ดูหนัง John Wick Chapter 3 2019 จอห์น วิค 3 แรงกว่านรก
อ่านบทความ ดูหนัง จอห์น วิค 1 แรงกว่านรก John Wick 1
อ่านบทความ ดูหนัง จอห์น วิค 2 แรงกว่านรก John Wick 2
อ่านบทความ ดูหนัง จอห์น วิค 4 แรงกว่านรก John Wick Chapter 4
นักแสดง John Wick Chapter 3
ฮัลลี เบอร์รี


ผู้กำกับ : แชด สตาเฮลสกี้
รีวิว John Wick Chapter 3 (2019) จอห์น วิค 3 แรงกว่านรก
sanook
สิ่งที่เป็นเอกลักษณ์ โดดเด่น ไม่เหมือนใครในจักรวาลของจอห์น วิค คือฉากแอ็คชั่นสุดมันส์ ที่ผ่านการออกแบบมาอย่างดี คิวบู้ที่ลงตัว โดยในแต่ละฉากนั้น ผ่านการคิดอย่างเป็นระบบ เป็นขั้นเป็นตอนว่าผู้ชมจะได้เห็นการต่อสู้แบบไหนในฉากเหล่านี้ โดยภาคที่ 3 อย่าง Parabellum ได้นำเสนอการต่อสู้ในรูปแบบต่างๆ อาทิ การต่อสู้ด้วยมือเปล่า อาวุธและของมีคม (ในแบบที่ผู้ชมต้องเสียวผิวหนัง ยามที่ตัวละครหยิบจับมีดหรือดาบ) ฉากยิงปืน ฉากต่อสู้บนม้า หรือการไล่ล่าบนรถมอเตอร์ไซต์ความเร็วสูงที่ดูแนบเนียน กลมกลืนและไม่หลอกตา สไตล์เฉพาะตัวของหนัง John Wick ทั้ง 3 ภาคนั้น มาจากผลงานการกำกับของ แชด สตาเฮลสกี้ อดีตสตันท์แมนและผู้ออกแบบคิวบู๊ในหนังแอ็คชั่นมากมาย ในโลกที่เต็มไปด้วยแสงนีออนของจอห์น วิคนั้น หากเราลองสังเกตรายละเอียดให้ดีแล้ว เราจะพบว่าในหลายสถานการณ์ที่หนังเรื่องนี้ดำเนินไปนั้น มักจะเป็นช่วงเวลากลางคืน และบรรยากาศแวดล้อมจะดูไม่น่าไว้วางใจซักเท่าไหร่ ซึ่งช่วยสะท้อนโลกของจอห์น วิคออกมาได้เป็นอย่างดี
ประเด็นใหม่ๆใน John Wick: Chapter 3 คือการพาคนดูไปดูแง่มุมการทำงานของ “สภาสูง” ว่ามีกระบวนการจัดการอย่างไรกับเหตุการณ์ที่จอห์น วิคได้ลงมือละเมิดกฎและลงมือสังหารคนในโรงแรมคอนทิเนลตัน (พื้นที่ห้ามนองเลือด) และยังส่งผลต่อคนรอบตัวของจอห์น ที่เคยหยิบยื่นความช่วยเหลือให้กับเขา ประกอบกับหนังภาคนี้ ยังนำเสนอไอเท็มใหม่ๆในโลกอาชญากร ไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลาที่จอห์น วิค เก็บของสำคัญบางอย่างไว้ในหอสมุดนิวยอร์กเพื่อนำออกมาใช้ในยามคับขัน พันธะเลือดที่เขาเคยทำไว้กับโซเฟีย (ฮัลลี่ เบอร์รี่) เมื่อในอดีต การเปิดแง่มุมความรักที่เขาเคยมีกับภรรยาเมื่อนานมาแล้ว อีกทั้งเผยให้เราเห็นว่า “บาบายาก้า” ที่จอห์น วิคเคยเอ่ยถึงนั้น ที่จริงแล้วมันคืออะไร ปกครองโดยใคร ทำหน้าที่อะไรในแวดวงอาชญากร
ขอบสหนัง
กลับมาเป็นครั้งที่ 3 ของหนังแอคชั่นที่อัพเกรดตัวเองจากหนังแอคชั่นฟอร์มเล็กสู่หนังแอคชั่นโคตรแมสที่คนทั้งโลกรอคอย ซึ่งถ้าจะให้ผมนิยามไตรภาคของหนังชุดนี้ ผมก็คงต้องนิยามว่า นี่แหละหนังแอคชั่นไตรภาคที่ดีที่สุด ที่ผมยกให้มันยืนหนึ่งในใจไปแล้วเรียบร้อย
.
จุดเด่น
*ฉากแอคชั่น
ยอมใจเหล่าทีมงาน ผู้กำกับ หรือนักแสดงเอง ที่สามารถออกแบบคิวบู้ฉากแอคชั่นในเรื่องได้สุดติ่งกระดิ่งแมวมากขนาดนี้ ตลอดทั้งเรื่องของ John Wick: Chapter 3 มันให้อารมณ์แบบวิดิโอเกมส์ที่ไต่ระดับความสนุกไปเรื่อยๆ หนังมีฉากแอคชั่นใหญ่ๆประมาณ 7-8 ฉากทุกฉากมีความโดดเด่นเป็นลักษณะเฉพาะไม่เหมือนกันเลยแม้แต่ฉากเดียว และทุกฉากมันล้วนตราตรึงพร้อมความสดใหม่ทุกฉาก
.
