ดูหนัง Resident Evil The Final Chapter (2016) อวสานผีชีวะ ในฐานะที่ อลิซ เป็นผู้รอดชีวิตเพียงหนึ่งเดียวของมนุษยชาติที่จะต่อกรกับเหล่าฝูงสิ่งที่ไม่มีวันตาย เธอจึงต้องกลับไปยังที่ซึ่งฝันร้ายเริ่มต้นอย่าง แรกคูน ซิตี ที่บริษัทอัมเบรลลากำลังรวบรวมพละกำลังทั้งหมดเพื่อโจมตีเหล่าผู้รอดชีวิตจากวิกฤตล้างโลกนี้ให้หมดสิ้นระหว่างที่ต้องแข่งกับเวลาไปด้วย อลิซได้รวบรวมเพื่อนเก่าและเหล่าพันธมิตรจำเป็นในการสู้ศึกกับพวกไม่มีวันตายและสัตว์ประหลาดกลายพันธุ์ทั้งหลาย อลิซต้องสูญเสียความสามารถไปขณะที่อัมเบรลลาเตรียมโจมตีเต็มกำลัง การผจญภัยครั้งนี้จึงเป็นครั้งที่ยากเย็นที่สุด แม้กระนั้นเธอยังต้องช่วยเหลือมนุษยชาติให้รอดพ้นจากการถูกลืมเลือนตลอดกาล
อ่านรีวิวก่อน ดูหนังนักแสดง
Milla Jovovich
Iain Glen
Ali Larter
Shawn Roberts
ผู้กำกับ
Paul W.S. Anderson
รีวิวหนัง Resident Evil The Final Chapter (2016) ดูหนังออนไลน์
มาถึงภาคสุดท้ายของเฟรนไชส์ผีชีวะ Resident Evil Final Chapter หลังจากที่เนื้อเรื่องออกทะเลมานานตั้งแต่ภาคที่แล้ว อยากทำอะไรก็ทำ อยากจะให้เป็นอะไรก็เป็น อยากจะเอาใครกลับมาก็ได้ อยากจะตัดตัวละครไหนออก เพิ่มตัวใหม่มาได้ทั้งนั้น ทั้งที่เป็นภาคต่อแต่กลับให้ความรู้สึกเหมือนไม่ได้ต่อเนื่องกันเลยแค่อาศัยฉากจบภาคที่แล้วมาสานต่อแล้วก็ไปมีเรื่องใหม่ ภาคนี้ก็ยังคงสไตล์แบบเดิมที่บอกไปเมื่อกี้แต่ดีกว่าภาคที่แล้วหน่อยตรงที่เนื้อเรื่องจะมีการเล่าเพิ่มเติมในจุดเริ่มต้นเพื่อมาเสริมตอนจบ ซึ่งตรงนี้ก็พอฟังขึ้นได้บ้าง เข้าใจเสริมเรื่องราวเพื่อทำให้มีเนื้อเรื่องดำเนินต่อไปได้
ตัวหนังเข้าเรื่องราวค่อนข้างเร็วทำให้ไม่น่าเบื่อและจะเน้นที่ฉากแอ็คชั่นส่วนใหญ่แต่กลับไม่มีความสมเหตุสมผลเอาซะเลยในหลายๆฉาก ทำให้ดูไม่ค่อยสนุก ไม่รู้มีใครสังเกตเหมือนผมรึเปล่า ยกตัวอย่าง(คลิกสปอย)อาวุธชีวภาพบางตัวโผล่มาดูน่ากลัวแต่ก็เสร็จนางเอกไปได้ง่ายๆซะงั้น.. ภาคนี้ถ่ายฉากแอ็คชั่นค่อนข้างเร็วมากตรงกันข้ามกับภาค 4 ที่เน้นฉากสโลสวยๆ บางฉากก็ดูไม่ค่อยรู้เรื่องเหมือนกันว่าบู๊อะไรกันอยู่แต่ก็เป็นส่วนน้อยนะครับ ด้านดนตรีตั้งแต่ภาค 4 ค่อนข้างมีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นแปลกหูพอให้จำได้แต่ภาคนี้กลับไม่มีอย่างนั้น
