ดูหนัง American Woman (2018)
แม่ที่ชีวิตครึ่งหนึ่งยังคงตามหาลูกที่หายไปและอีกครึ่งที่ต้องเผชิญกับความจริงตรงหน้าว่า ‘ชีวิตต้องเดินต่อ’ มันคือการเดินทางและการตัดสินใจหลังชีวิตที่ลูกหายอันแสนเจ็บปวด บาดลึก และทรมาณที่สุด ในปี 1998 ในเมืองเล็กๆ ในชนบทแห่งหนึ่งในรัฐเพนซิลเวเนียเด็บบ์ คัลลาฮานเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวอายุ 33 ปี อาศัยอยู่กับบริดเจ็ต ลูกสาววัยรุ่นของเธอ และเจสซี ลูกชายวัยทารกของบริดเจ็ต เด็บบ์มีบริดเจ็ตเมื่อเธออายุได้ 16 ปี และพ่อของบริดเจ็ตไม่ได้อยู่ในภาพ พวกเขาอาศัยอยู่ตรงข้ามถนนจากแคทเธอรีน พี่สาวของเธอ เทอร์รี สามีของแคทเธอรีน และลูกๆ ของพวกเขา เด็บบ์และแคทเธอรีนมีสัมพันธ์ที่เปี่ยมด้วยความรักแต่ก็เต็มไปด้วยความวุ่นวาย เพราะแคทเธอรีนผู้เก็บตัววิจารณ์ความหุนหันพลันแล่นของเด็บบ์และความสัมพันธ์ของเธอกับผู้ชาย ความสัมพันธ์ดังกล่าวมีความคล้ายคลึงกับความสัมพันธ์ของเด็บบ์และเพ็กกี้ แม่ของเธอ คืนหนึ่ง เด็บบ์ดูแลเจสซีเพื่อให้บริดเจ็ตไปออกเดตกับไทเลอร์ พ่อของเจสซี ซึ่งบริดเจ็ตเคยมีสัมพันธ์แบบห่างๆ ห่างๆ กัน เช้าวันรุ่งขึ้น เด็บบ์ก็รู้ว่าบริดเจ็ตไม่ได้กลับบ้าน เธอโทรไปถามไทเลอร์อย่างตื่นตระหนกและถามเขา ซึ่งไทเลอร์อ้างว่าเขาและบริดเจ็ตทะเลาะกันและเธอไปที่บ้านของเจนนา เพื่อนของเธอ เจนนาบอกเด็บบ์ว่าบริดเจ็ตออกไปดึกมากในคืนนั้น และบอกว่าเธอจะเดินกลับบ้าน
อ่านรีวิวก่อน ดูหนัง
นักแสดง
Sienna Miller เซียนน่า มิลเลอร์

Christina Hendricks

Aaron Paul

ผู้กำกับ : Jake Scott
รีวิว American Woman (2018)
beartai
หนังขายฝีมือการแสดงของ เซียนนา มิลเลอร์ นักแสดงหญิงวัย 38 ที่อยู่ในวงการแสดงมาตั้งแต่ปี 2001 เล่นหนังมาแล้วกว่า 40 เรื่อง แต่ก็ป้วนเปี้ยนอยู่ในกลุ่มหนังสายประกวด หนังอินดี้ ไม่ค่อยโผล่หน้ามาในหนังสายบล็อคบัสเตอร์เอาใจคนดูมากนัก บทสุดท้่ายที่คนดูในวงกว้างน่าจะจำเธอได้ก็คือบท “ทายา” ภรรยาหม้ายใน AmericanSniper (2014) ถ้าย้อนไปก่อนหน้านั้นก็ G.I. Joe: The Rise of Cobra ปี 2009 นั่นเลย แม้จะมีผลงานอยู่ในกลุ่มหนังสายประกวด แต่ เซียนนา ก็เคยได้เข้าชิงรางวัลใหญ่มาแค่ครั้งเดียวคือ ชิงลูกโลกทองคำ สาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม จากมินิซีรีส์ The Girl (2012) แต่ก็พลาดไป ก็จนมาถึงเรื่องนี้ล่ะ ที่เธอตั้งใจจริงจัง ได้รับเสียงชื่นชมจาก นักวิจารณ์อย่างมาก เราอาจจะได้เห็นเธอในรายชื่อเข้าชิงเวทีใหญ่อีกครั้งในปลายปีนี้
เป็นหนังฟอร์มเล็กเช่นเคยที่ฉายตามเทศกาลหนัง และออกฉายแบบจำกัดโรง เป็นหนังที่เซียนนา ได้รับบทนำอย่างจริงจัง ซึ่งเธอก็ได้บทนี้มาหลังจากที่แอนน์ แฮทธาเวย์ บอกปัดไปเพราะตารางงานไม่ลงตัว หนังเล่าเรื่องราวของครอบครัวชนชั้นแรงงานในเพนซิลวาเนีย เซียนนา มาในบท “เดบรา” สาววัย 32 ที่เติบโตมาจากอดีตวัยรุ่นใจแตก เดบรา คลอด “บริจิต” ลูกสาวตั้งแต่เธออายุเพียง 16 ปี และบริจิตก็เจริญรอยตามแม่ด้วยการมี “เจสซี่” ลูกชายเมื่อเธออายุ 16 เช่นกัน ทำให้เดบราต้องกลายเป็นคุณยายยังสาว ที่ยังคงมีความหวังว่าจะมีผู้ชายดี ๆ สักคนเข้ามาเป็นคู่ชีวิตของเธอ
หนังปูความสั้น ๆ ตอนต้นเรื่องให้เห็นความรักความผูกพันของเดบราและบริจิต แม่ลูกที่รักใคร่กันดี แล้วก็ใส่เหตุการณ์ช็อกคนดู เมื่อบริจิตหายสาบสูญไป หลังจากออกไปปาร์ตี้กับไทเลอร์แฟนของเธอ ซึ่งเป็นพ่อของเจสซี่นั่นแหละ ที่ยังคงสถานะคนรักแต่ก็ไม่ได้มารับผิดชอบอะไรกับเจสซี่นัก เมื่อเรื่องมาถึงตรงนี้อาจจะทำให้เราเข้าใจว่านี่คือ “หนังปริศนาฆาตกรรม” ที่มีประเด็นหลักกับการตามหาผู้อยู่เบื้องหลังการหายตัวไปของบริจิต แต่แล้วก็ไม่ การหายตัวไปของบริจิตเป็นเพียงหนึ่งมรสุมชีวิตของเดบราเท่านั้น เพราะประเด็นหลักของหนังคือ “เกมชีวิต” ที่เราได้เป็นประจักษ์พยานในช่วงเวลา 15 ปีของเธอ ได้เห็นผู้ชายหลายคนที่ผ่านเข้ามา ในฐานะคนดูก็คอยลุ้นเอาใจช่วยให้เธอได้พบกับผู้ชายดี ๆ เสียที ได้เห็นการเจริญเติบโตของเจสซี่จากวัยแบเบาะ จนเป็นหนุ่มน้อยภายใต้การเลี้ยงดูของยาย