ดูหนัง Deadpool 2 (2018) เดดพูล 2
เดดพูล รวมทีมปกป้องเด็กอ้วนจาก เคเบิล คู่ปรับคนใหม่ของเดดพูลที่มาเพื่อฆ่าเด็กคนนี้โดยเฉพาะ เพราะเป็นภารกิจยิ่งใหญ่จึงจำเป็นต้องเกณฑ์คนร่วมทีมทั้งมนุษย์กลายพันธุ์อย่าง โดมิโน มิวแทนต์ที่เกิดจากโครงการเพาะพันธุ์มิวแทนต์ที่คาดว่าจะนำไปใช้ทางการทหาร พลังของเธอคือความโชคดี ซึ่งเธอมีพลังพิเศษที่ควบคุมโชคชะตาให้เข้าข้างเธอได้ และคนธรรมดาที่.. แค่อยากได้งานทำ !! และแน่นอนว่า วาเนสซ่า คนรักหนึ่งเดียวของเดดพูล, โดพินเดอร์ คนขับแท็กซี่ตัวประกอบจากภาคที่แล้ว มาร่วมทีมเกรียนและสร้างความฮาในภาคนี้อย่างเต็มตัว, ป้าอัล คุณป้าตาบอดรูมเมทของเดดพูล, เนกาโซนิก ทีนเอจ วอร์เฮ้ด มิวแทนต์สาวที่กลับมามาพร้อมความแสบที่ทวีคูณ พร้อมกับความมันจากคู่ปรับใหม่ของเดดพูลอย่าง เคเบิล ที่มาพร้อมอาวุธคู่กายและแขนเหล็กสุดโหด งานนี้บอกได้คำเดียวว่า “มันแน่นอน”
อ่านรีวิวก่อน ดูหนัง
นักแสดง
Ryan Reynolds ไรอัน เรย์โนลด์ส
จอช โบรลิน
โมเรนา บัคคาริน
ผู้กำกับ : เดวิด ลีทช์
รีวิว Deadpool 2 (2018) เดดพูล 2
beartai
บอกก่อนนะว่าเรื่องย่อที่ได้อ่านไป แอดแอบซ่อนความลับบางอย่างของหนังเพราะไม่อยากสปอยล์เลยจริงๆ เพราะความลับที่ว่ามันทำให้หนังดู กล้าหาญมากที่ฆ่าตัวละครสำคัญของเรื่องไปตั้งแต่ องก์ 1 ของหนัง แต่หลังจากนั้น กลับเดินเรื่องแบบทีเล่นทีจริงที่หนักข้อถึงขั้นเอาตัวเองไปเปรียบกับ LOGAN (2017) หนังวูล์ฟเวอรีนฉบับดราม่าที่ฆ่าตัวละครซูเปอร์ฮีโร่แบบตายจริงๆ และตัว เองก็เริ่มมองความอมตะของตัวเองเป็นคำสาป ซึ่งไม่เพียงเจืออารมณ์โรแมนติกไปปนกับพลอตหนังแอ็คชั่น ฮาลั่น เลือดสาด เป็นน้ำจิ้มหวานๆเท่านั้น แต่หลายครั้งเมื่อหนังเริ่มล้อชาวบ้านแบบเตลิดเปิดเปิง มันยังช่วยดึงให้คนดูกลับมาสู่เรื่องราวได้เป็นอย่างดี แม้ท้ายที่สุดอารมณ์ดราม่าของหนังจะไม่ได้จริงจังเท่าฉากแอ็คชั่นโหด เลือดสาด หัวหลุด แขนขาด ตัวกระเด็น หรือบทสนทนาที่เขียนมาเพื่อแขวะชาวบ้านมากกว่าเล่าเรื่องก็ตาม
ส่วนใครที่ติดใจมุกจิกกัดหนังฮอลลีวูดและความเกรียนแสบ ภาคนี้ ก็เล่นเสิร์ฟความแสบเสียเต็มที่ทั้งมุกล้อหนัง Marvel ทั้งจักรวาล X-MEN และ MCU รวมถึง Disney แบบไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหม (Disney เพิ่งซื้อกิจการของ FOX สตูดิโอที่สร้าง แม้แต่ค่าย DC ที่ต้องบอกว่า จัดหนักจัดเต็มตั้งแต่ล้อกิมมิคหนัง Batman V Superman (2016) เรื่อยไปจนถึงเอนด์เครดิตที่เล่นกับความสัมพันธ์ระหว่างฮีโร่สองค่ายผ่านนักแสดงอย่างไรอัน เรย์โนลด์ ได้อย่างแสบสันต์ นอกจากนี้ยังมีมุกแซวและอ้างอิงหนังคลาสสิกต่างๆอีกเพียบทั้งไตเติลของ เจมส์ บอนด์ 007 ฉากปรากฏตัวของ เคเบิล ที่อ้างอิงมาจากหนังคนเหล็ก Terminator (1984) หรือฉาก Boombox Serenade ที่จอห์น คูแซค ยกวิทยุเปิดเพลงให้นางเอกฟังใน Say Anything (1989)ก็ถูกนำมาอ้างอิงและล้อเลียนไปตลอดเรื่อง จนบางทียังแอบคิดเลยว่านี่เราดู หรือ หนังล้อตระกูล Scary Movie อยู่กันแน่ ซึ่งแม้แสดงให้เห็นถึงความสร้างสรรค์แต่ก็แอบทิ้งช่องโหว่ของพลอตไว้รายทางเพียบเลยเหมือนกัน แต่เชื่อว่าอารมณ์คนดูที่คุ้นเคยกับ มาตั้งแต่ภาคแรกก็ไม่น่าจะสะดุดอะไร