เรื่องตัวละครหนังใช้ตัวละครไม่คุ้มค่ามากๆ อย่างแคลร์ที่มีความเก่งและโดดเด่นแต่กลับแทบไม่มีบทบาทอะไรเลยไม่ได้เป็นตัวแปรสำคัญใดๆที่รู้สึกว่าช่วยอลิซได้ ไม่รู้จะเอากลับมาคืนจอทำไมแค่กลับมาให้หายคิดถึง เวสเกอร์ก็มาในลักษณะเดียวกันกลายเป็น creep กากๆตัวนึง หนังยังคงเน้นไปที่อลิซมากๆเหมือนภาคที่ผ่านๆมา ตัวนางรองไม่ได้เด่นและมีประโยชน์จนจดจำได้เหมือนภาค 1-3 แบบ เรน จิล แคลร์ ภาคที่แล้วอุตส่าห์เอาจิลกลับมา เอด้า ลีออนก็มีแต่ก็ตัดบททิ้งไปซะงั้น.. ที่รู้สึกน่าเบื่ออีกอย่างคือตัวร้ายมักจะรู้ว่าตัวเองต้องทำอะไรแต่ไม่ทำ ได้แต่พูดว่าฉันน่าจะฆ่าเธออย่างงู้นอย่างงั้นแต่พอมีโอกาสก็ไม่ทำซะที สุดท้ายก็เป็นหน้าที่ผู้ดีสวนกลับได้ด้วยคำพูดเท่ๆ ท่าสวยๆ ส่วนอลิซก็ยังเว่อเหมือนไม่เคยไม่ว่านางจะมีไวรัสหรือไม่มีก็ไม่ได้ต่างกัน
Resident Evil Final Chapter อวสานผีชีวะไม่ทำให้ผิดหวังเลย นี่คือสิ่งที่ผมคิดว่ามันน่าจะเป็นยังงี้อยู่แล้ว… จะมีดีหน่อยก็น่าจะเป็นเนื้อเรื่องที่เข้าใจเสริมตอนต้นเพื่อเดินเรื่องราวต่อจนจบแบบพอไปได้ ฉากแอ็คชั่นที่ทำมาสักแต่เอามันแต่ก็ไม่ได้รู้สึกมันขนาดนั้นแถมยังค่อนข้างเร็วแว่บไปแว่บมา ใครที่ดูมาตั้งแต่ภาคแรกก็น่าจะดูภาคนี้ให้จบๆไป ส่วนใครที่ไม่เคยดูสักภาคหรือไม่ได้ดูต่อเนื่องก็ปล่อยผ่านก็ได้มั้ง 55 คือส่วนตัวรู้สึกว่าถ้าจะไปดูเอาแค่มัน มันก็ไม่ได้ฟินขนาดนั้น มีแคลร์ที่เป็นจุดน่าสนใจสำหรับคอเกมเพราะใส่ชุดของภาค Revelation 2 ซึ่งดูดีมากๆ นอกนั้นก็..ตามนั้นครับ
พล็อตเรื่อง – 7/10
ดำเนินเรื่อง – 6/10
ตัวละคร – 5.5/10
สรุป – 6.5/10
lcdtvthailand
เรื่องย่อ : ด้วยคำแนะนำของ Red Queen อลิสจึงออกเดินเพื่อช่วยเหลือมนุษยชาติครั้งสุดท้าย การเดินทางอันยาวนานที่มีจุดเริ่มต้นที่แร็คคูนซิตี้ ก็ต้องจบที่แร็คคูนซิตี้เช่นกัน บรรดาผีชีวะที่มีอยู่เกลื่อนเมือง และมนุษย์พวกเดียวกันที่จ้องจะทรยศหักหลัง อลิสจะสามารถฝ่าฝันเพื่อนำความหวังมาให้กับมนุษยชาติได้หรือไม่ หาคำตอบได้ใน Resident Evil : The Final Chapter
