Ed Skrein เอ็ด สไครน์
ประวัติ Ed Skrein เอ็ด สไครน์

Ed Skrein เอ็ดเวิร์ด จอร์จ สไครน์ ( เกิดเมื่อวันที่ 29 มีนาคม 1983) เป็นนักแสดง ผู้สร้างภาพยนตร์ และแร็ปเปอร์ชาวอังกฤษ เขาเริ่มเป็นที่รู้จักจากบทผู้ร้ายตัวฉกาจฟรานซิส ฟรีแมน / อาแจ็กซ์ในภาพยนตร์ตลกซูเปอร์ฮีโร่เรื่อง Deadpool (2016) นอกจากนี้ เขายังแสดงในภาพยนตร์เรื่องThe Transporter: Refueled (2015), Alita: Battle Angel (2019), Midway (2019), Rebel Moon – Part One: A Child of Fire (2023) และRebel Moon – Part Two: The Scargiver (2024)
อ่านรีวิวก่อน ดูหนัง
ผลงานภาพยนตร์
I Used to Be Famous (2022)
Vince Denham เคยโด่งดังในนาม “Vinnie D” หนึ่งในห้าสมาชิกของวงบอยแบนด์ Stereo Dream 20 ปีต่อมา เขาใช้ชีวิตว่างๆ ในPeckhamกรุงลอนดอน เขาพยายามอย่างหนักที่จะกอบกู้ความสำเร็จในอดีตกลับคืนมา และพยายามเขียนอัลบั้มเดี่ยวชุดแรก วันหนึ่ง เขาเริ่มฝึกซ้อมคีย์บอร์ดกลางตลาด เมื่อ Stevie วัย 18 ปี เริ่มเล่นกลองตาม ฝูงชนต่างจับจ้องไปที่การแสดง แต่การแสดงก็จบลงอย่างกะทันหันเมื่อ Amber แม่ของ Stevie ที่เป็นกังวลดึงตัวเขาออกไป

The Transporter Refueled คนระห่ำคว่ำนรก
ในปี 1995 อาร์คาดี คาราซอฟ อาชญากรชาว รัสเซียและเพื่อนร่วมงานของเขา ลีโอ อิมาซอฟ และยูริ เข้าควบคุมธุรกิจค้าประเวณีของแก๊งคู่แข่งที่เฟรนช์ริเวียร่าหนึ่งในโสเภณีคือแอนนาและไมสซ่าซึ่งยังเด็ก คาราซอฟสนใจที่จะพาไมสซ่าไปด้วย สิบห้าปีต่อมา แอนนาโทรหาใครบางคนเพื่อดำเนินการตามแผนเพื่อโค่นล้มองค์กรอาชญากรรมของคาราซอฟ แฟรงก์ มาร์ติน อดีต เจ้าหน้าที่ หน่วยรบพิเศษเป็นคนขับรถที่มีทักษะซึ่งขนส่งพัสดุและบุคคลลับให้กับลูกค้าที่น่าสงสัยด้วยAudi S8 ของเขา แฟรงก์ไปรับแฟรงก์ มาร์ติน ซีเนียร์ อดีต เจ้าหน้าที่ MI6และเป็นพ่อของแฟรงก์ จูเนียร์

จากวีรกรรมแห่งหน้าประวัติศาสตร์ ที่งานนี้จะบอกเล่าถึงเรื่องราวของ “ยุทธการมิดเวย์” ซึ่งว่ากันว่าเป็น ยุทธการที่สำคัญที่สุดในแนวรบด้านมหาสมุทรแปซิฟิก ของช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ด้วยการปะทะกันแบบ 360 องศาของกองทัพสหรัฐอเมริกาที่กินเวลาเพียง 4 วันแต่กลับเป็นจุดเปลี่ยนเกมรบของสงครามโลกครั้งที่ 2 ไปตลอดกาล ในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2480 ผู้หมวดโทเอ็ดวิน ที. เลย์ตันเจ้าหน้าที่ข่าวกรองผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารเรือของสหรัฐอเมริกา ได้รับคำเตือนระหว่างกองทัพเรือสหรัฐอเมริกา กองทัพเรืออังกฤษ และกองทัพเรือจักรวรรดิญี่ปุ่น ในงานราชการที่กรุงโตเกียวโดยพลเรือเอก อิโซโรคุ ยามาโมโตะว่าเนื่องจากน้ำมันของญี่ปุ่นถึงร้อยละ 80 เป็นน้ำมันที่นำเข้า ดังนั้น หากสหรัฐฯ คุกคามแหล่งผลิตน้ำมัน ญี่ปุ่นจะไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องทำสงคราม
