ดูหนัง Hot Frosty (2024) ฟรอสตี้สุดฮอต
เมื่อผ้าพันคอวิเศษของม่ายสาวทำให้สโนว์แมนเจ้าเสน่ห์มีชีวิตขึ้นมา เขาจะช่วยให้เธอกลับมารัก หัวเราะ และมีความสุขในช่วงเทศกาลก่อนที่ตัวเองจะละลายหายไปได้ไหม นิทานเรื่องตุ๊กตาหิมะมีฉากอยู่ที่เมืองโฮปสปริงส์ รัฐนิวยอร์ก ซึ่งเป็นสถานที่ที่เคธี่ บาร์เร็ตต์เป็นเจ้าของและดำเนินกิจการร้านอาหาร Kathy’s Diner ในตัวเมือง เคธี่เป็นหญิงม่ายที่สามีของเธอเป็นคนดูแลซ่อมแซมบ้าน ในตอนนี้ เครื่องทำความร้อนของเธอเสีย หลังคารั่ว และขั้นบันไดของเธอต้องเปลี่ยนใหม่
Kathy Barrett บริหารร้าน Kathy’s Kafé ในตัวเมือง Hope Springs รัฐนิวยอร์ก สามีของเธอซึ่งเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งเป็นช่างซ่อม แต่ตอนนี้เครื่องทำความร้อนของเธอเสีย หลังคารั่ว และขั้นบันไดของเธอก็พัง Kathy นำอาหารกลางวันไปให้เพื่อนของเธอ Theo และ Mel ที่ร้านเสื้อผ้า Reclaimed Rags พวกเขาให้ผ้าพันคอสีแดง “ที่ถูกกำหนด” ไว้สำหรับเธอ โดยให้กำลังใจเธอให้แสวงหาความสุขหลังจากความโศกเศร้าของเธอ ระหว่างทางกลับบ้าน เธอเห็นการแข่งขันปั้นตุ๊กตาหิมะ จึงนำผ้าพันคอไปวางบนตุ๊กตาหิมะที่มีกล้ามเป็นมัดและถ่ายรูปไว้
ในคืนนั้น ตุ๊กตาหิมะก็มีชีวิตขึ้นมา ขณะที่เขาวิ่งหนีจากคู่สามีภรรยาสูงอายุและสุนัขของพวกเขา เขาก็พลัดตกลงไปในกระจกร้านขายเสื้อผ้าโดยบังเอิญ เขาคว้าชุดเอี๊ยมและรองเท้ายางกันน้ำจากร้านมาใส่ ในตอนเช้า Kathy พบเขากำลังคุยกับตุ๊กตาหิมะตัวอื่นๆ และเชิญเขาเข้าไปในร้านอาหารของเธอเพื่อทานอาหาร เธอคิดว่าป้ายชื่อ “Jack” บนชุดเอี๊ยมเป็นชื่อตุ๊กตาหิมะที่เพิ่งกลายมาเป็นมนุษย์ และถามว่าความทรงจำแรกของเขาคืออะไร เขาตอบว่าเป็นภาพที่เธอเอาผ้าพันคอมาวางบนตัวเขา จากนั้นก็ใช้แฟลชกล้อง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงสืบสวนการงัดร้านขายเสื้อผ้าที่คาดว่าน่าจะเกิดขึ้น และสาบานว่าจะตามหาคนร้ายให้ได้
อ่านรีวิวก่อน ดูหนัง
นักแสดง
Lacey Chabert เลซีย์ ชาเบิร์ต
Dustin Milligan
Katy Mixon
Lauren Holly
ผู้กำกับ : Jerry Ciccoritti
รีวิว Hot Frosty (2024) ฟรอสตี้สุดฮอต
entertainment
คิวหิมะโรยมา คิวเพลงคริสต์มาสเปิดขึ้น ความแฟนตาซีแบบฟุ้ง ๆ จุติมาสิ นี่คือหนังโรแมนติกที่มาเก็บขายในช่วงเทศกาลปลายปีที่เรามักจะคุ้นเคยทุก ๆ ปีว่ามันจะต้องดี ปีนี้เป็นคิวของ ฟรอสตี้สุดฮอต” ที่เป็นความฉลาดที่หยิบเอาตำนานเทพนิยายคริสต์มาสของหนุ่มผู้พิทักษ์มาดัดแปลงเป็นหนังรักในแนวทางที่ไม่เคยมีใครเล่าแบบนี้มาก่อน มาพร้อมด้วยหุ่นสุดปั๊วะที่ต้องเผลอกลืนน้ำลายเฮือกของพ่อฟรอสตี้คนนี้