เราจะได้เห็นทั้งฉาก GUN-FU ที่เป็นจุดเด่นของหนังชุดนี้ที่ยังคงสามารถทำได้ดีตามมาตราฐาน ฉากดวลมีดกับเหล่าคนตามล่าหรือว่า FINALBOOSS ที่สามารถทำได้โหดและเจ๋งเป็นบ้า ฉากดวลบนม้าหรือฉากดวลบนมอเตอร์ไซค์ที่ผมคิดว่านี่คงเป็นหนังที่ทำฉากเหล่านี้ได้ดีที่สุดเท่าที่เคยเห็นมาและ แต่ที่ผมชอบที่สุดก็คงเป็นฉากโชว์หมา คือโอ้โห ออกแบบได้ไงวะ ดูดีมากๆ
เอออีกอย่างที่ผมชอบ ใครจะไปคิดว่าหนังจะใช้ฉากแอคชั่นนี่แหละเป็นจุดขายมุขตลก ซึ่งผมคิดว่า มีแต่ JOHNWICK เท่านั่นแหละที่จะขายมุขตลกแบบนี่ได้ 555
.
*การขยายจักรวาลและการรู้จักตัวของจอห์นมากขึ้น
สิ่งที่ผมหลงรัก หนังเรื่องนี้ขึ้นไปอีกก็คงเป็นการขยายถึงขอบเขตจักรวาลนักฆ่าภายในเรื่อง ที่มันยิ่งดู ยิ่งน่าค้นหา หนังเต็มไปด้วยแมสเซนที่มันสามารถนำไปขยายให้จักรวาลแห่งนี้ใหญ่มากขึ้น ทำให้ช่วงที่เล่าเรื่องของChapter 3 ดูไม่น่าเบื่อเลยแม้แต่น้อยสำหรับผม
beartai
สำหรับภาค 3 นี้ ได้รับชื่อภาคว่า Parabellum ซึ่งจริง ๆ มาจากประโยคลาตินสุดโด่งดังที่มีคำเต็ม ๆ ว่า Si vis pacem, para bellum หรือที่มีคนแปลไทยไว้อย่างเพราะพริ้งนานมาแล้วว่า แม้หวังตั้งสงบ จงเตรียมรบให้พร้อมสรรพ โดยว่ากันว่ามันเป็นประโยคที่สืบเนื่องย้อนไปได้ยันสมัยโรมันนั่นเลยแม้จะไม่มีหลักฐานชัดเจน แต่ความมีชื่อเสียงของมันนั้นก็ยังสืบทอดมาสู่ภาพลักษณ์ของกระสุนปืนที่แพร่หลายที่สุดในโลกตระกูลหนึ่ง หรือก็คือ กระสุน 9 มม. ที่มีฉายาเรียกท้ายว่า พาราเบลลั่ม เช่นเดียวกับชื่อภาค 3 ของหนังนั่นเอง
“แม้หวังตั้งสงบ จงเตรียมรบให้พร้อมสรรพ” สำหรับ จอห์น วิค ภาคนี้ ก็ใช้ความหมายของวลีเด็ดนี้อย่างเด็ดดวงทีเดียว
หนังเล่าเหตุการณ์ต่อเนื่อง เมื่อ จอห์น วิค (คีอานู รีฟส์) ทำผิดกฎของวงการนักฆ่าที่ห้ามทำภารกิจใด ๆ (ห้ามฆ่าแกงกันนั่นล่ะ) ในเขตธรณีของพื้นที่เป็นกลาง โดยในเรื่องนั้นคือโรงแรมคอนติเนนทัลของสภาสูงเหล่านักฆ่านั่นเอง ซึ่งการแหกกฎของวิคเพื่อล้างแค้นครั้งนี้ ทำให้สหายเก่าผู้ดูแลโรงแรมอย่าง วินสตัน (ไอแอน แมคเชน) ต้องกลั้นใจส่งคำร้องให้อัปเปหิจอห์น วิค ออกจากวงการ พร้อมตั้งค่าหัวสูงถึง 14 ล้านเหรียญ ผลคือนอกจากจอห์นจะไม่ได้รับความช่วยเหลือใด ๆ จากคนทั้งโลกนักฆ่าแล้ว เขายังถูกทั้งโลกตามล่าด้วยค่าหัวที่สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ทิ้งค่าหัวอันดับสองบนตารางกระจุย หนังเล่าเรื่องแบบไร้รอยต่อมาที่ภาคนี้ เมื่อจอห์นมีเวลาเหลืออีก 1 ชั่วโมงก่อนคำสั่งอัปเปหิจะถูกประกาศ เขาจึงดิ้นรนสุดชีวิตในการมีชีวิตอยู่ต่อเพื่อที่จะยังมีคนได้จดจำเรื่องราวของคนรักของเขาต่อไป (โรแมนติกไปแล้วเฮีย) ซึ่งการดิ้นรนของจอห์นนี่ล่ะคือสิ่งที่เรียกว่า แม้หวังตั้งสงบ จงเตรียมรบให้พร้อมสรรพ คือหนทางแห่งสันติที่เขาจะไม่ต้องฆ่าทุกคนที่จะมาฆ่าเขา นั่นคือการก่อสงครามเพื่อกรุยทางไปเจรจากับผู้ครองอำนาจสูงสุดแห่งโลกนักฆ่าให้ยกเลิกคำสั่งอัปเปหิเขานั่นเอง