ดูหนัง Mission Impossible 3 2006 มิชชั่นอิมพอสซิเบิ้ล 3
ชายคนหนึ่งชื่อโอเวนดาเวียนสังหารเจ้าหน้าที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศที่อีธานฮันต์ในตำนานส่งสายลับซึ่งออกจากภารกิจการรบ ตอนนี้ฮันท์มีคู่หมั้นจูเลียซึ่งเชื่อว่าเขาทำงานให้กับแผนกจราจรเมื่อเขาฝึกเจ้าหน้าที่ IMF ที่อายุน้อยกว่าให้เข้าร่วมการต่อสู้ เขาได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติภารกิจสุดท้าย ภารกิจของเขาเขาควรเลือกที่จะยอมรับมันคือการจับดาเวียนซึ่งขายอาวุธพิษที่เรียกว่าตีนกระต่าย แต่ดาเวียนนั้นบ้าบิ่นโหดร้ายและเป็นอันตรายถึงชีวิต เขาสัญญากับฮันต์ว่าจะพบจูเลียทำร้ายเธอและอีธานจะตายเกินกว่าจะช่วยเธอได้ ภารกิจไม่แตกต่างจากคนอื่นมากนักอันตรายฉลาดและเป็นไปไม่ได้ แต่ตอนนี้มันเป็นเรื่องส่วนตัว
เป็นภาพยนตร์โลดโผน/สายลับลำดับที่ 3 ในชุด มิชชั่น:อิมพอสซิเบิ้ล กำกับและร่วมเขียนบทโดยเจ.เจ. แอบรัมส์ นำแสดงโดยทอม ครูซ, ฟิลิป ซีมัวร์ ฮอฟฟ์แมน, มิเชลล์ โมนาแกน และวิง เรมส์ เข้าฉายเมื่อปี ค.ศ. 2006
อ่านบทความ ดูหนัง มิชชั่นอิมพอสซิเบิ้ล 1 Mission Impossible 1
อ่านบทความ ดูหนัง มิชชั่นอิมพอสซิเบิ้ล 2 Mission Impossible 2
อ่านบทความ ดูหนัง มิชชั่นอิมพอสซิเบิ้ล 4 Mission Impossible 4
อ่านบทความ ดูหนัง มิชชั่นอิมพอสซิเบิ้ล 5 Mission Impossible 5
อ่านบทความ ดูหนัง มิชชั่นอิมพอสซิเบิ้ล 6 Mission Impossible 6
อ่านบทความ ดูหนัง มิชชั่น อิมพอสซิเบิ้ล ล่าพิกัดมรณะ Mission Impossible Dead Reckoning Part One (2023)
อ่านรีวิวก่อน ดูหนัง
นักแสดง
มิเชล โมนาแกน
ฟิลิป ซีมัวร์ ฮอฟฟ์แมน
วิง เรมส์
ผู้กำกับ : เจ.เจ. แอบรัมส์
รีวิว
Vintage Motion
แม้ว่า Mission: Impossible III (2006) จะไม่ใช่ภาคที่ดีที่สุดในบรรดาแฟรนไชส์สายลับนักบู๊ผู้พิชิตภารกิจที่เป็นไปไม่ได้ แต่ก็ยากจะปฏิเสธว่านี่คือภาคที่มีตัวร้ายที่ดีที่สุดและน่าจดจำที่สุด
.
ทั้งที่ โอเว่น เดเวียน ไม่ใช่นักสู้อย่าง ฌอน แอมโบรส ใน MI2 (2000) ไม่ใช่ยอดอัจฉริยะไอคิวสูงติดเพดานแบบ เฮนดริกส์ จากภาค Ghost Protocol (2011) และไม่ใช่สายลับมากประสบการณ์แบบ โซโลมอน เลน ใน Rogue Nation (2015) แต่สิ่งที่ทำให้พ่อค้าอาวุธสุดโหดคนนี้ก้าวขึ้นไปยืนเด่นเต็มภาคภูมิก็เพราะเขาได้รับการถ่ายทอดบทบาทโดยชายที่ชื่อ ฟิลิป ซีย์มัวร์ ฮอฟฟ์แมน
.
