ดูหนัง 13 Assassins (2010) สิบสามดาบวีรบุรุษ นาริทซูกุ ซึ่งเป็นน้องชายต่างมารดาของท่านโชกุนมีจิตใจโหดเหี้ยมฆ่าคนเป็นว่าเล่น ดังนั้น โดอิจึงขอคำสั่งจากท่านดชกุนอย่างลับๆ และโดอมีคำสั่งต่อลงมาถึง ชินซาเอม่อนให้รวบรวมคนไปฆ่า นาริทซูกุอย่างเงียบๆ ดังนั้นซินซาเอม่อน จึงต้องรวบรวมซามูไรฝีมือดีไปดักฆ่านาริทซูกุ ระหว่างทางที่เขาเดินทางกลับบ้านเกิดพร้อมคณะติดตามซึ่งนำคณะโดย ฮัมเบ ซามูไรและข้ารับใช้ผู้ซื้อสัตย์ ชินซาเอม่อน รวบรวมคนได้ทั้งหมด 13 คนและทำการปิดหมู่บ้านเพื่อฆ่านาริทซูกุ แต่นาริทซูกุและฮัมเบรู้แผนการณ์ พวกเขาจึงนำทหารติดตามไปด้วยถึง 200 คน
อ่านรีวิวก่อน ดูหนังนักแสดง
Kôji Yakusho
Takayuki Yamada
Yûsuke Iseya
Ikki Sawamura
ผู้กำกับ
Takashi Miike
รีวิวหนัง 13 Assassins (2010) ดูหนังออนไลน์
ในปี 1844 ซามูไร ซินซาเอมอน ชิมาดะ ( โคจิ ยาคุโช ) ถูกเลือกให้ลอบสังหารลอร์ดนาริทสึงุ (โกโร อินางากิ) ผู้เป็นพวกซาดิสต์ที่ชอบตัดแขนและขาของเพื่อนผู้หญิงของเขาเมื่อเขาจัดการกับพวกเธอเสร็จแล้ว เพื่อประโยชน์ของประเทศ นาริทสึงุจะต้องถูกฆ่าก่อนที่เขาจะก้าวไปสู่ตำแหน่งที่มีอำนาจมากขึ้นและนำประเทศไปสู่สงคราม ชิมาดะพบอาสาสมัคร 11 คนสำหรับภารกิจอันตรายนี้ ระหว่างเดินทาง พวกเขาได้พบกับสมาชิกทีมคนที่ 13 นักล่าผู้ร่าเริงและบ้าคลั่งครึ่งๆ กลางๆ โคยาตะ คิกะ (ยูสึเกะ อิเซยะ) จากนั้นก็มาถึงการต่อสู้ครั้งสุดท้าย ซึ่งนักฆ่าโจมตีลอร์ดสงครามผู้ชั่วร้ายและกองกำลังคุ้มกันที่ดูเหมือนจะไม่มีวันสิ้นสุดของเขา มีใครสามารถเอาชีวิตรอดจากการโจมตีครั้งนี้ได้หรือไม่?
ภาพยนตร์รีเมคจากปี 1963 เรื่องนี้เป็นภาพยนตร์แนว “Assembly the Team” ของซีรีส์Seven SamuraiและDirty Dozen โดยเริ่มต้นอย่างช้าๆ และค่อยๆ ดำเนินเรื่องอย่างช้าๆ จนกระทั่งถึงช่วงการต่อสู้อันดุเดือดยาวนาน 45 นาที ในบทบาทนำ นักแสดงนำ อย่าง Koji Yakushoยังไม่คุ้นเคยกับศักยภาพสูงสุดของตัวเองในเรื่องนี้ เขามักจะมีความเศร้าโศกแบบห่างไกลที่ไม่ค่อยแสดงออก นอกจากนี้ ผู้ชมที่รู้จักผลงานอื่นๆ ของผู้กำกับ Takashi Miike จะพบว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ค่อนข้างธรรมดา
