ดูหนัง Amazing Spider-Man 1 (2012) ดิ อะเมซิ่ง สไปเดอร์แมน 1
เล่าเรื่องราวของ ปีเตอร์ พาร์คเกอร์ (แอนดรูว์ การ์ฟิลด์) นักเรียนไฮสคูลที่ถูกพ่อแม่ทอดทิ้งตั้งแต่วัยเด็ก โดยมี เบน (มาร์ติน ชีน) และ เมย์ (แซลลี ฟิลด์) ลุงและป้าของเขาเลี้ยงดูมาโดยตลอด ปีเตอร์พยายามค้นหาตัวตนของตัวเอง เกิดถูกแมงมุมตัดต่อพันธุกรรมกัดเข้า แต่นั่นทำให้เขาได้รับพลังเหนือมนุษย์ไปด้วย ในขณะเดียวกันปีเตอร์ก็พยายามที่จะเข้าหาหญิงสาวเพื่อนร่วมโรงเรียน เกว็น สเตซี่ (เอ็มม่า สโตน) ที่เขาตกหลุมรัก เมื่อปีเตอร์พบกับกระเป๋าลึกลับของพ่อ เขาก็เริ่มค้นหาความจริงเกี่ยวกับการหายตัวไปของพ่อและแม่ ซึ่งนำพาเขาไปพบกับบริษัท ออสคอร์พ และห้องแล็บของ ด็อกเตอร์เคิร์ท คอนเนอร์ (ไรส์ ไอแฟนส์) หุ้นส่วนเก่าของพ่อเขา ซึ่งมีอีกตัวตนหนึ่งคือ เดอะ ลิซาร์ด อสุรกายสุดสยองที่ออกอาละวาด ปีเตอร์จึงต้องใช้พลังทั้งหมดเข้าปกป้องคนรักและชาวเมือง
อ่านบทความ ดูหนัง ดิ อะเมซิ่ง สไปเดอร์แมน 2 Amazing Spider-Man 2
อ่านรีวิวก่อน ดูหนัง
นักแสดง

Andrew Garfield แอนดรูว์ การ์ฟิลด์

Emma Stone

Rhys Ifans

Irrfan Khan
ผู้กำกับ
Marc Webb
รีวิวหนัง
entertainment
เชื่อว่าไม่มีใครไม่รู้จักสไปเดอร์แมน เด็กหนุ่มมหาวิทยาลัยที่โดนแมงมุมกัด แล้วหลายเป็นผู้มีพลังพิเศษ ใช้พลังได้เหมือนแมงมุมเป็นภาพยนตร์ไตรภาคที่ไม่มีใครในโลกไม่รู้จัก
หนังเล่าถึง ปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ (Andrew Garfield) เขาถูกพ่อแม่ทิ้งไปตั้งแต่ยังเด็ก ป้าเมย์และลุงเบนก็คือผู้ที่ดูแลเขา ปีเจอร์พยายามจะหาตัวตนที่แท้จริงของตัวเอง ปีเตอร์มีความรักครั้งแรกเธอคือ เกวน สเตซี่ (Emma Stone) เมื่อปีเตอร์ได้เจอกระเป๋าของพ่อ เขาก็พยายามสืบหาการหายตัวไปของพ่อแม่ ทำให้เขาไปพบห้องแล็บของดร.เคิร์ท คอนเนอร์ส (Rhys Ifans) อดีตคู่หูของพ่อที่เป็นตัวร้ายอย่าง เดอะ ลิซาร์ดโดยบังเอิญ เลยเป็นสิ่งที่ทำให้ปีเตอร์ต้องเลือกการใช้ชีวิตที่อาจจะเปลี่ยนเขาไปตลอดกาล
ก่อนหน้านี้ หนังซูเปอร์ฮีโร่ขวัญใจชาวโลกอย่าง สไปเดอร์แมน ออกสู่สายตาชาวโลกและเป็นที่รู้จักในนักแสดงอย่าง โทบี้ แม็คไกว์ สำหรับสไปเดอร์แมน สามภาคนั้นก็ประสบความสำเร็จอย่างที่เห็น แต่ยังไม่จบครับ ตำนานบทใหม่ก็ถือกำเนิดขึ้น ด้วยนักแสดงใหม่ และอารมณ์ของหนังก็เปลี่ยนไปเช่นกัน ซึ่งในสไปเดอร์แมนภาคนี้ จะเล่าย้อนไปในช่วงที่ปีเตอร์ พาร์คเกอร์ ตัวนักแสดงของเรื่อง ยังมีพ่อแม่อยู่ครบ(ริชาร์ดและแมรี่) เล่าย้อนไปในสมัยไฮสคูล (ในภาคออริจินัลจะอยู่ในช่วงมหาวิทยาลัย)
ลำดับแรกที่จะของเอ่ยเกี่ยวกับการดำเนินเรื่อง หนังมีการดำเนินเรื่องไปเรื่อย ๆ ไม่รีบร้อน แต่ละหว่างนั้น หนังพยายามสอดแทรกปมต่าง ๆ ของตัวละครสำคัญทั้งฝั่งพระเอกและฝั่งตัวร้าย ทำให้คนดูติดตามและน่าสนใจมากยิ่งขึ้น แต่หนังภาคนี้ ค่อนข้างเน้นดราม่าเยอะไปหน่อย คือด้วยตัวนักแสดงที่ค่อนข้างให้อารมณ์ดราม่า และบทหนังก็ดราม่า มันเลยกลายเป็นสไปเดอร์แมนเวอร์ชั่นหดหู่ แต่น่าสนใจไปซะอย่างนั้น ดูบางฉาก มีน้ำตาตกเหมือนกัน