ดูหนัง Silent Night (2021) เนลล์ ไซม่อน และอาร์ท ลูกชายของพวกเขาพร้อมที่จะต้อนรับเพื่อนๆ และครอบครัวสำหรับกิจกรรมคริสต์มาสที่สัญญาว่าจะเป็นงานสังสรรค์ที่สมบูรณ์แบบ ยกเว้นสิ่งหนึ่ง: ทุกคนจะต้องตาย
อ่านรีวิวก่อน ดูหนังนักแสดง
Keira Knightley
Matthew Goode
Roman Griffin Davis
Annabelle Wallis
ผู้กำกับ
Camille Griffin
รีวิวหนัง Silent Night (2021) ดูหนังออนไลน์
เป็นการกลับคืนสู่ Hollywood อีกครั้งในรอบ 20 ปีของผู้กำกับหนังชื่อดังที่มีเอกลกษณ์เป็นการยิงปืนสองมืออย่าง John Woo กับหนังแอ็คชั่นสุดมันส์ที่มาฉายในช่วงเทศกาลแห่งความสุขปลายปีที่ส่วนใหญ่หนังที่เข้าฉายจะเป็นหนังครอบครัว แต่สำหรับเรื่องนี้ก็คือครอบครัวเหมือนกัน แต่เป็นครอบครัวที่แตกสลายและเต็มไปด้วยความแค้น มันเลยทำให้เกิดหนังที่ดูเอามันส์เข้าว่าเรื่องนี้
เรื่องราวของ “ไบรอัน ก็อดร็อค” (รับบทโดย โจแอล คินนาแมน) พ่อผู้สูญเสียลูกชายที่โดนลูกหลง แก๊งมาเฟียไล่ยิงถล่มกันบนถนนหน้าบ้านพัก “ไบรอัน” วิ่งตามพวกมันไปเพื่อจะเอาคืน แต่กลับกลายเป็นว่า เขาโดนหัวหน้ามาเฟียยิงเผาขน กระสุนเจาะคอทำลายกล่องเสียงถาวร ไม่สามารถเปล่งเสียงเป็นคำพูดได้อีกต่อไป หลังจากเขาหายดี “ไบรอัน” เลือกที่จะเปลี่ยนตัวเองให้เป็นมือสังหาร ตามล่าฆ่ายกแก๊ง สางแค้นเอาคืนพวกมันให้สาสมหนังช่วงครึ่งชั่วโมงแรกจะอืดพอสมควร เพราะหนังจะตัด Flashback ระหว่างปัจจุบันกับอดีตก่อนเกิดเรื่องเพื่อสร้างความรันทดให้กับตัวละครพระเอกของเราอย่างมากมาย คงเป็นเพราะต้องการให้คนดูมีอารมณ์ร่วมไปกับความคับแค้นใจของ ไบรอัน ด้วย ก็เลยต้องดึงดราม่ายาวหน่อย แต่ด้วยหนังมันไม่มีบบทพูดอะไรเลย มีแต่ดนตรีบรรเลงคลอไปเรื่อยๆ มันเลยทำให้ช่วงครึ่งชั่วโมงแรกของหนังมันช่างอึดอัดและอืดอาดพอสมควร
พอพ้นช่วงดึงเช็งไปแล้ว หนังเริ่มเข้าสู่แอ็คชั่นหลักอย่างเต็มตัว ตั้งแต่การที่ ไบรอัน เริ่มฝึกฝนร่างกาย และเริ่มออกไล่ล่า หนังก็สนุกขึ้นแบบพลิกฝ่ามือ การไล่ล่าใรูปแบบเหมือน Taken ผสมการต่อสู้แบบดุดัน ทำให้ความสนุกของหนังเพิ่มขึ้นอย่างทวีคูณ โดยที่หนังไม่ต้องมีบทพูดอะไรแม้แต่คำเดียว แต่คนดูก็ดูรู้เรื่องและมันส์ไปกับหนังได้ เพราะหนังยิงกันเลือดสาด และตามล่ากันอย่างสนุกสนานจนจบเรื่อง
