ดูหนัง Exit (2019) ฝ่าหมอกพิษ ภารกิจรัก
ยงนัม (โจจองซอก) ชายหนุ่มตกงานมาหลายปี ที่มาร่วมงานฉลองวันเกิดครบรอบปีที่ 70 ของแม่ของเขาในห้องประชุมของโรงแรมแห่งหนึ่ง และในวันนั้นเขาได้พบกับ อึยจู (ยุนอา) หญิงสาวที่เขาแอบรักซึ่งจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยที่เดียวกันที่ได้ทำงานอยู่ที่โรงแรมแห่งนี้ ในช่วงเวลานั้นเองก็มีเหตุการณ์ไม่คาดคิดเกิดขึ้น! จู่ ๆ ก็มีก๊าซพิษลึกลับแพร่กระจายไปทั่วเมือง ทั้ง ยงนัม และเพื่อนสมาชิกของชมรมปีนเขารวมถึง อึยจู จึงต้องร่วมชะตากรรมใช้ทุกวิถีทางในการหนีเอาชีวิตรอดจากเมืองที่เต็มไปด้วยก๊าซพิษให้ได้
อ่านรีวิวก่อน ดูหนังกลับมาให้แฟน ๆ ได้หายคิดถึงแล้วสำหรับไอดอลนักแสดงสาว อิมยุนอา หรือ ยุนอา Girls’ Generation (SNSD) วงเกิร์ลกรุ๊ปรุ่นบุกเบิกจากแดนกิมจิที่ต่างแยกย้ายชั่วคราวไปมีผลงานเป็นของตัวเอง ส่วนสาว ยุนอา หนึ่งในสมาชิกวงที่มีแฟนคลับมากที่สุดซึ่งโดดเด่นด้านงานการแสดง ในปีนี้กลับมากับภาพยนตร์ภัยพิบัติฟอร์มยักษ์ Exit ฝ่าหมอกพิษ ภารกิจรัก ที่แสดงร่วมกับนักแสดงหนุ่มอารมณ์ดี โจ จองซอก ซึ่งเรื่องนี้สาวยุนอาต้องฉีกบทไอดอลสาวสวยมารับบทแอ็คชั่นสุดท้าทายปีนตึกวิ่งหนีหมอกให้แฟน ๆ ร่วมลุ้นเอาใจช่วย
นักแสดง
Jo Jung-suk
Im Yoon-ah
Ko Du-shim
ผู้กำกับ : Lee Sang-geun
รีวิวหนัง Exit (2019) ฝ่าหมอกพิษ ภารกิจรัก
ปีนรั้วดูหนัง
ยงนัม (Jung-suk Jo) หนุ่มวัย 30 ปี ที่เรียนจบมาตั้งนานแล้ว แต่ยังไม่ทำงานอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเสียที สิ่งที่ ยงนัม ทำได้ดีเพียงอย่างเดียวเห็นจะเป็นการปีนหน้าผาที่เจ้าตัวชื่นชอบเป็นชีวิตจิตใจ ทุกวันนี้ ยงนัม ยังอาศัยอยู่กับพ่อแม่และขอเงิน จองฮยอน (Ji-yeong Kim) พี่สาวใช้ แม้เขาจะถูกเธอทั้งตีทั้งบ่นให้ฟังอยู่ทุกวัน แต่ จองฮยอน ก็ยังคอยดูแลน้องชายคนนี้ตลอดมา
จนถึงวันเลี้ยงฉลองวันเกิดอายุครบรอบ 70 ปีให้กับ ฮยอนอ็ก (Du-shim Ko) แม่ของเขา พี่น้องคนอื่นและเหล่าลูกเขย พาเธอไปจัดงานฉลองใหญ่โตที่โรงแรม ยงนัม ที่ไปร่วมงานแบบเขิน ๆ เพราะตัวเองยังวิจัยฝุ่นอยู่ ก็ได้พบกับ อึยจู (Yoona) รุ่นน้องที่เขาเคยสารภาพรักเมื่อหลายปีก่อน แต่กลับถูกเธอปฏิเสธอย่างไม่ใยดี ยงนัม ที่กะจะใช้งานวันเกิดของแม่นี้ เป็นข้ออ้างสานความสัมพันธ์ต่อกลับไม่ใช่เรื่องง่ายเสียแล้ว เมื่อ ผู้จัดการกู (Ki-Young Kang) หัวหน้าของเธอ ก็ตัดสินใจสารภาพรักในวันนั้นเช่นกัน
