Jirayu Tantrakul จิรายุ ตันตระกูล

จิรายุเป็นบุตรคนเดียวของครอบครัว แต่เติบโตในครอบครัวขยายซึ่งอาศัยร่วมกันกับญาติฝั่งมารดาในแฟลตย่านห้วยขวาง สำเร็จการศึกษาระดับประถมศึกษาจาก โรงเรียนพร้อมพรรณวิทยา สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาจากโรงเรียนวัดราชบพิธ และระดับอุดมศึกษาจากคณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยรังสิต สาขาวิชาการจัดการธุรกิจค้าปลีก (ทุนความสามารถพิเศษด้านศิลปิน) ก่อนหน้านี้เคยศึกษาอยู่คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ในช่วงที่ยังศึกษาในระดับมัธยมศึกษานั้น ได้ลงเรียนวิชาชีพช่วงภาคค่ำ ด้านการซ่อมคอมพิวเตอร์ เขียนแบบภายใน เย็บผ้า และตัดต่อริงโทน

เพราะมองว่าไม่มีสอนในโรงเรียน ค่าเรียนไม่แพง และสามารถนำความรู้มาใช้ในการเลี้ยงชีพได้  เขามีศักดิ์เป็นอาของณปภา ตันตระกูล ซึ่งเป็นนักแสดง  เคยคบหากับเบญจวรรณ อาร์ดเนอร์ ซึ่งเป็นนักแสดงเช่นกัน ปัจจุบันเลิกรากันแล้ว จิรายุมีความใฝ่ฝันที่จะเป็นนักแสดงตั้งแต่ยังศึกษาอยู่ในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 หลังชมภาพยนตร์เรื่อง หน้ากากโซโร (2541)  และอีกครั้งในภาพยนตร์เรื่อง องค์บาก (2546)  เขามีกิจวัตรประจำวันคือนั่งสมาธิ จดอนุทิน และอ่านหนังสือ เขากล่าวว่าพ่อแม่ให้อิสระทางความคิดแก่เขาค่อนข้างสูง รวมทั้งไม่เคยบังคับเรื่องการเรียน  เขามีพอล นิวแมน นักแสดงฮอลลิวูดเป็นบุคคลต้นแบบ

เบื้องต้นจิรายุเคยเป็นนักแสดงประกอบในภาพยนตร์เรื่อง มอ๘ (2549) มาก่อน  ต่อมาเมื่อครั้งยังศึกษาอยู่ในมหาวิทยาลัยกรุงเทพ ได้ทำงานเป็นเด็กฝึกงานยกฉากในบริษัทของปิยะ เศวตพิกุล และเริ่มสนใจงานในวงการบันเทิง  ในเวลาต่อมาเขารับงานเป็นนักแสดงประกอบของโฆษณาน้ำอัดลมตัวหนึ่ง และเข้าประกวดดิ ไอดอล โปรเจกต์ ตามคำชักชวนของเพื่อน จนได้รับรางวัลชนะเลิศ  หลังจากนั้นกอบสุข จารุจินดา ซึ่งเป็นผู้จัดละคร ได้ชักชวนให้จิรายุแสดงละครเรื่อง คุณนายสามสลึง (2553) เขากล่าวว่าช่วงเวลานั้น “…ผมมาเริ่มเข้าวงการตอนอายุ 22 แต่ไม่เข้าใจเรื่องการแสดงเลยจนอายุ 25 คือตอนนั้นผมเล่นเรื่อง ชาติพยัคฆ์ พอเล่นเรื่องนี้จบ ผมตัดสินใจจะเลิกแล้วเพราะผมไม่สามารถมีวิธีคิดที่จะสร้างตัวละครใหม่ ๆ ได้…”

หลังจากนั้นเขาจึงอ่านหนังสือเพื่อพัฒนาตนเอง และเรียนกำกับ เขียนบท และเรียนการแสดงเพิ่มเติม  หลังจากนั้นจึงได้แสดงศักยภาพด้านการฟันดาบ ในละครโทรทัศน์เรื่อง บางระจัน (2558) ซึ่งมีอรุโณชา ภาณุพันธุ์เป็นผู้จัดละครได้เพิ่มตัวละครหมู่เคลิ้มให้แก่เขา  หลังจากกลับไปปรับปรุงข้อดีและข้อเสียในการแสดงของตัวเอง จิรายุกลับมามีชื่อเสียงอีกครั้งในละครโทรทัศน์เรื่อง บุพเพสันนิวาส (2561) รับบทเป็นหลวงสรศักดิ์, คมแฝก (2561) รับบทเป็น แสน ราชสีห์ และ หนึ่งด้าวฟ้าเดียว (2561) รับบทเป็นหลวงพิชัยอาสา  เขากล่าวว่าเขา “ทำการบ้านหนักมาก” โดยใช้วิธีการแสดงท่วงท่า สีหน้า และอารมณ์เมื่อออกกล้อง โดยถือว่าตนสวมบทบาทตัวละครนั้นตลอดเวลาการเข้าฉาก  นอกจากงานแสดงภาพยนตร์และละครแล้ว เขายังเป็นนักเขียนหนังสือประเภทแนะแนวให้ผู้อ่านปฏิบัติตามได้ (How to) และเป็นศิลปิน ที่มีผลงานภาพและการจัดแสดงผลงานศิลปะของตนเอง

ผลงาน

ถึงแม้ว่า “ก๊อต” จิรายุ ตันตระกูล จะเป็นที่รู้จักจากผลงานละครโทรทัศน์มากมาย แต่เขาก็มีผลงานภาพยนตร์ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาพยนตร์แนวแอ็คชั่นแฟนตาซีที่ได้โชว์ความสามารถรอบด้านของเขา

จอมขมังเวทย์ 2020  ภาพยนตร์เรื่องนี้ถือเป็นผลงานภาพยนตร์ที่สร้างชื่อเสียงให้กับก๊อตเป็นอย่างมาก โดยเขาได้รับบทเป็น “ก็อด” นักเรียนมัธยมปลายที่ต้องมาเผชิญหน้ากับเหตุการณ์เหนือธรรมชาติและค้นพบความสามารถพิเศษในตัวเอง ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับความนิยมอย่างมากและก๊อตยังได้รับรางวัลนักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยมจากเวทีสุพรรณหงส์จากบทบาทนี้

Pattaya Heat (2024) ปิดเมืองล่า  จ่าชัย นายตำรวจใกล้เกษียณ แล้วยังเป็นหนี้ก้อนโตในคาสิโนของ ไซม่อน เขาจึงยื่นข้อเสนอให้จ่าชัยทำงานใช้หนี้ นั่นคือการขนทองที่เป็นของกลางจากกรุงเทพฯ มาพัทยา จ่าชัยรับข้อเสนอโดยที่ไม่รู้เลยว่าระหว่างทางมี จี, ทศ, และ หก ที่จ้องจะชิงทองนั้นอยู่ เรื่องราวเริ่มต้นเมื่อแก๊งอาชญากรระดับนานาชาติที่มีชื่อเสียงในการขโมยและก่อการร้ายได้เข้ามาในเมืองพัทยาเพื่อลักลอบขนส่งสิ่งของที่มีมูลค่ามหาศาล เจ้าหน้าที่ตำรวจพิเศษไทยได้รับคำสั่งให้ปิดเมืองและทำการจับกุมแก๊งอาชญากรนี้ก่อนที่พวกเขาจะหลบหนีออกนอกประเทศ