Jon Heder จอน เฮเดอร์

โจนาธาน โจเซฟ เฮเดอร์(Jon Heder): ตำนานเด็กเนิร์ด “นโปเลียน ไดนาไมต์” ผู้สร้างปรากฏการณ์ทางวัฒนธรรม”Vote for Pedro!” หากคุณโตมาในยุค 2000s วลีนี้จะต้องทำให้คุณนึกถึงเด็กหนุ่มผมหยิกฟู สวมแว่นตากรอบหนาเตอะ กับท่าเต้นสุดพิลึกในตำนานอย่างแน่นอน และชายผู้ที่อยู่เบื้องหลังตัวละครสุดไอคอนิกนี้ก็คือ นักแสดงผู้สร้างปรากฏการณ์หนังอินดี้ที่ดังเปรี้ยงปร้างไปทั่วโลก วันนี้ Movie24HD จะพาทุกท่านไปรู้จักกับเขา ผู้ชายที่กลายเป็นสัญลักษณ์ของวัฒนธรรมป๊อปเพียงชั่วข้ามคืน
จากนักศึกษาแอนิเมชั่นสู่บทบาทที่เปลี่ยนแปลงชีวิต
โจนาธาน โจเซฟ เฮเดอร์ เกิดเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม ค.ศ. 1977 ที่เมืองฟอร์ต คอลลินส์ รัฐโคโลราโด สหรัฐอเมริกา เขาเติบโตมาในครอบครัวชาวมอร์มอน และเข้าศึกษาที่ Brigham Young University (BYU) ในสาขาแอนิเมชั่นคอมพิวเตอร์ ซึ่งดูเหมือนว่าเส้นทางชีวิตของเขาในตอนแรกไม่ได้มุ่งตรงสู่วงการฮอลลีวูดแต่อย่างใด
แต่จุดเปลี่ยนครั้งสำคัญก็มาถึง เมื่อเขาได้พบกับผู้กำกับหนุ่มไฟแรง จาเร็ด เฮสส์ (Jared Hess) ที่เรียนอยู่ในมหาวิทยาลัยเดียวกัน จาเร็ดได้ชวน มาแสดงในภาพยนตร์สั้นแนวคอมเมดี้เรื่อง Peluca ซึ่งเป็นต้นแบบของตัวละครที่คนทั้งโลกรู้จักในเวลาต่อมา และเมื่อจาเร็ดได้ทุนสร้างเป็นภาพยนตร์ขนาดยาว บทบาทนำนั้นจะเป็นของใครไปไม่ได้นอกจาก
Napoleon Dynamite (2004): หนังอินดี้ทุนต่ำที่ดังกระหึ่มโลก
Napoleon Dynamite คือภาพยนตร์ที่เล่าเรื่องราวของ นโปเลียน เด็กหนุ่มมัธยมปลายสุดเนิร์ด ผู้มีพฤติกรรมแปลกๆ ไม่เหมือนใคร และต้องดิ้นรนเอาตัวรอดในเมืองเล็กๆ ของรัฐไอดาโฮ ภาพยนตร์เรื่องนี้ถ่ายทำด้วยงบประมาณเพียง 400,000 เหรียญสหรัฐ และ ได้รับค่าตัวจากการแสดงในครั้งแรกเพียง 1,000 เหรียญเท่านั้น!
แต่หลังจากที่หนังเข้าฉายในเทศกาลภาพยนตร์ซันแดนซ์ กระแสปากต่อปากก็เริ่มทำงาน ความตลกหน้าตาย, บทสนทนาสุดเพี้ยน และตัวละครที่มีเอกลักษณ์ ทำให้หนังเรื่องนี้กลายเป็น “หนังคัลท์” (Cult Film) ที่โด่งดังอย่างรวดเร็ว และทำรายได้ทั่วโลกไปกว่า 46 ล้านเหรียญสหรัฐ
กลายเป็นดาวดังในชั่วข้ามคืน เสื้อยืด “Vote for Pedro”, ท่าเต้นประกอบเพลง “Canned Heat” และวลีเด็ดๆ จากในหนังได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมป๊อปที่คนจดจำมาจนถึงทุกวันนี้
ผลงานหลังยุคนโปเลียน
หลังจากความสำเร็จแบบไม่คาดฝัน ก็ได้ก้าวเข้าสู่การเป็นนักแสดงในหนังคอมเมดี้กระแสหลักอีกหลายเรื่อง โดยเขามักจะได้รับบทบาทที่ต้องอาศัยความสามารถด้านตลกแบบหน้าตาย (Deadpan Comedy) และการแสดงท่าทาง (Physical Comedy) ที่เป็นเอกลักษณ์ของเขา:
- The Benchwarmers (2006): ร่วมแก๊งกับ ร็อบ ชไนเดอร์ และ เดวิด สเปด ในหนังตลกเกี่ยวกับกลุ่มเพื่อนเนิร์ดที่มาตั้งทีมเบสบอลแข่งกับเด็กๆ
