ดูซีรี่ย์ Hyper Knife (2025)
ศัลยแพทย์ระบบประสาทที่เสื่อมเสียชื่อเสียงทำการผ่าตัดผิดกฎหมายในขณะที่เผชิญหน้ากับอดีตอันมืดมนของเธอ เมื่อเธอได้พบกับอดีตที่ปรึกษาของเธอ การต่อสู้ระหว่างอำนาจและการแก้แค้นก็เกิดขึ้นขณะที่เธอก้าวข้ามขีดจำกัดทางจริยธรรมเพื่อแสวงหาความก้าวหน้าทางการแพทย์ ดร.จองซอกศัลยแพทย์ระบบประสาทผู้ ชาญฉลาดแต่เสื่อมเสียชื่อเสียง ซึ่งถูกหลอกหลอนด้วยโศกนาฏกรรมในอดีต เมื่อถูกเพิกถอน ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพแพทย์เธอหันไปทำการผ่าตัดผิดกฎหมายในเงามืด โดยถูกขับเคลื่อนด้วยความกระหายที่ไม่อาจดับได้ในการผลักดันขอบเขตของประสาทวิทยาเมื่อเส้นทางของเธอมาบรรจบกับอดีตที่ปรึกษาของเธอ ดร.ชเวด็อกฮี ที่มีชื่อเสียงแต่ลึกลับ บาดแผลเก่าๆ ก็ถูกเปิดขึ้นอีกครั้ง และเกมอันตรายแห่งอำนาจและการแก้แค้นก็เกิดขึ้น ในขณะที่ซอกเจาะลึกลงไปในขั้นตอนที่ล้ำสมัยแต่ยังน่าสงสัยในเชิงจริยธรรม เธอต้องต่อสู้กับผลที่ตามมาทางศีลธรรมจากการกระทำของเธอ ทำให้เส้นแบ่งระหว่างความจำเป็นทางการแพทย์และความทะเยอทะยานส่วนตัวเลือนลางลง
อ่านรีวิวก่อน ดูหนัง
นักแสดง
Park Eun-bin พัก อึน-บิน
Sul Kyung-gu
Yoon Chan-young
ผู้กำกับ : Kim Jung-hyun
รีวิว Hyper Knife (2025)
entertainment
แพทย์อัจฉริยะที่ถูกขับไล่ออกจากวงการเพราะเหตุการณ์ลึกลับบางอย่าง เธอต้องหลบซ่อนและทำงานในห้องผ่าตัดเถื่อนเพื่อรักษาผู้ป่วยที่ไม่มีใครเหลียวแล ขณะที่ ชเวด็อกฮี อดีตอาจารย์ของเธอยังคงครองอำนาจในฐานะศัลยแพทย์อันดับต้นๆของประเทศ สิ่งที่น่าสนใจคือเรื่องไม่ได้มีแค่การต่อสู้ของแพทย์กับโรคร้ายแต่เป็นการต่อสู้เชิงอำนาจและศีลธรรมในวงการแพทย์ จองเซอ๊กต้องการทวงคืนความยุติธรรมขณะที่ชเวด็อกฮีทำทุกอย่างเพื่อปกปิดความลับที่อาจทำลายชื่อเสียงของเขา การปะทะกันของทั้งคู่ไม่ได้เป็นแค่การเผชิญหน้าระหว่างอาจารย์กับศิษย์แต่เป็นเหมือนสงครามที่ใช้มีดผ่าตัดเป็นอาวุธ ส่วนตัวคิดว่าตัวซีรีส์เรื่องนี้ไม่ได้มาแบบเนิบช้าแต่เปิดเรื่องด้วยเหตุการณ์ที่กดดันตั้งแต่ต้น เราจะได้เห็นจองเซอ๊กในสภาพของคนที่ถูกทำลายหมดสิ้น (เรียกว่าแทบไม่เหลืออะไร) เธอไม่ได้มีเพียงแค่ฝีมือแพทย์อันเฉียบคมแต่ยังมีความแค้นนใจที่รอวันสะสาง การดำเนินเรื่องเดินไปข้างหน้าแบบไม่มีจังหวะให้พักหายใจ สิ่งที่ทำให้เพล็อตเรื่องนี้แตกต่างจากซีรีส์การแพทย์ทั่วไปคือการนำเสนอปมขัดแย้งที่ไม่ได้มีเพียงแค่ แพทย์ vs โรค แต่เป็น แพทย์ vs ระบบ และ อุดมการณ์ vs การอยู่รอด Conflict ในเรื่องจึงไม่ได้มีแค่การตัดสินใจของแพทย์ในห้องผ่าตัดแต่ยังรวมไปถึงศีลธรรมและอำนาจที่บิดเบือนชีวิตตัวละคร
พัคอึนบิน ในบทบาทศัลยแพทย์ที่ไม่ได้แค่รักษาแต่กำลังเอาตัวรอดจากโลกที่อยุติธรรม จองเซอ๊ก เรื่องนี้ถือว่าเป็นบทที่พิสูจน์ว่าพัคอึนบินสามารถทำอะไรได้มากกว่าการเป็นนางเอกสายอบอุ่นหรือฉลาดแกมโกงเหมือนใน Extraordinary Attorney Woo หรือ The King’s Affection เพราะใน เธอกลายเป็นหญิงสาวที่เคยอยู่จุดสูงสุดแต่ถูกเหยียบย่ำให้ต่ำสุด เธอเลือกที่จะต่อสู้แทนที่จะยอมแพ้ เสน่ห์ของพัคอึนบินในเรื่องนี้นี้อยู่ที่ แววตาและอารมณ์ที่เล่นได้แบบคมกริบเหมือนมีดผ่าตัดเธอสามารถถ่ายทอดอารมณ์ของคนที่ทั้งบอบช้ำและแข็งแกร่งในเวลาเดียวกัน ซึ่งในขณะที่พัคอึนบินเป็นไฟที่กำลังลุกโชน ซอลคยองกู ก็คือหุบเหวที่ลึกจนเราไม่รู้ว่าอะไรอยู่ข้างล่างในบทบาท ชเวด็อกฮี เรียกว่าเป็นตัวละครที่น่ากลัวที่สุดในซีรีส์เพราะเขาไม่ได้ใช้เพียงฝีมือการแพทย์ที่เป็นเลิศเท่านั้นแต่ยังใช้จิตวิทยาในการควบคุมคนรอบข้าง ซอลคยองกูทำให้บทนี้มีเสน่ห์ แม้เขาจะเป็นคนที่อยู่บนหอคอยอำนาจควบคุมวงการแพทย์และเป็นเหตุผลที่ทำให้จองเซอ๊กต้องล้มลง สาบานว่าเป็นคาแรคเตอร์ที่ทำให้ขนลุกซู่ที่สุดในเรื่องเพราะสองหน้าเก่งมาก!
