ดูหนัง Shanghai Fortress (2019) เซี่ยงไฮ้ ปราการมหากาฬ
ชายหนุ่มคนหนึ่งตกหลุมรักนายพลหญิงผู้กล้าหาญและไต่เต้าตามรอยเธอเพื่อปกป้องโลกจากศัตรูต่างดาวที่หมายชิงแหล่งพลังงานล้ำค่าไปจากโลก ในปี 2042 เซี่ยงไฮ้กลายเป็นความหวังสุดท้ายในการปกป้องมนุษยชาติจากการโจมตีของกองกำลังต่างดาวที่กำลังล้อมเมืองต่างๆ ทั่วโลก เพื่อเก็บเกี่ยวพลังงานที่ซ่อนอยู่บนโลก นักเรียนหนุ่มเจียงหยางตกหลุมรักหลินหลาน ซึ่งเขาติดตามไปที่ป้อมปราการเซี่ยงไฮ้ จากเด็กนักเรียนหนุ่มที่มีความรักและความไร้เดียงสา เขาจะต้องผ่านช่วงเวลาอันมืดมนและโหดร้ายเหล่านี้เพื่อกลายเป็นฮีโร่ที่มนุษยชาติต้องการไม่ว่าจะต้องแลกมาด้วยอะไรก็ตาม
อ่านรีวิวก่อน ดูหนัง
นักแสดง
Lu Han ลู่ หาน

Shu Qi

Liang Shi

ผู้กำกับ : เท็งฮัวเถา
รีวิว
playinone
ก่อนหน้านี้ไม่นาน คือหนังที่ทำเงินถล่มทลายของจีน ด้วยพล็อตที่แปลกใหม่ และสร้างจากนิยายไซไฟของจีนชื่อดังเช่นกัน ซึ่งจากเรื่องนั้นก็ช่วยเปิดประตูบานใหม่ให้กับหนังไซไฟจากจีนได้เป็นที่ยอมรับจากทั่วโลก แม้คำวิจารณ์นอกประเทศอาจจะไม่ดีมากนัก แต่ก็ต้องยอมรับว่าเป็นหนังที่สร้างมาได้อย่างอลังการจริงๆ ซึ่ง ก็ตามมาไม่นาน ด้วยทุนสร้างระดับ 300 ล้านหยวน ใช้เวลาสร้างนานถึง 6 ปี ใช้ดารานำชื่อดัง “ซูฉีกับลู่หาน” มาชูโรง แต่ผลตอบรับตรงข้ามกันฟ้ากับเหว กลายเป็นหนังที่มาปิดประตูนั้นลงจนสนิท
เซี่ยงไฮ้ ฟอร์เทรส เป็นหนังเรื่องแรกที่ใช้เทคนิคพิเศษจากบริษัทของจีนเองมากถึง 90% แต่จากที่เห็น CG ของหนังกลับดูเป็น CG จากเกม แม้คุณภาพจะสูง แต่ก็ดูหลอกตาเมื่อมาใช้ร่วมกับนักแสดงคนจริงๆ ไม่แปลกใจที่หนังจะสอบตกตั้งแต่จุดขายหลักที่ควรจะทำได้ดีกว่านี้เมื่อเทียบกับ The Wandering Earth นี่กลายเป็นงานสร้างคนละชั้น ทั้งๆ ที่ทุนสร้างสูสีกันมากที่ 320 ล้านหยวน คือดูไปต้องคิดไปตลอดว่านี่เป็นหนังลงโรงฟอร์มยักษ์จริงหรือเปล่า เพราะถ้าไม่รู้มาก่อนแล้วมาดูใน Netflix ก็อาจจะคิดว่าหนังทุนสร้างน้อยก็ได้
เนื้อหาหลักของหนังเป็นแนวอภิมหาสงครามไซไฟต่างดาว ที่ดูยังไงก็ลอกเลียนแบบ ID4 มาแทบทั้งดุ้น ตั้งแต่กลุ่มตัวเอกที่ขับยานรบกู้โลกแบบวิลสมิธ ยานแม่ต่างดาวขนาดยักษ์ที่ต้องลอยมาช้าๆ แล้วเปิดแกนกลางหลักเพื่อยิงเลเซอร์ถล่มโลก เอเลี่ยนที่ไม่รู้ที่มาที่ไป หุ่นที่เอเลี่ยนส่งมาบุกโลกภาคพื้นดินก็แอบเหมือนจากหนัง Edge of Tomorrow อีกเรื่อง เรียกว่าหนังแทบไม่มีเอกลักษณ์อะไรเป็นของตัวเองเลย แถมด้วยฉากสงครามครั้งสุดท้ายก็เดินเรื่องแบบเดาได้ไม่มีอะไรแปลกใหม่ เพราะหนังเลือกใช้แนวทาง ID4 แม้กระทั่งฉากจบอีกครั้ง….