- Blades of Glory (2007): ผลงานที่โดดเด่นที่สุดอีกเรื่องของเขา คือการรับบทเป็น “จิมมี่ แม็คเอลรอย” นักสเก็ตลีลาอัจฉริยะคู่ปรับของ วิลล์ เฟอร์เรลล์ ซึ่งเคมีของทั้งสองคนก็สร้างเสียงหัวเราะได้อย่างถล่มทลาย
- School for Scoundrels (2006): เข้าคอร์สสร้างความมั่นใจสุดป่วนกับ บิลลี่ บ็อบ ธอร์นตัน
นอกจากนี้ เขายังเป็นนักพากย์เสียงที่มีผลงานมากมายในแอนิเมชั่นและซีรีส์ต่างๆ เช่น Surf’s Up (2007) ในบท ไก่โจ และ Monster House (2006) ในบท สกัล
ชีวิตนอกจอ: คุณพ่อลูกสี่และชาวมอร์มอนผู้เคร่งครัด
ใช้ชีวิตที่ค่อนข้างเรียบง่ายและห่างไกลจากแสงสีของฮอลลีวูด เขาแต่งงานกับ เคิร์สเตน เฮเดอร์ ตั้งแต่ก่อนที่หนัง Napoleon Dynamite จะโด่งดัง และมีลูกด้วยกัน 4 คน เขาเป็นสมาชิกที่เคร่งครัดของศาสนจักรของพระเยซูคริสต์แห่งวิสุทธิชนยุคสุดท้าย (ชาวมอร์มอน) ซึ่งความเชื่อนี้มีอิทธิพลต่อการเลือกรับงานของเขา โดยเขาจะหลีกเลี่ยงบทบาทที่มีความรุนแรง, ยาเสพติด หรือฉากที่ไม่เหมาะสม
บทสรุป
อาจเป็นนักแสดงที่ถูกจดจำจากบทบาทเดียว แต่บทบาทนั้นก็ยิ่งใหญ่และทรงอิทธิพลเกินกว่าที่ใครจะคาดคิด เขาคือข้อพิสูจน์ที่ว่า หนังดีไม่จำเป็นต้องใช้ทุนสร้างมหาศาล และเสน่ห์ของตัวละครที่จริงใจและเป็นธรรมชาติสามารถเอาชนะใจคนดูได้ทั่วโลก แม้วันนี้เขาอาจจะไม่ใช่นักแสดงที่อยู่ในกระแสหลัก แต่สำหรับแฟนหนังยุค 2000s แล้ว ชื่อของ “นโปเลียน ไดนาไมต์” จะยังคงเป็นตำนานที่สร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะให้เราได้เสมอ
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
Q: ท่าเต้นในตำนานของ นโปเลียน ไดนาไมต์ มาจากไหน? คิดเองหรือไม่?
A: ส่วนใหญ่มาจาก เองครับ! ผู้กำกับ จาเร็ด เฮสส์ เพียงแค่บอกเขาว่าให้เต้นเพลง “Canned Heat” ของ Jamiroquai ส่วนท่าเต้นที่ออกมานั้น ได้ด้นสดและผสมผสานท่าเต้นที่เขาคิดว่า “เจ๋ง” ในแบบของนโปเลียนเข้าไป ซึ่งผลลัพธ์ก็คือฉากในตำนานอย่างที่เราเห็นกัน
Q: ทำไมเขาถึงได้รับค่าตัวแค่ 1,000 เหรียญจากหนังที่ดังขนาดนี้?
A: เพราะในตอนนั้น Napoleon Dynamite เป็นเพียงภาพยนตร์อิสระทุนต่ำมากๆ ที่ยังไม่มีค่ายหนังยักษ์ใหญ่มาจัดจำหน่าย นักแสดงและทีมงานทุกคนทำงานด้วยใจรัก อย่างไรก็ตาม หลังจากที่หนังประสบความสำเร็จอย่างงดงาม เขาก็ได้รับส่วนแบ่งจากรายได้ในภายหลังครับ
Q: ปัจจุบัน ทำอะไรอยู่?
A: เขายังคงรับงานแสดงอย่างต่อเนื่อง โดยเน้นไปที่ภาพยนตร์อิสระและงานพากย์เสียงเป็นหลัก นอกจากนี้ เขามักจะไปปรากฏตัวตามงานคอมมิคคอนต่างๆ เพื่อพบปะกับแฟนๆ ที่ยังคงรักและคิดถึงบทบาท นโปเลียน ไดนาไมต์ ของเขาอยู่เสมอ
Q: จะหาชมผลงานเด่นๆ ของ จอน เฮเดอร์ ได้ที่ไหนบ้าง?
A: คุณสามารถย้อนกลับไปสัมผัสปรากฏการณ์ความฮาของ Napoleon Dynamite และชมการปะทะบทบาทสุดมันส์ใน Blades of Glory ได้ตามบริการสตรีมมิ่งต่างๆ และแน่นอนว่าที่ Movie24HD เราจะคอยอัปเดตผลงานของนักแสดงผู้สร้างตำนานคนนี้ให้คุณได้ติดตามกันครับ!