จุดแข็งของหนัง แน่นอนเอกลักษณ์ของ John Woo คือ ภาพสวย แอ็คชั่นมันส์ แต่ละฉากทำออกมาค่นข้างสวยงามละเมียดละมัยตามแบบฉบับของ John Woo ที่คิดถึง และแน่นอนว่า ฉากเอลักษณ์การยิงปืนสองมือ ต้องมา และก็มาจริงๆ ไม่ให้รอเก้อ แต่ส่วนจุดอ่อนของหนัง ไม่ใช่การที่หนังไม่มีบทพูด แต่มันคือบทที่ค่อนข้างอ่อน และไม่ค่อยน่าจะเป็นไปได้ หลายๆ อย่างที่มันดูโม้เว่อร์ แต่ก็นั่นแหละ มันก็คือเอกลักษณ์ของ John Woo เช่นกัน
ในช่วงเทศกาลที่หนังส่วนใหญ่จะมีแต่หนังครอบครัวอิ่มเอมไปกับความสุข แต่หนังเรื่องนี้ออกมาฉายฉีกแนวไปเลย ซึ่งมันดีตรงที่คนดูที่ไม่ชอบหนังแนวครอบครัว ก็ได้เลือกดูหนังมันส์ๆ แบบนี้ ถึงแม้ว่ามันอาจจะไม่ใช่หนังที่เป็นเบอร์ใหญ่มากมาย แต่กลับดูสนุกได้อย่างไม่เสียดายเวลาเลยทีเดียว
อยากดูมานานแล้ว
หากเราดู Genre ที่บอกว่ามันเป็นหนังสยองขวัญ(ปนดราม่า)และอ่านเรื่องย่อจาก IMDb ที่ว่า…
“เนล, ไซม่อน และ อาร์ต ลูกชาย กำลังพร้อมที่จะต้อนรับเพื่อนและครอบครัวของพวกเค้าในคำสัญญาที่ว่านี่จะเป็นคำ่คืนฉลองวันคริสต์มาสที่แสนเปอร์เฟค ทว่า…ทุกคนจะต้องตายยยย”
แค่นี้ความสงสัยจะนำพาหลายท่านให้เกิดความรู้สึกอยากดูพร้อมกับความคาดหวังต่างๆนานาว่า
เอ…มันจะเป็นหนังแบบ April Fool ‘s Day (1986 และ รีเมค 2008) มั๊ยที่ปาร์ตี้กันแล้วตัวละครค่อยตายไปทีละคนแล้วมาเดากันว่าใครคือฆาตกร
หรือว่ามันจะเป็นแบบ You’re Next (2011) ที่กินเลี้ยงกันอยู่ดีๆก็มีใครไม่รู้จากข้างนอกมาไล่ฆ่า
แต่เปล่า!!!
Silent Night หนังอังกฤษเรื่องนี้จะทำให้คุณร้องด่าบุพการีแน่ๆถ้าคุณคาดหวังอะไรแบบสองเรื่องนี้
หนังพ่วงความเป็นดราม่าที่มีหนักหน่วงพอควร
กับรอยปริแยกของเพื่อนๆที่สนิทกันขัดแย้งกับความสุขที่พึงจะมีในวันคริสต์มาสเพราะว่าพวกเค้ากำลังจะตาย…แต่ไม่ได้ตายแบบที่คนดูคาดหวังแน่นอน
หนังไปไกลกว่านั้นเพราะมันมีความเป็น Mystery มากกว่า Horror
หากไม่สปอยด์ผมเองควรพิมพ์จบแค่ว่า
มันคือหนังที่น่าสนใจและท้าทายนักดูหนังเรื่องหนึ่ง
หนังรวมดาราเกรดเอไว้พอควรราวกับว่านี่คือ Love Actually (2003)
เพียงแต่มันมีการตายไม่ใช่ความรัก
และอย่าคาดหวังอะไรกับความสยองและกลไกซับซ้อนของเรื่องไม่งั้นจะรู้สึกเสียเวลาดูแน่นอน
[ในเรื่องครอบครัวและเพื่อนฝูงที่ได้รับเชิญมาฉลองคืนคริสต์มาสเนื่องจากคืนนี้จะเป็นอวสานของโลก
ซึ่งจะมีพายุประหลาดเล็กและใหญ่คอยไล่ฆ่าคนไปเรื่อยๆ คนทั้งโลกหนีไม่ได้
และหากโดนพายุต้องตายอย่างทรมาน
รัฐบาลเลยแจกยาให้กินให้ตายก่อนจะตายเพราะพายุ
ดังนั้นตัวละครในเรื่องเลยจัดปาร์ตี้ก่อนพร้อมใจกันกินยาตายนั่นเอง]