“แกเป็นใคร” “แกชื่ออะไร” “แกมีเมียมั้ย” “หรืออาจจะแฟน” “เพราะถ้าแกมี ฉันนี่แหละจะตามหาเธอ ฉันจะทรมาน เอาให้เลือดตกยางออก เอาให้เธอแหกปากร้องเรียกชื่อแก” “แล้วจากนั้นฉันจะลากแกมาฆ่าทิ้งต่อหน้าเธอ”
.
นี่เป็นถ้อยคำที่เดเวียนบอกกับฮันท์ในระหว่างที่ตนเองกำลังถูกขู่เข็ญเค้นข้อมูลอยู่บนเครื่องบินที่ระดับความสูงสองหมื่นฟุต แทนที่จะหวาดกลัวต่อการตกอยู่ในกำมือของกลุ่มจารชนคนหัวกะทิ สิ่งที่เดเวียนใช้โต้ตอบกลับอย่างไม่หวาดหวั่นก็คือสีหน้าและวาจา
.
“อีธาน” เดเวียนเอ่ยออกมาหลังได้ในสิ่งที่ต้องการ ในทันใดชายผู้ถูกมัดตัวมัดเท้าก็ดูน่ากลัวขึ้นแบบร้อยเท่าพันทวี นี่คือพลังการแสดงที่เข้ามาช่วยแบกหนังเอาไว้ ให้สามารถตรึงความสนใจจากผู้ชมได้ต่อไปจนจบ
.
นี่ถือเป็นผลงานหนังที่มีทุนสร้างสูงที่สุดเรื่องหนึ่งตลอดชีวิตของฮอฟฟ์แมน จู่ๆ เขาก็ดอดเข้ามารับเล่นหนังแอ็คชั่นจัดเต็มงานสเปเชียลเอฟเฟ็กต์ และที่น่าสนใจไปอีกก็ตรงที่เขาถ่ายเรื่องนี้ต่อจาก Capote (2005) งานที่ฮอฟฟ์แมนยอมรับว่ายากที่สุดและต้องงัดพลังออกมามากมายมหาศาลชนิดส่งให้ตัวเองคว้ารางวัลออสการ์อย่างสมศักดิ์ศรี แต่ดูเหมือนว่าพลังของเขาไม่ได้แห้งเหือดลงไป มันยังคงเหลือล้น เดเวียนเต็มไปด้วยความน่าเกรงขามสมคาแร็คเตอร์ผู้ร้ายใจมาร ตัวอย่างชั้นดีของการแสดงน้อยที่ได้มาก
.
“ถ้าฟิลิปไม่ชนะออสการ์สาขาสมทบชายยอดเยี่ยมจากบทนี้ คงมีอะไรผิดปกติกับกระบวนการลงคะแนนโหวตแล้วล่ะ เพราะผมไม่เคยเห็นใครเล่นร้ายได้ดีงามขนาดนี้มาก่อน” หนึ่งในทีมนักแสดงของ MI3 กล่าว
.
ดังเช่นบทบาทมากมายก่อนหน้า ฮอฟฟ์แมนสามารถดึงศูนย์รวมความสนใจมาอยู่ที่ตัวเองได้โดยเหมือนไม่ต้องออกแรงพยายามซึ่งแท้จริงนั้นมีเบื้องหลังมาจากความทุ่มเทเกินร้อย เขาไม่ได้หล่อเหลาเทียบเท่าพระเอก ไม่ใช่ซูเปอร์สตาร์ ไม่มีอะไรน่าหลงใหลเป็นพิเศษ แต่ทุกวันนี้ผู้ชมก็ยังคงจดจำเขาอย่างขึ้นใจ ทั้งการสบตากับ ทอม ครูซ บนเครื่องบินแบบไม่กะพริบ หรือฉากนับสิบที่ทำเอาผู้ชมอึดอัดหายใจไม่ทั่วท้องพร้อมกับฝังใจกับประโยคชวนฉงน “ตีนกระต่ายอยู่ไหน!”
