ดูหนัง Fast and Furious 9 (2021) เร็ว…แรงทะลุนรก 9
ดอม โทเร็ตโต ซึ่งรับบทโดย วิน ดีเซล ปลีกตัวออกไปใช้ชีวิตอย่างเงียบ ๆ พร้อมกับเล็ตตี้และไบรอันลูกชายตัวน้อย แต่พวกเขารู้ว่าแม้จะอยู่ในดินแดนสงบสุข ก็ยังมีอันตรายอยู่ คราวนี้ ดอมต้องเผชิญหน้ากับตราบาปในอดีตของเขา หากเขาต้องการจะปกป้องชีวิตของคนที่เขารักมากที่สุด ทีมนักซิ่งของเขากลับมารวมตัวกันอีกครั้ง เพื่อหยุดการทำลายล้างโลกโดยนักฆ่าและนักซิ่งฝีมือฉกาจซึ่งเขาคือเจคอบ น้องชายของดอม (จอห์น ซีนา จาก The Suicide Squad สองปีหลังเผชิญหน้ากับไซเฟอร์ โดมินิค ทอเร็ตโต และครอบครัวของเขาต้องเผชิญหน้ากับ “เจคอป” น้องชายของโดมินิคผู้ซึ่งเป็นมือสังหารและนักซิ่งระดับพระกาฬซึ่งมีความแค้นส่วนตัวกับโดมินิค โดยเจคอปได้ร่วมทีมกับไซเฟอร์ ศัตรูเก่าของโดมินิคทอเร็ตโต้
อ่านบทความ ดูหนัง The Fast and the Furious 1 เร็ว…แรงทะลุนรก
อ่านบทความ ดูหนัง 2 Fast 2 Furious เร็ว…แรงทะลุนรก เร็วคูณ 2 ดับเบิ้ลแรงท้านรก
อ่านบทความ ดูหนัง The Fast and the Furious 3 Tokyo Drift เร็ว…แรงทะลุนรก ซิ่งแหกพิกัดโตเกียว
อ่านบทความ ดูหนัง Fast and Furious 4 เร็ว…แรงทะลุนรก 4 ยกทีมซิ่ง แรงทะลุไมล์
อ่านบทความ ดูหนัง Fast and Furious 5 เร็ว…แรงทะลุนรก 5
อ่านบทความ ดูหนัง Fast and Furious 6 เร็ว…แรงทะลุนรก 6
อ่านบทความ ดูหนัง Fast And Furious 7 เร็ว…แรงทะลุนรก 7
อ่านบทความ ดูหนัง Fast And Furious 8 เร็ว…แรงทะลุนรก 8
อ่านบทความ ดูหนัง FAST X เร็ว…แรง ทะลุนรก 10
อ่านบทความ ดูหนัง Fast & Furious Hobbs & Shaw เร็ว…แรงทะลุนรก ฮ็อบส์ & ชอว์
อ่านรีวิวก่อน ดูหนัง
นักแสดง
Vin Diesel วิน ดีเซล