ทว่าอุปสรรคขวางกั้นความรักของ ยงนัม ไม่ใช่ผู้ชายคนอื่น แต่กลับเป็นหมอกพิษจากการก่อการร้าย ที่กำลังแพร่กระจายไปทั่วทั้งเมือง ทางเดียวที่จะเอาชีวิตรอดได้ก็คือ ยงนัม ต้องงัดเอาสกิลปีนหน้าผาออกมาใช้ เพื่อช่วยชีวิตคนในครอบครัวและ อึยจู พาทุกคนขึ้นไปอยู่ให้สูงที่สุดเท่าที่ทำได้เพื่อรอความช่วยเหลือมาถึง
หนังเกาหลีที่มีทั้งความระทึกขวัญ ตลก ดราม่า โรแมนติก แบบครบถ้วน แถมทำออกมาได้บันเทิงแบบจัดเต็ม non-stop เลยจริง ๆ ในช่วงแรกหนังใช้เวลาในการปูเรื่องราวอยู่พักหนึ่ง ตามสไตล์หนังภัยพิบัติที่แนะนำให้เรารู้จักตัวละคร ความสัมพันธ์ระหว่างกัน ปมดราม่า ก่อนจะเข้าช่วงภัยพิบัติเต็มรูปแบบ ในแง่ของดราม่าไม่ได้ถูกขับเน้นออกมามากนัก ด้วยธีมหนังมีความเป็นคอมเมดี้ด้วย หลายประเด็นเลยถูกทิ้งคาไว้ไม่ได้กล่าวถึง
ธนพล น้อยชูชื่น
มีคนเปรียบเทียบความคูลของหนังว่า บันเทิงไม่แพ้หนังอย่าง Train To Busan (2016) ของ กงยู เลยทีเดียว แต่พูดกันตรง ๆ นะ เทียบคุณภาพงานยังไงก็ยังไม่เท่าหนังกงยูที่ดูโปรดักชันสูงกว่า ทว่าสิ่งที่ทำให้หนังเรื่องนี้ขึ้นอันดับ 1 ถึง 2 สัปดาห์ซ้อนกวาดเงินในเกาหลีไปมหาศาล ก็ต้องบอกว่ามีจุดแข็งที่เด่นไปอีกทาง บันเทิงตลกน้ำตารื้นท่ามกลางวิกฤตขมุกขมัวชวนหวาดหวั่นได้อย่างที่ หนังของกงยูไม่มีทางทำได้เช่นกัน หนังยังเป็นการทดลองผสมหลากหลายแนวหนังเข้ามาในเรื่องเดียว ซึ่งก็ทำได้ชัดเจนหลายดอกด้วยนะ ที่ชัดที่สุดคงต้องเป็น 3 ตระกูลใหญ่ คือ หนังแอ็กชันผจญภัยเอาตัวรอด (Survival) หนังรอมคอมเล่นสถานการณ์ชวนขัน (Romantic Situation Comedy) และหนังครอบครัว (Family)
โดยในส่วนของการเป็นหนังเอาตัวรอดต้องบอกว่าหนังทำได้ลุ้น น่าตื่นเต้นดี โดยเฉพาะการสร้างภาวะกดดันล้อมกรอบตัวละครให้พื้นที่จำกัดลงเรื่อย ๆ และบังคับให้ต้องขึ้นที่สูงเพื่อหนีหมอกพิษที่ปกคลุมและลอยสูงขึ้นทีละนิด ซึ่งต้องอาศัยสกิลการเป็นนักกีฬาปีนหน้าผาที่พระเอกและนางเอกต่างเล่นสมัยมหาวิทยาลัยมาใช้ได้อย่างดี และเพราะทั้งคู่พ่ายแพ้ให้กับชีวิตจริงจึงแทบไม่ได้ฟื้นฝีมือมาก่อน จึงเป็นสิ่งที่น่าจะทำได้หรืออาจทำไม่ได้ให้ผู้ชมชวนเอาใจช่วยไปด้วย นอกจากปีน หนังยังใส่ฉากที่บังคับให้ตัวละครหาทางรอดอื่น ๆ อีก ไม่ว่าจะฟรีรันนิ่งหนีคลื่นหมอกที่ถาโถม ไต่เชือกข้ามตึกสูง ที่หมอกพิษกับความสูงและความเหนื่อยล้า ไม่รู้อย่างไหนจะฆ่าตัวเอกได้ก่อนกัน