เป็นนักแสดงและนักแสดงตลกชาวอเมริกัน เขาเป็นที่รู้จักจากบทนำที่ทำให้เขาแจ้งเกิดในฐานะตัวเอกในภาพยนตร์ตลกเรื่องNapoleon Dynamite (2004) นอกจากนี้ เขายังให้เสียงพากย์ตัวละครนี้ใน ซีรีส์อนิเมชั่น ของ Fox ที่มีชื่อเดียวกัน (2012) อีกด้วย นักแสดงชาวอเมริกันที่โด่งดังเป็นพลุแตกจากบทบาท เนโปเลียน ไดนามิท หนุ่มเนิร์ดสุดฮาในภาพยนตร์ชื่อเดียวกัน ทำให้เขากลายเป็นขวัญใจของวัยรุ่นทั่วโลก และเป็นตัวละครที่ถูกพูดถึงอย่างกว้างขวาง
ผลงาน
เป็นนักแสดงชาวอเมริกันที่หลายคนคุ้นหน้าคุ้นตาจากบทบาท เนโปเลียน ไดนามิท หนุ่มเนิร์ดสุดฮาในภาพยนตร์ชื่อเดียวกัน ซึ่งทำให้เขาโด่งดังเป็นพลุแตกไปทั่วโลก แต่รู้หรือไม่ว่านอกจากบทบาทนี้แล้ว เขายังมีผลงานภาพยนตร์อีกมากมายที่น่าสนใจ
Napoleon Dynamite (2004): ภาพยนตร์ที่เป็นเหมือนสัญลักษณ์ของเขา บทบาทของเนโปเลียน ไดนามิท ทำให้เขาได้รับความนิยมอย่างสูง และกลายเป็นตัวละครที่ผู้คนพูดถึงกันอย่างกว้างขวาง

Blades of Glory (2007): ในเรื่องนี้ เขาแสดงคู่กับวิล เฟอร์เรล ในบทนักสเก็ตน้ำแข็งคู่ที่ต้องมาแข่งขันกัน ภาพยนตร์เรื่องนี้เต็มไปด้วยฉากตลกและท่าเต้นที่น่าประทับใจ

The Benchwarmers (2006): ภาพยนตร์ตลกเกี่ยวกับกีฬาเบสบอล ที่เขาได้ร่วมงานกับนักแสดงตลกคนอื่นๆ เช่น เดวิด สเปด และ ร็อบ ชไนเดอร์
Monster House (2006): ภาพยนตร์แอนิเมชั่นที่เขาให้เสียงพากย์เป็นตัวละคร Reginald “Skull” Skulinski บ้านที่ดูเหมือนจะรอดชีวิตมาได้

Surf’s Up (2007): อีกหนึ่งภาพยนตร์แอนิเมชั่นที่เขาให้เสียงพากย์ในบท Chicken Joe นกเพนกวินที่ใฝ่ฝันจะเป็นนักเซิร์ฟ