แต่ข้อดีก็คือ13 Assassinsเป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมสำหรับมือใหม่ (เฉพาะวัยรุ่น) ในการแนะนำผลงานของ Miike และภาพยนตร์ญี่ปุ่นโดยทั่วไป นอกจากนี้ Yusuke Iseya ผู้รับบทเป็นนักล่าที่ร่าเริงและเอาแต่ใจ ได้เพิ่มชีวิตชีวาให้กับฉากที่สองของภาพยนตร์ พลังงานของเขาทำให้ทุกอย่างดำเนินไปอย่างราบรื่น และฉากต่อสู้ควรได้รับการศึกษาจากผู้กำกับภาพยนตร์แนวแอ็กชั่น 95% ในอเมริกา Miike แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าต้องทำอย่างไร ( Tsuyoshi IharaจากLetters from Iwo Jimaก็แสดงนำด้วยเช่นกัน)
หนังโปรดของข้าพเจ้า
ดูจากชื่อหนังก็คงจะพอเดากันได้ว่านี่มันเป็นเรื่องของ 13 ผู้ลอบสังหาร หนังเปิดเรื่องด้วยการสร้างความชอบในการสังหาร ‘นาริทซูกุ’ น้องชายผู้ชั่วร้ายของท่านโชกุนก่อนที่เขาจะได้ขึ้นมามีอำนาจบริหารบ้านเมือง ด้วยความชั่วร้ายของนาริทซูกุทำให้หัวหน้าสภาอาวุโสต้องลงมาจัดการเรื่องนี้ด้วยการออกคำสั่งลับให้ ‘ชินซาเอม่อน’ ซามูไรประจำตัวท่านโชกุนจัดหาคนไปลอบสังหารน้องชายท่านโชกุน
หนังเรื่องนี้ในสายตาเรามันเหมือน Seven Samurai พอสมควร แม้กระทั่งตัวละครตลก ๆ ที่เจอข้างทางเข้ามาสร้างสีสันยังใส่มาเหมือนกันจนรู้สึกว่ามันบังเอิญเกินไป เพียงแต่ 13 Assassins ช่วงท้ายมุ่งเน้นกับการจัดเต็มแอ็คชั่นปิดหมู่บ้านยาวกว่า Seven Samurai ที่มุ่งเน้นขายไหวพริบของแผนการ ช่วงต้นหนังเปิดปมความแค้นได้เข้มข้นมาก หนังสร้างอารมณ์ร่วมกับคนดูให้เห็นถึงความชั่วร้ายของนาริทซูกุได้ดีทีเดียว ทำให้คนดูอย่างเรา ๆ ต้องเอาใจช่วยกลุ่มพระเอกในการลอบสังหารให้สำเร็จ แต่พอมาถึงช่วงรวมตัวของ 13 ผู้ลอบสังหารมันไม่เห็นถึงความเก่งหรือความสำคัญของแต่ละตัวละครเลย ดูแล้วไม่มีความรู้สึกอะไรกับตัวละครเกือบทุกตัว เมื่อเทียบกับ Seven Samurai ที่ใช้เวลาในการบอกเล่าที่มาและความเก่งของทั้ง 7 ซามูไรแล้วมันเห็นความต่างกันเยอะมาก ซึ่งการปูพื้นความสามารถตัวละครนี่มันสำคัญนะ เพราะคุณต้องทำให้คนดูเชื่อในความเก่งถึงขนาดสู้กองทัพอารักขานาริทซูกุได้
ในส่วนดราม่านั้นก็มีการสร้างประเด็นความขัดแย้งระหว่างจุดยืนของซามูไร ชินซาเอม่อนเชื่อว่าซามูไรที่ดีต้องปกป้องประชาชน ต้องเลือกหยุดความชั่วร้ายของนาริทซูกุ ในขณะที่ ‘ฮัมเบ’ หัวหน้าซามูไรของนาริทซูกุเชื่อว่าซามูไรที่ดีต้องเชื่อคำฟังคำสั่งเจ้านายโดยไม่ตั้งคำถาม ต้องปกป้องเจ้านายแม้ว่าเขาจะชั่วร้ายแค่ไหน พอมาถึงช่วงจุดขายของหนังคือฉากปิดหมู่บ้านบู๊นี่วางแบบแผนการล้อมได้เจ๋งดี เฉพาะฉากแอ๊คชั่นในหมู่บ้านกินเวลายาว 40 นาทีจัดเต็มเอาใจคอหนังแอ็คชั่นเต็มที่ ถ้าพูด 13 Assassins ในการตอบโจทย์ความบันเทิงถือว่าทำได้ดีเลย
bloggang
