับมาดูภาพยนตร์เรื่องนี้กันอีกครั้งหนึ่ง ถึงกับทุบสถิติยอดรายรับเปิดตัวแซงหน้าภาพยนตร์เกมที่ฉายไปก่อนหน้าอย่างเรื่อง Detective Pikachu กันเลยทีเดียว
รีวิวจากผู้เขียน
และถึงแม้ว่าพล็อตเรื่องของ Sonic the Hedgehog จะดูธรรมดา ๆ ออกไปในแนวหนังสูตรสำเร็จของฮีโร่ที่ต้องต่อสู่กับเหล่าวายร้ายไปสักนิด แต่สิ่งที่จะได้รับจากในภาพยนตร์เรื่องนี้ก็คือการดื่มด่ำไปกับเสน่ห์ของความวุ่นวายและความน่ารักของเจ้าเม่นสายฟ้า พร้อมกับความสนุกสนานจากมุกตลกที่แอบสอดแทรกอยู่ในเนื้อเรื่องเป็นระยะจนทำให้รู้สึกว่ามันไม่ได้น่าเบื่ออย่างที่คิดเลย แถมยังเป็นการสร้างเรื่องราวให้กับตัวละครในเกมได้อย่างน่าสนใจมากเลยทีเดียว คือเรียกได้ว่าเปลี่ยนจากตัวการ์ตูนในเกมที่เรากดเล่นวิ่งไปมาให้กลายมาเป็นตัวละครที่มีชีวิต มีทั้งความป่วน ความฮา ความเท่ จนทำให้เราตกหลุมรักโซนิคในเวอร์ชันภาพยนต์ได้ไม่ยากเลย
และเนื้อหาในภาพยนตร์เรื่องนี้ก็เหมาะกับทุกเพศทุกวัย ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ก็สามารถไปดูได้ ผู้เขียนรับรองได้เลยค่ะว่าหากใครได้ไปชมภาพยนต์ แล้วละก็จะต้องเพลิดเพลินไปกับเรื่องราวของเจ้าเม่นสายฟ้าตลอดทั้งเรื่องอย่างแน่นอน