วิจารณ์ (สปอย) : แรกเริ่มเดิมทีผมเองไม่อยากคาดหวังกับภาคนี้สักเท่าไหร่ แต่ที่ต้องไปดูก็เพราะว่าไหนๆ อุตส่าห์ดูมาจนจะจบเรื่องอยู่แล้ว ก็ขอจ่ายเงินซื้อตั๋วไปดูบทสรุปหน่อยแล้วกัน ในภาค The Final Chapter นี้ ตัวหลักที่ดำเนินเรื่องยังคงเป็นอลิสคนเดิม เพิ่มเติมคือความเก่งกาจที่น้อยลง ทำไมถึงน้อยลง? เพราะตั้งแต่ต้นยันจบผมยังไม่เห็นอลิสใช้พลังจิตเลย ทั้งๆ ที่ ตอนสุดท้ายของภาค 5 เวสเกอร์ ฉีด T-Virus เข้าร่างคืนแล้ว ดังนั้นอลิสต้องใช้พลังจิตได้เหมือนเดิม แต่ทำไมถึงไม่ใช้ก็ไม่รู้
ช่วงต้นเรื่องประมาณ 2-3 นาที มีการเล่าแบบ Flash Back คร่าวๆ ให้คนที่จำความไม่ได้ ได้เข้าใจเนื้อเรื่องหลักๆ ที่ผ่านมา ถัดจากนั้นก็จะเป็นการเข้าสู่เนื้อเรื่องหลักโดยตรง เนื้อหาภายในภาคนี้จะอยู่ที่การเฉลยปมตัวตนของอลิส และการไปนำยาสลายเชื้อ T-Virus เพื่อให้ผีชีวะ (ซอมบี้) ทั้งหลายหายไปจากโลก ภายใต้คำแนะนำของ Red Queen จะเห็นได้ว่าศัตรูภาคที่แล้วกลับเปลี่ยนเป็นมิตรในภาคนี้ ส่วนมิตรในภาคที่แล้วอย่างเวสเกอร์ดันเปลี่ยนเป็นศัตรูในภาคนี้ซะงั้น?
ด้านฉากต่อสู้ภายในเรื่องมีมาให้เห็นเป็นระยะๆ และยังคงเห็นตัวละครประกอบยืนทื่อๆ อยู่เช่นเดิม (ประมาณว่ารอคิวเข้าใส่) โดยเฉพาะฉากชิงมอเตอร์ไซค์ นี่ถือเป็นจุดอ่อนในเรื่องของมุมกล้องที่ไม่ควรมีให้เห็น และความประหลาด หรือความประมาท? ที่ชวนสงสัยคือเวสเกอร์สามารถป้องกันด้วยการปิดทางเข้าทุกทางไม่ให้อลิสเข้ามาชิงยาได้แต่ก็ไม่ทำ รอให้อลิสเข้ามาก่อนค่อยปิดประตูขัง ผลก็เลยแพ้ไปตามระเบียบ
สรุป : Resident Evil : The Final Chapter ถือว่าเป็นเรื่องที่มีความขาดๆ เกินๆ พอสมควร บทอ่อนอยู่หลายจุด แม้จะมีการเล่าเนื้อหาในภาคที่แล้วมาในช่วงต้น แต่มันก็ไม่ได้ช่วยสื่อถึงความเกี่ยวเนื่องอะไรเลยในบทที่ปูสู่ภาคอวสานนี้ ส่วนฉากบู๊ก็ยังทำได้ไม่สุดความตื่นเต้าเร้าใจที่ควรมีหายไปเยอะ