มิเชลล์ รอดริเกซ

จอร์ดานา บรูสเตอร์

ไทริส กิ๊บสัน

ผู้กำกับ : จัสติน ลิน
รีวิว Fast and Furious 9 (2021) เร็ว…แรงทะลุนรก 9
beartai
หนังภาคนี้ก็ไม่ต่างกัน มันคือความพยายามหนีข้ามการเปลี่ยนแปลงบางอย่างอันน่าทุลักทุเล โดยใช้พลังความเป็นพระเอกแบบไร้เหตุผลและพลังซีจีอีกมหาศาลที่คงเหลือแค่เอามาทำตัวละครเล่นแทนคนแสดงจริง เราก็คงเรียกว่าหนังการ์ตูนพิกซาร์ได้เต็มปาก มาแถผ่านอุปสรรคไปแบบน่าจะตื่นเต้นแต่ก็ไม่มีอะไรให้ลุ้นอีกแล้ว เพื่อเชื่อมไปภาคถัดไปอย่างเท่ ๆ ไร้รอยขีดข่วนหรือแม้แต่ทิ้งความรู้สึกผิดเป็นแผลใจให้ตัวละครนำสักนิดก็ยังไม่มี Fast and Furious 9
การเปลี่ยนแปลงสำคัญในภาคนี้หนึ่งประการที่น่าจะสำคัญใกล้เคียงกับตอนที่หนังเปลี่ยนจากหนังแฟรนไชส์หนังรถแข่งข้างถนนแบบดิบ ๆ มาสู่ยุคหนังซูเปอร์ฮีโรในช่วงเปลี่ยนผ่านภาค 2 ที่ วิน ดีเซล (Vin Diesel) หายไปจากการเป็นตัวละครนำ ก่อนจะกลับมาร่วมกับผู้กำกับ จัสติน ลิน (Justin Lin) แบบชิมลางในภาค 3 และมาเต็มตัวในภาค 4 ที่เหมือนการรีบูตแฟรนไชส์นี้อย่างแท้จริงยาวมาถึงภาคปัจจุบัน
โดยหากสังเกตต้องบอกว่าหัวเรือใหญ่ทางความคิดที่ทำให้แฟรนไชส์นี้เป็นที่นิยมนอกจากดีเซลและลินแล้ว ก็ปฎิเสธไม่ได้ว่านั่นคือวิสัยทัศน์ของ คริส มอร์แกน (Chris Morgan) มือเขียนบทที่ปั้นหนังมาตั้งแต่ภาค 3 จนถึงภาค 8 และอิ่มตัวทางความคิดสร้างสรรค์จนขอออกไปทำสปินออฟใน Fast & Furious Presents: Hobbs & Shaw (2019) ซึ่งก็เป็นตัวเทียบที่ดีกับหนังภาค 9 นี้เหมือนกัน
ซึ่งส่วนตัวเริ่มรู้สึกว่าทีมงานควรหยุดไปหาอย่างอื่นทำเพื่อรอให้มีความคิดสร้างสรรค์ดี ๆ ค่อยกลับมาทำตั้งแต่ภาค 7 แล้ว พอฝืนทำต่อทุก 2 ปีมันก็ต้องไอเดียตันที่สำคัญมันไม่ใช่หนังที่ทำแบบ 3 ภาคก็จบด้วย แต่อย่างว่าหนังยังทำเงินก็ต้องออกมาโกยในช่วงสังขารทีมงานยังดีอยู่ ก็เข้าใจได้
ในขณะที่มอร์แกนกลับตัวทันและเลือกไปหามุมมองใหม่ ๆ และจับเอกลักษณ์ตัวละครที่ยังหน้าไม่ช้ำ (มาก) อย่าง ฮอบบ์ส และ ชอว์ มาทำหนังคู่หูที่โคตรคอนทราสต์แต่ก็ยังมีมุมโคตรฮาโคตรมัน และแม้จะมีกลิ่นความโม้แบบจัดเต็ม แต่มันก็ยังให้ความบันเทิงกับผู้ชมได้และยังยืนพื้นในความสมจริงตามเซ็ตติ้งใหม่ของหนังที่โม้มาแต่เริ่มอย่างตัวร้ายที่เป็นซูเปอร์โซลเยอร์ได้ลงตัว (แน่นอน วาเนสซา เคอร์บี (Vanessa Kirby) คือของแก้เลี่ยนกล้ามที่โคตรดี)
entertainment
ถึงแม้ว่าจะเกือบจะไม่มีโอกาสได้ดู แต่ในที่สุดก็ได้ดู และขอยืนยันอีกเสียงด้วยว่า…หนังเรื่องนี้ต้องดูโรงหนังจริงๆ เพราะนี่คือ “Fast & Furious 9” แฟรนไชส์หนังเรื่องยิ่งใหญ่ที่ไม่น่าเชื่อเลยว่าได้ดำเนินมายาวนานถึง 20 ปีเต็มแล้ว กลับมาในคราวนี้ก็ต้องบอกเลยว่า หนังไปไกล…ไปไกลมากๆ ด้วยการแหกคอกและฉีกกฏทุกสิ่งอย่างที่มีบนโลกใบนี้ กลายเป็นความบันเทิงเต็มรูปแบบที่ไม่ต้องมองหาเหตุผลอะไรกันอีกต่อไปแล้ว
Fast & Furious 9 เริ่มต้นเล่าเรื่องราวของ ดอม โทเร็ตโต ที่ปลีกตัวออกไปใช้ชีวิตอย่างเงียบสงบ พร้อมกับเล็ตตี้และไบรอัน ลูกชายตัวน้อย แต่พวกเขารู้ว่าแม้จะอยู่ในดินแดนสงบสุข ก็ยังมีอันตรายอยู่ คราวนี้ดอมต้องเผชิญหน้ากับตราบาปในอดีตของเขา หากเขาต้องการจะปกป้องชีวิตของคนที่เขารักมากที่สุด ทีมนักซิ่งของเขากลับมารวมตัวกันอีกครั้ง เพื่อหยุดการทำลายล้างโลกโดยนักฆ่าและนักซิ่งฝีมือฉกาจซึ่งเขาคือ เจคอบ น้องชายของเขา
นี่คือหนังเต็มที่อัดแน่นไปด้วยฉากบู๊ลุ้นเกร็งที่เซอร์วิสแฟนๆ ได้เป็นอย่างดีตลอด 2 ชั่วโมงเศษ บอกได้เพียงแค่ว่าภาคที่ 9 ของเรื่องนี้ ต้องปลดปล่อยทิ้งเหตุผลทุกอย่างในโลกแห่งความเป็นจริงเอาไว้ทั้งหมด แล้วปล่อยใจดูหนังแอคชั่นมันส์ๆ เรื่องไป คุณก็ได้รับความบันเทิงเต็มขั้น อันเป็นเจตนารมณ์ที่แท้จริงของผู้สร้างหนังชุดนี้ ที่สามารถมอบให้กับผู้ชมได้เต็มที่ในทุกๆ องก์ของหนัง แม้ว่ามันจะเต็มไปด้วยข้อบกพร่องและความอิหยังวะอยู่เต็มไปหมดก็ตาม
ใน Fast & Furious 9 เรื่องนี้ยังคงมีฉากแอคชั่นดุเดือดและดีไซน์องค์ประกอบมาได้ดียาม อีกทั้งยังพยายามจิกกัดตัวเองเบาๆ ไปในตัวด้วย เพราะหนังมักจะหยิบเอาหลักฟิสิกส์มาอ้างใช้ในการวางแผนปฏิบัติการต่างๆ แต่ดูเหมือนว่าหลักการที่พวกเขานำมาใช้และถ่ายทอดออกมา จะโอเว่อร์เกินแบบสุดโต่ง แต่ก็นับว่าเป็นข้อดี เพราะเท่ากับว่าหนังสามารถพาผู้ชมไปได้สุดทางแบบสุดๆ จริง และผลลัพธ์ที่ได้ออกมาก็คืออรรถรสความมันส์สะใจเกือบเต็มรูปแบบ