ผกก.ทาคาชิ มิอิเกะ ราชาหนังแนวเหวอปนซาดิสม์จากแดนปลาดิบ เจ้าของผลงานขวัญใจคอหนังคัลต์อย่าง Audition (1999), Visitor Q (2001), Ichi the Killer (2001) ฯลฯ นับเป็น ผกก.ที่ขยันจนถึงขั้นบ้าพลังสุดๆ คนหนึ่งแห่งยุคนี้ เพราะเฮียแกเล่นทำหนังดะไปหมดซะแทบทุกแนวตั้งแต่หนังผี หนังเพลง หนังคาวบอยไปยันหนังยอดมนุษย์ (ป๊าด!) และมีผลงานออกมาปีละสองสามเรื่องเป็นเรื่องปกติของแกเลยล่ะ
และสำหรับหนังซามูไรที่รีเมคจากหนังขาวดำชื่อเดียวกันที่ออกฉายเมื่อปี 1963 เรื่องนี้ของเฮียแก ก็ออกมาแจ่มแจ๋วจนได้เข้าชิงรางวัล Japan Academy Prize (ออสก้าร์ของญี่ปุ่น) ปีล่าสุดถึง 10 สาขา (แต่สุดท้ายหนัง Confessions ของเจ๊ ทาคาโกะ มัตสึ ก็ซิวรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมไปซะนี่) แถมยังได้เข้าชิงรางวัลสิงโตทองคำจากเทศกาลหนังเวนิสครั้งล่าสุดเสียด้วยสิ (แต่ก็แห้วอีกงาน)
หนังสร้างจากเหตุการณ์จริงในประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่นเมื่อซามูไร 13 คนถูกมอบหมายให้ไปลอบสังหารขุนนางจอมชั่วช้าที่เป็นถึงน้องชายต่างมารดาของโชกุน เพราะถ้าขืนปล่อยให้หมอนี่ลอยนวลได้เป็นใหญ่เป็นโตกว่านี้ในอนาคตแล้วล่ะก็บ้านเมืองคงต้องลุกเป็นไฟเป็นแน่แท้ ซึ่งก็แน่นอนว่างานนี้คงจะไม่ใช่อะไรที่ง่ายๆ เลย เพราะพวกเขาทั้ง 13 คนต้องฝ่าด่านซามูไรกว่าสองร้อยคนที่คอยอารักขาเป้าหมายรายนี้ไปให้ได้ก่อน
สำหรับคนที่กลัวใจเฮียว่าจะทำให้เรื่องนี้ออกมาอารมณ์เดียวกับหนังซามูไรสุดเหวอของแกอย่าง Izo (2004) แล้วล่ะก็สบายใจได้เลย เพราะหนังเรื่องนี้ออกจะซีเรียส เข้มข้น จริงจัง ไม่มีเหวอ แถมยังจะค่อนข้างออกไปทางหนังซามูไรยุคเก่าเสียด้วยซ้ำ แต่ในส่วนของความถึงเลือดถึงเนื้อ เลือดสาด บู๊กระจายเนี่ยไว้ใจได้เลย ในขณะที่การได้ร่วมทุนกับนายทุนจากอังกฤษก็ช่วยให้งานด้านเสื้อผ้าหน้าผม ฉากเฉิกอะไรดูดีมีทุนหนา สเกลหนังออกมาดูใหญ่โตไม่ใช่เล่น
ช่วงแรกของหนังค่อนข้างจะเนิบนาบปนชวนสับสนกับชื่อของบรรดาตัวละคร แต่พอตั้งหลักได้หนังก็เข้มข้นน่าดู ไปจนถึงช่วงบู๊สะบั้นหั่นแหลกแบบนอนสต๊อปที่คงจะเป็นที่ถูกใจคอหนังซามูไรกันน่าดู จะว่าไปแล้วหนังก็ชวนให้นึกถึง Seven Samurai (1954) อยู่เหมือนกัน เพียงแต่แทนที่พวกพระเอกจะเป็นฝ่ายรับคอยปกป้องชาวบ้านจากพวกโจร ก็กลายเป็นฝ่ายรุกที่ต้องบุกไปสังหารขุนนางชั่วแทน หนังมีสิ่งที่ชวนให้คิดก็คือเรื่องความจงรักภักดีของคนเรา ว่าระหว่างการจงรักภักดียอมรับใช้คนชั่วช้าโดยไม่ลืมหูลืมตานั้น เป็นสิ่งที่พึงกระทำแล้วหรือ