ดูหนัง Dhoom Dhaam (2025) บ่าวสาวชื่นชุลมุน
ในค่ำคืนแต่งงาน คู่รักสุดประหลาดกลับต้องเข้าไปพัวพันกับเหตุไล่ล่าอันวุ่นวาย พร้อมหลบเลี่ยงคนร้ายและตำรวจที่กำลังตามล่าหาตัว “ชาร์ลี” ผู้ลึกลับแบบพลิกแผ่นดิน วีร์ พอดดาร์ และ โกยัล ชาดดา เป็นคู่รักที่ไม่เหมาะสมกันแต่สุดท้ายกลับแต่งงานกันแบบคลุมถุงชน เหตุการณ์ที่ทั้งคู่เข้าใจผิดทำให้คู่แต่งงานใหม่ต้องรีบออกตามหา “ชาร์ลี” ผู้ลึกลับในคืนแต่งงาน
อ่านรีวิวก่อน ดูหนังนักแสดง
Yami Gautam
Pavitra Sarkar
ผู้กำกับ : Rishab Seth
รีวิว
ดูไปบ่นไป
บันเทิงไม่บันยะบันยังตั้งใจมาขายขำทำให้ฮากระจายแต่คมคายที่เนื้อในเหมือนเอาเข็มจิ้มลงไปในหลายแง่มุมในบริบททางสังคมและการใช้ชีวิตคู่
สิ่งที่ผู้เขียนชอบเสมอในหนังอินเดียยุคใหม่ที่ไม่ค่อยร้องเพลงเต้นรำข้ามภูเขากันแล้วก็คือความหมายแฝง ซึ่งเราๆก็รู้กันอยู่ว่าสังคมอินเดียมีความเคร่งครัดแข็งแรงด้านขนบจารีตความเชื่อจนบางครั้งก็เกินไปจนคนรุ่นใหม่ของอินเดียอาจจะมองว่าล้าหลังจึงได้เห็นหนังอินเดียยุคใหมที่ตั้งคำถามกับสิ่งต่างๆมากมายในบริบทสังคมของอินเดียมาเรื่อยๆในหนังทุกแนวไม่เว้นแม้แต่เรื่องนี้ที่เสนอตัวเป็นหนังตลกที่ตั้งใจมาเอาฮาเต็มที่
เพราะหนังมาเป็นทีเล่นมากกว่าทีจริงบางอย่างก็ล้นๆบางอย่างก็หมิ่นเหม่กับความไม่ค่อยฉลาด หนังเดินหน้าไปอย่างซื่อตรงไม่มีอะไรซับซ้อนแม้กระทั่งความพลิกผันยังไม่ยากต่อการคาดเดา แต่…นี่คือหนังที่สนุกเป็นบ้าบันเทิงแบบไม่บันยะบันยังเพราะตั้งใจจะมาทางนั้นจึงขยันใส่สถานการณ์ชวนขันทั้งที่มันน่าสิ่วหน้าขวานแต่ดันมาเพื่อฮา เวลาชั่วโมงกว่าของหนังจึงเดินหน้าไปอย่างรวดเร็วด้วยความฮาบนสถานการณ์ที่ปานปลายเอาข้างหน้าเป็นไปไปตายเอาดาบหน้า
ทว่า…หนังกลับซ้อนคำถามหลากหลายในสังคมอินเดียที่ถึงขั้นด่าแรงๆในความเป็นสังคมนิยมชายที่ผู้ชายฟังอาจสะท้านรูขุมขน
playinone
หนังตลกสุดป่วนจากอินเดียด้วยพล็อตเพี้ยนๆ ให้คู่รักตามหาคนที่ไม่ได้รู้จัก โดยไม่ได้คิดจะเล่าปูเรื่องเลยว่าชาลีนี่คือใคร เป็นการเดินเรื่องที่ตั้งใจทำให้ผู้ชมงงไปพร้อมกับตัวเอกทั้งคู่ไปด้วยกันเลย ซึ่งแน่นอนว่ามันได้ผล พอทำให้ผู้ชมสงสัยได้ก็ทำให้อยากรู้อยากติดตามการผจญภัยไปกับตัวเอกทั้งคู่ไปด้วย และหนังก็ไม่ได้ใจร้ายลากเรื่องยาวไปจนจบแล้วค่อยเฉลย แต่ปริศนาชาลีคือใครนี้จะถูกเฉลยออกมาเมื่อครบ 30 นาทีแรก และก็เป็นจิ๊กซอว์ต่อกลับไปยังช่วงเวลาเริ่มต้นของเรื่องราวได้ทั้งหมด (ฉากเปิดเรื่องมีการปล้นปริศนา) ซึ่งมันโอเคเลยกับเทคนิคการเล่าเรื่องที่ดูเหมือนจับแพะชนแกะจนเกิดเหตุการณ์บ้าๆ บอๆ นี้ได้ และในช่วงแรกนี้ยังมีความสำคัญต่อเนื่องไปยังจุดหักมุมของเรื่องตามสไตล์หนังอินเดียอยู่ด้วยเหมือนกันครับ
แต่ที่จริงแล้วหนังก็ไม่ได้มาโฟกัสที่ชาลีมากมายอะไรหรอก เพราะตัวเรื่องจริงกลับลงลึกกว่านั้นด้วยประเด็นปัญหาความรักที่เกิดขึ้นได้จริงมั้ยจากการถูกคลุมถุงชน โดยเป็นมุมมองของทั้งหญิงและชาย รวมถึงคนที่เคยผ่านประสบการณ์นี้มาก่อน ซึ่งหนังก็สะท้อนปัญหานี้ในอินเดียออกมาได้แสบสุดๆ เมื่อให้นางเอกที่ดูเหมือนเรียบร้อยในตอนแรกกลายมาเป็นอีสาวสุดแซ่บในเวลาไม่นาน ทั้งการขับรถซิ่งได้ การด่าไฟแล่บกับทุกอย่างที่เธอไม่พอใจ ซึ่งการเปลี่ยนตัวตนทันทีแบบนี้ก็มีเหตุผลที่มาจริงจัง โดยสะท้อนให้เห็นว่าในโลกนี้การเกิดเป็นผู้หญิงมันไม่ง่าย แต่เกิดเป็นผู้หญิงในอินเดียนั้นใช้ชีวิตยากยิ่งขึ้นไปอีก เพราะที่นี่สังคมชายเป็นใหญ่ขนานแท้ มีความคาดหวังโถมทับถมลงมาตั้งแต่เกิดจนโตเป็นสาวลามไปถึงการแต่งงานก็ถูกขีดลักษณะของผู้หญิงที่ขายออกไว้หมดว่าต้องเรียบร้อยเสมอ แถมยังมีปัญหาผู้หญิงถูกข่มขืนรุนแรงอันดับต้นๆ ของโลก ซึ่งสุดท้ายเธอเลยต้องเลือกโกหกปิดบังความต้องการและชีวิตจริงๆ กันแทบทุกอย่าง โดยไม่ใช่แค่ตัวนางเอกเป็นคนเดียว แต่เป็นกันทั้งแก๊งเพื่อนสาวในเรื่อง ซึ่งหนังก็มีใส่ฉากผู้หญิงได้ปลดปล่อยอารมณ์อีกด้านให้ได้เห็นกัน ซึ่งเรียกเสียงหัวเราะได้ แม้จะรู้สึกว่าเป็นฉากประชดเสียดสีสังคมอินเดียที่นี่ก็ตามทีครับ