คะแนน 6/10
beartai
ในภาค Final Chapter นี้ไม่มีเนื้อหาใดซับซ้อนมากนัก หลักๆ แล้วตัวอลิซ ต้องย้อนกลับไปยัง Raccoon City เพื่อเอาตัวยาต้านไวรัสทีเพื่อจัดการกับซอมบี้ครองเมืองให้หมดโลกและจบภารกิจเสียที ซึ่งแม้ว่าจะมีบรรดาสหายเก่ามาร่วมต่อสู้ด้วย แต่ดูเหมือนว่าหนังเรื่องนี้มันเป็นของ อลิซ และ มิลล่า ฉายเดี่ยวไปเสียแล้ว เรียกว่าไม่แบ่งใครดังใครเด่นเลย เรียกว่าเป็นเพียงเหยื่อของกับดักตามด่านต่างๆ ในการเคลียร์ภารกิจเท่านั้น ไม่มีความผูกพัน จะตายก็ไม่เสียดาย ตายให้รู้ว่า ‘เออ มันก็ไม่ง่ายขนาดนั้นหรอกนะโว้ย!’ (ฮา)
อีกหนึ่งสีสันของภาคส่งท้ายนี้ คือการได้ ลีจุนกิ มาร่วมเล่นด้วย ซึ่งสำหรับติ่งเกาหลีที่รอดูพระเอกหน้าหวานรายนี้ ต้องบอกว่าไม่ได้ออกมาเป็นฟอร์มนักแสดง extra ฉากสองฉาก และแม้จะโผล่หน้ามาไม่มากแต่มีบทบาทพอตัวในฉากสำคัญเหมือนกัน เรียกว่ามาเป็นน้ำจิ้มขยายฐานเรียกคนดูที่พอกล้อมแกล้มไปกับเรื่องนี้ได้
สำหรับ Resident Evil แต่ไหนแต่ไรมันก็คล้ายหนังแฟรนไชส์สไตล์ คือดูเอามัน เดาทางง่าย ไม่ต้องถามหาความสมเหตุสมผล แต่ต้องยอมรับว่า เป็นภาคจบที่มีฉากบู๊สะใจระดับเวอร์วังอลังการ ดูสนุกตื่นเต้นระทึก มีฉากให้ลุ้น ให้กดดันอยู่ตลอด ไม่ก๊องแก๊ง อาจมีจุดที่ตัวหนังเฉลยปมความลับของอลิซออกมาง่ายและขาดชั้นเชิงไปสักหน่อย ส่วนตัวแอบเสียดายตรงนี้ แต่สำหรับการเลือกฉากจบนั้นคิดว่าลงตัวสมกับเป็น Resident Evil แล้ว
หลายคนบอก Resident Evil มันเป็นธุรกิจครอบครัวของ มิลล่า เพราะได้ทั้ง พอล ดับเบิลยู. เอส. แอนเดอร์สัน สามีมานั่งแท่นผู้กำกับ และ เอฟเวอร์ แอนเดอร์สัน ลูกสาวของเธอก็มารับบทเป็น อลิซในวัยเด็ก และ AI ที่ชื่อ Red Queen แต่สำหรับ มิลล่า โจโววิช กับวันเวลาที่ล่วงเลยผ่านมาในวัยหลัก 4 นำหน้า ริ้วรอยแห่งประสบการณ์เริ่มปรากฏบนใบหน้าที่เคยสวยใส แต่แววตาที่กระพริบอย่างมุ่งมั่นเด็ดเดี่ยวของเธอยังชัดเจน นั้นปฏิเสธไม่ได้ว่า นางเอก Resident Evil คือยี่ห้อที่คู่ควรกับเธอมากที่สุด ตลอดเส้นทางโลดแล่นบนแผ่นฟิล์มทั้งในอดีต ปัจจุบัน และอนาคตของเธอ