ดูหนัง Rocky Balboa (2006) ร็อคกี้ ราชากำปั้น…ทุบสังเวียน
วันเวลาที่รุ่งโรจน์ถึงขีดสุดของ ร็อคกี้ บัลบัว ที่ได้ล่วงเลยผ่าน ไปแล้วเหลือไว้เพียงความทรงจำ ทุกวันนี้เขาไม่สง่าผ่าเผยเหมือนเก่า แต่ลึกลงไปในใจ ร็อคกี้ยังคงเป็นนักสู้ อยู่ตลอดเวลา วันหนึ่งเขามีโอกาสขึ้น สังเวียนอีกครั้งกับคู่ชกหนุ่ม เมสัน “เดอะ ไลน์” ดิ๊กสัน นักชกเจ้าของตำแหน่ง แชมเปี้ยนรุ่นเฮฟวี่เวท ที่ผู้จัดการของดิ๊ก ต้องการเรียกศรัทธาจากแฟนมวยจากการขึ้น ชกครั้งนี้ และนี่ก็เป็นโอกาสหนึ่งในล้านของ ร็อคกี้ที่จะพิสูจน์ตัวเอง และทำให้คนที่เขารัก ได้ประจักษ์ว่า ถึงสังขารจะชราแต่จิตใจกลับ แกร่งกว่าเดิม ภาพยนตร์เรื่องนี้กล่าวถึงวันเวลาที่รุ่งโรจน์ถึงขีดสุดของ ร็อคกี้ บัลบัว ที่ได้ล่วงเลยผ่านไปแล้ว เหลือไว้เพียงความทรงจำ ทุกวันนี้เขาไม่สง่าผ่าเผยเหมือนเก่า แต่ลึกลงไปในใจ ร็อคกี้ยังคงเป็นนักสู้อยู่ตลอดเวลา วันหนึ่งเขามีโอกาสขึ้นสังเวียนอีกครั้งกับคู่ชกหนุ่ม เมสัน “เดอะ ไลน์” ดิ๊กสัน นักชกเจ้าของตำแหน่งแชมเปี้ยนรุ่นเฮฟวี่เวท ที่ผู้จัดการของดิ๊กต้องการเรียกศรัทธาจากแฟนมวยจากการขึ้นชกครั้งนี้ และนี่ก็เป็นโอกาสหนึ่งในล้านของร็อคกี้ที่จะพิสูจน์ตัวเอง และทำให้คนที่เขารักได้ประจักษ์ว่า ถึงสังขารจะชราแต่จิตใจกลับแกร่งกว่าเดิม
อ่านรีวิวก่อน ดูหนัง
นักแสดง
Sylvester Stallone ซิลเวสเตอร์ สตอลโลน

Burt Young

Antonio Tarver

ผู้กำกับ : ซิลเวสเตอร์ สตอลโลน
รีวิว
Mr.DarkKnight
หลังจากปิดตำนานไปใน Rocky V (1990) ที่แม้จะเป็นการปิดเรื่องราวที่ไม่ถึงกับดีหรือแย่จนเกินไปเพียงไม่เป็นที่น่าจดจำเท่าที่ควรเมื่อเทียบกับภาคก่อนๆ แต่ถือว่าชีวิตของร็อคกี้ บัลบัวร์ (Sylvester Stallone) ได้มาถึงความปุถุชนเดินดินได้สำเร็จโดยไม่ต้องพึ่งพาความร่ำรวยหรือชื่อเสียงใดๆ เดิมทีนั้นการปิดจบในภาคที่ 5 จะต้องลงเอยด้วยการตายของร็อคกี้ แต่ถูกเปลี่ยนใจเพราะสตูดิโอไม่เห็นด้วย นั้นเองจึงเป็นการแก้มือให้กับ Sylvester Stallone ที่อยากแก้ไขตอนจบของหนัง Rocky ที่ไม่ใช่แค่การเผชิญกับอุปสรรคชีวิตที่ต้องปรับตัวเพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่ มันจะต้องมีอะไรที่มากกว่านั้นเมื่อตัวเองแก่ตัวลง ด้วยความไม่สบายใจที่หนังจบเช่นนั้นในภาค 5 จึงอยากแก้ตัวอีกครั้งในปี 1999 ทว่าเพราะจบไม่สวยเนื่องจากเสียงวิจารณ์และรายได้ตกต่ำจึงไม่ได้รับอนุมัติให้สร้างภาคต่อ จนกระทั่งต้องรอต่ออีก 6 ปีถึงจะสร้างภาคต่อได้ ซึ่งกว่าจะได้สร้างทำให้บทหนังที่ Sylvester Stallone เขียนเอาไว้เข้ากับตัวตนจริงๆของเขาพอดี
ความเข้าใจอย่างแรกของการดู คือนี่ไม่ใช่ภาคที่มีเนื้อเรื่องเอกเทศเป็นของตัวเองแม้จะมีชื่อที่แตกต่างกันเพราะใส่นามสกุลลงไปในชื่อหนัง อันที่จริงน่าจะหมายถึงช่วงชีวิตเต็มรูปแบบ ไม่ใช่แค่นักมวยที่มีชื่อเสียงแต่จะมีนามสกุลไว้สำหรับใครบางคนอีกด้วย แน่นอนว่าหมายถึงโรเบิร์ต บัลบัวร์ (Milo Ventimiglia) ลูกชายของร็อคกี้ที่โตเป็นหนุ่มเต็มตัว ในภาคก่อนแสดงถึงความสัมพันธ์พ่อลูกยังไม่เฉียบขาดมากพอในแง่การคลี่คลายประเด็น ฉะนั้นเนื้อเรื่องในภาคนี้ยังคงใช้ความสัมพันธ์พ่อลูกอีกครั้งในเล่าเรื่องให้กระจ่างมากขึ้นจากที่มิติดูแบนราบจะทำให้มีความซับซ้อนมากขึ้น โดยเฉพาะการไล่ระดับจากคนในครอบครัวไปสู่ชีวิตในสังคมหมู่เพื่อนฝูงที่ไม่เคยมองโรเบิร์ตคือโรเบิร์ต แต่มองโรเบิร์ตเป็นลูกของร็อคกี้ ปัญหาภายในใจของโรเบิร์ตเกิดจากความใกล้ชิดพ่อ ทุกครั้งที่มีการเอ่ยถึงชื่อร็อคกี้จะทำให้เขาไร้ตัวตนกลายเป็นแค่เงาเท่านั้น ปัญหานี้ถูกหยิบมาขยายให้มากขึ้นตามช่วงวัย เมื่อเทียบในภาคก่อนหน้านี้ที่ยังเป็นแค่เด็กไม่ได้รับความสนใจจากพ่อเพราะมีเรื่องอื่นที่สนใจกว่า ซึ่งก็เกิดจากชื่อเสียงที่โด่งดังของร็อคกี้เป็นเหตุให้พ่อกับลูกอยู่สถานะที่ต่างระดับ ถึงปัญหาเหล่านี้จะถูกแก้ไขไปแล้ว แต่สิ่งหนึ่งที่ยืนยันว่ายังกระทบต่อโรเบิร์ตเมื่อโตขึ้นคือทุกคนจดจำแค่ร็อคกี้ ในขณะที่โรเบิร์ตอยากทำอะไรด้วยตัวเองให้มีชื่อของเขาแทนจะบอกว่าเป็นลูกชายของร็อคกี้ สิ่งนี้สั่นคล่อนจิตใจของโรเบิร์ตเหมือนพึ่งบารมีของพ่ออย่างเดียว