Hot Frosty เป็นเรื่องราวของ แคธี สาวม่ายที่ยังจมปลักอยู่กับความลำพัง หลังจากต้องสูญเสียคนรักไปเมื่อไม่นานมากนัก แต่จู่ ๆ ก็มีหนุ่มหุ่นเซี๊ยะสุดฮอตมาปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าเธอ หลังจากที่เธอนำเอาผ้าพันคอไปพันให้กับตุ๊กตาหิมะกลางเมือง ชายหนุ่มผู้ไร้เดียงสาต่อโลกได้รับความเมตตาของหญิงสาวที่หัวใจแทบจะถูกแช่แข็งไปแล้ว แต่กลายเป็นว่าเขาเข้ามาค่อย ๆ ละลายหัวใจเธอ ส่วนเธอก็มีส่วนที่จะทำให้เขาเสี่ยงละลายหายไปด้วยเช่นกัน
ขอรีวิวไปกระชับ ๆ กับหนังเรื่องนี้ไปเลยแล้วกัน นี่คือผลงานล่าสุดของผู้กำกับชาวแคนาดา “เจอร์รี ชิคคอริตตี้” ที่คร่ำหวอดอยู่ในวงการมายาวนานตั้งแต่ยุค 90s แต่เขามักจะโดดเด่นกับผลงานจอเล็กมากกว่า เช่นเดียวกับใน Hot Frosty ก็นับว่าเป็นการกลับสร้างหนังสไตล์ที่เขาคุ้นเคยดี เพราะเมื่อ 2-3 ปีก่อนเขาก็เคยทำหนังรักอิงเทศกาลแนว ๆ นี้มาแล้ว จึงรู้ดีกว่าจะต้องไปในทิศทางไหน ขอแค่คนดูถอดสมองดูไปซื่อ ๆ ก็เพียงพอ
playinone
หนังคริสต์มาสสูตรสำเร็จของเน็ตฟลิกซ์ที่มีมากันทุกปีในช่วงเดือนนี้ที่อาจจะดูจำเจหน่อย แต่ก็มักจะมีดีกว่าหนังรักประจำเดือนที่เน็ตฟลิกซ์ปั๊มกันออกมาทุกเดือนเสมอ ด้วยคอนเซ็ปต์ที่ต้องมีเรื่องแฟนตาซีผสมกลมกล่อมลงไปในเรื่องให้ดูมันสุดพิเศษกว่า แล้วก็สามารถละทิ้งเหตุผลปกติไปได้หมดด้วยคำว่า นี่มันคริสต์มาส แค่นั้นเองง่ายๆ เลย ซึ่งเรื่องนี้ก็เดินไปตามรอยนั้นแล้วก็ทำมันออกมาได้ดีไม่น้อยเลยทีเดียวครับ
หนังใส่เรื่องแฟนตาซีลงไปง่ายๆ ว่านางเอก (แสดงโดย Lacey Chabert) ได้รับผ้าพันคอผืนนึงมาแต่ไม่ชอบนัก เธอจึงเอามันไปพันคอตุ๊กตาหิมะที่แกะสลักเป็นรูปชายหนุ่ม ซึ่งก็กลายเป็นผ้าผันคอผืนนี้เป็นของวิเศษที่ทำให้ตุ๊กตานี้กลายเป็นชายหนุ่มกล้ามโตรูปหล่อขึ้นมาจริงๆ (แสดงโดย Dustin Milligan) แล้วก็มาขออาศัยอยู่บ้านเธอเพราะชอบตั้งแต่แรก ซึ่งเรื่องใส่เหตุผลให้เธอเชื่อว่าสิ่งที่เขาบอกเป็นเรื่องจริงก็เพราะตัวเขาเย็นมาก พาไปหาหมอก็วัดอุณหภูมิได้ติดลบ ซึ่งหนังแทบไม่ได้ทำให้เรื่องนี้ดูเป็นความลับอะไรมาก แต่ก็เอาปมการเป็นตุ๊กตาหิมะมาใช้ได้ดีเลย อย่างการชอบกินน้ำแข็งและอยู่ห้องที่ร้อนมากไม่ได้ (ไม่ถึง 20 องศาคือร้อนแล้ว) เหงื่อจะออกเหมือนละลาย แล้วก็นำปมนี้ไปผูกเข้ากับเรื่องราวสำคัญในตอนไคลแม็กซ์ว่าเจ้าหนุ่มนี่จะรอดต่อไปได้ยังไงยาวๆ ซึ่งหนังก็คลายปมนี้อย่างง่ายเหมือนนิทานเรื่องนึง ซึ่งถ้าผู้ชมดูมาถึงจุดนี้แล้วก็คงได้แต่ยิ้มแฮปปี้มากกว่าจะมากังขาอะไรอีกแล้ว ซึ่งหนังทำสำเร็จในการเสนอเรื่องราวแฟนตาซีช่วงคริสต์มาสนี้ได้จริงๆ
