ดูหนัง My Boo (2024) อนงค์
“โจ” เกมเมอร์หนุ่มดวงตก ได้รับมรดกเป็นบ้านที่มีผีเจ้าของบ้านคนเก่า “อนงค์” แถมมาด้วย แต่คนก็ไม่ยอมหนี ผีก็ไม่ยอมไป คนกับผีเลยจับมือกันเปิดบ้านผีสิงให้คนมาเที่ยวเล่น แถมยังได้เห็นความน่ารักของผีบ้านนี้มากขึ้นทุกวันจนเกิดเป็นความรัก
อ่านรีวิวก่อน ดูหนังนักแสดง
ธามไท แพลงศิลป์
เฉลิมพล ทิฆัมพรธีรวงศ์
ผู้กำกับ : คมกฤษ ตรีวิมิล
รีวิว My Boo (2024) อนงค์
entertainment
แล้วก็มาถึงคิวเปิดตัวโปรเจกต์หนังเรื่องแรกของค่ายหนังใหม่ล่าสุดในวงการหนังไทย อย่าง คาร์แมน ไลน์ กับ จังก้า สตูดิโอ ที่เสมือนเป็นการแตกไลน์คอนเทนท์มาจากอาณาจักรเวิร์คพอยท์ ที่ประเดิมด้วย ” หนังไทยชื่อโบราณ ๆ แตพกลีลาความหลอนแบบน่ารักแบบเต็มประดา ด้วยโทนหนังรอมคอมชนิดที่คนดูยอมให้หลอกง่าย ๆ ตลอดทั้ง 2 ชั่วโมงเต็ม
เป็นเรื่องราวของ โจ เกมเมอร์หนุ่มดวงตก ได้รับมรดกเป็นบ้านที่มีผีเจ้าของบ้านคนเก่า แถมมาด้วย แต่คนก็ไม่ยอมหนี ผีก็ไม่ยอมไป คนกับผีเลยจับมือกันเปิดบ้านผีสิงให้คนมาเที่ยวเล่น แถมยังได้เห็นความน่ารักของผีบ้านนี้มากขึ้นทุกวัน จนเกิดเป็นความรักที่ไม่อาจจะเป็นไปได้ขึ้น
นี่ก็คือการหวนคืนสังเวียนอีกครั้งในรอบสิบกว่าปี เผลอ ๆ เกือบจะ 20 ปีได้แล้ว ของผู้กำกับ “เอส คมกฤษ” ที่ทิ้งทวนผลงานสร้างหนังเรื่องล่าสุดก็ตั้งแต่ สายลับจับบ้านเล็ก กับค่ายจีทีเอช เมื่อปี 2550 ก่อนจะผันตัวไปกำกับซีรีส์และละครไทยเป็นหลัก ดังนั้นการกลับมาครั้งนี้คงจะต้องปัดฝุ่นกันพอประมาณ แต่เรื่องคารมคมคายในตัวหนัง ก็ยังพอจะไว้วางใจเขาคนนี้ได้ในระดับหนึ่ง
ก็อย่างเกริ่นเอาไว้ เอส คมกฤษ ต้องปัดฝุ่นมือฝีตัวเองครั้งใหญ่ เพราะนานมากแล้วที่เขาไม่ได้แตะงานหนังอย่างจริงจัง แต่อย่างน้อย ๆ ใน เรื่องนี้ก็ถือว่าท่วงท่าและลีลาในความเป็นเอสก็ยังถูกหยิบนำมาใส่เอาไว้ได้อย่างเหมาะเจาะพอ โดยเฉพาะสไตล์ลูกเล่นตามวิถีหนังรอมคอมของผู้กำกับคนนี้ มักจะลงรายละเอียดในแง่ความสัมพันธ์ในขั้นตอนการเกี้ยวพาราสีอันเป็นเสน่ห์ ที่จุดนี้ก็ยังทำออกมาได้น่าทะนุถนอม
beartai
สำหรับคนที่ไม่คุ้นชื่อของคมกฤษ ตัวหนังก็ยังมีความน่าสนใจอื่นที่ชวนดึงดูดให้เข้าไปชมอยู่ไม่น้อย ทั้งว่ามันเป็นหนังรอมคอมเกี่ยวกับคนและผีที่ให้บรรยากาศใกล้เคียง ‘พี่มาก..พระโขนง’ (2556) หนังพันล้านของ โต้ง – บรรจง ปิสัญธนะกูล จะเรียกว่าคนไทยขาดหายและโหยหาหนังแนวนี้ที่ทำถึงในด้านคุณภาพ ทั้งตลกและโรแมนติกมานานกว่า 10 ปีกันเลยทีเดียวจนกระทั่งเรื่องนี้
หนังเล่าเรื่องของ โจ วัยรุ่นแคสต์เกมที่จับพลัดจับผลูได้บ้านโบราณมาหนึ่งหลัง เขาตั้งใจขายเอาเงินไปใช้หนี้ ทว่าเมื่อพบเจอกับบรรดาผีที่อาศัยอยู่ในบ้านที่เป็นมิตรและจิตใจใสสะอาดอย่างคนยุคก่อนอย่างไม่น่าเชื่อ โจจึงทำสัญญาแลกเปลี่ยนจะช่วยให้พวกเขาได้ไปสู่สุคติด้วยการค้นหากระดูกที่ฆาตกรเอาไปซ่อนไว้ในส่วนใดส่วนหนึ่งของบ้าน แลกกับการที่พวกผีจะช่วยเขาทำธุรกิจบ้านผีสิงเอาเงินไปล้างกับเจ้าหนี้สุดโหด แต่ระหว่างนั้นเขาก็เกิดความผูกพันกับทั้งพวกผู้ใหญ่ในหมู่บ้าน เด็กวัยรุ่นท้องถิ่น และผีโดยเฉพาะ ที่เขาตกหลุมรักตั้งแต่แรกเจอเลย แม้จะเป็นฉากสุดสยองที่เห็นเธอถูกจำลองการตายทุกเที่ยงคืนก็ตาม
น่าสังเกตว่าหนังวางเส้นเรื่องให้ง่ายและสะอาดมาก หลายอย่างเราก็พอจะเดาได้เลยว่ามันจะเดินไปอย่างไร แต่มันก็มีรายละเอียดที่มีเสน่ห์ให้ชวนติดตามไป แม้จะรู้ทั้งรู้อยู่แล้วเช่นกัน ในขณะเดียวกันมันก็มีเส้นเรื่องย่อยที่คอยหยอดเข้ามาทั้งเจ้าหนี้ ทั้งแฟนเก่า ทั้งความรักคนกับผี ทั้งปริศนาฆาตกรในอดีต ที่ทำให้หนังไม่น่าเบื่อ และมีจังหวะเคลื่อนไปข้างหน้าแบบกำลังพอดี เป็นหนังฟีลกู๊ดที่วางตัวได้ละเมียดแบบคิดมาดีเนียนกริบเลยทีเดียว