ประวัติ Christian Bale คริสเตียน เบล
Christian Bale คริสเตียน เบล เกิดในเวลส์ ประเทศอังกฤษ เขาเริ่มงานภาพยนตร์เรื่องแรกในผลงานของภาพยนตร์เกี่ยวกับสงครามโลกครั้งที่สองของ สปีลเบิร์ก เรื่อง Empire of the Sun ซึ่งทำให้เขาได้รับความสนใจและวิพากษ์วิจารณ์และได้รับรางวัล พิเศษระดับประเทศ คือ รางวัล National Board of Review สำหรับการแสดงโดยนักแสดงรุ่นเด็ก เบล ยังคงได้รับความชมเชยสำหรับบทบาทการแสดงของเขาโดยรับบทเป็นคนถูกกดดัน เนด รอสซิเออร์ในภาพยนตร์ของ เจน เคมเปี่ยน เรื่อง The Portrait of a Lady และเป็น นักข่าวที่ไม่ไว้หน้าใครในภาพยนตร์เรื่อง Velvet Goldmine และเป็นคนหนีออกจากบ้านที่สมองช้าในเรื่อง All the Little Animals โดยแสดงคู่กับ จอห์น เฮิร์ท และ วัยรุ่นสมัย วิกตอเรียในภาพยนตร์ของ คริสโตเฟอร์ แฮมป์ตั้น เรื่อง The Secret Agent ในปี 1999 เขาได้รับคำวิพากษ์วิจารณ์อย่างเป็นเอกฉันท์ในบทบาทของความสยองที่น่าตลกและเปลี่ยนไปเป็นฆาตกรต่อเนื่องในภาพยนตร์เรื่อง American Psycho
เบลได้ร่วมแสดงกับ แซมมวล แอล. แจ็คสัน ในภาพยนตร์เรื่อง Shaft และร่วมแสดงกับ นิโคลาส เคจในภาพยนตร์เรื่อง Captain Corellis Mandolin และในภาพยนตร์ผจญภัยสิ้นโลกแนวแฟนตาซีเรื่อง Reign of Fire และอยู่เคียงข้าง ฟรานเชส แมคโดนัลจากภาพยนตร์เรื่อง Laurel Canyon
หลังการเสร็จการแสดงในภาพยนตร์เรื่อง Batman Begins เบลจะรับบทคนปลูกยาสูบชื่อ จอห์น โรฟี่ ในภาพยนตร์ที่เขียนบทและกำกับการแสดงโดย เทอเรนซ์ มาลิค เรื่อง The New World และร่วมแสดงในภาพยนตร์อิสระเรื่อง Harsh Times ซึ่งเป็นภาพยนตร์แนวดราม่าโดยมีฉากในเซาท์ เซ็นทรัล ลอสเองเจิลลิส
อ่านรีวิวก่อน ดูหนัง
ผลงานภาพยนตร์
The New World (2007) เปิดพิภพนักรบจอมคน
ในปี 1607 เรืออังกฤษจำนวน 3 ลำ ซึ่งได้รับการสนับสนุนด้านการเงินจาก บริษัท ลอนดอน เวอร์จิเนีย ได้ออกเดินทางข้ามมหาสมุทรแอตแลนติค เพื่อค้นหาขุมทรัพย์ทองคำในตำนานที่พวกเขาเชื่อว่ามีอยู่ในดินแดนใหม่ พวกเขาขึ้นฝั่งที่แม่น้ำเจมส์ในรัฐเวอร์จิเนีย และตั้งถิ่นฐานยังเมืองเจมส์ทาวน์ นักเดินทางเหล่านี้มีอยู่ด้วยกันกว่า 103 คน ส่วนใหญ่เป็นบรรดาข้าราชการที่ล้วนแล้วแต่ยังไม่เคยเตรียมพร้อมสำหรับการใช้ชีวิตในโลกใหม่แห่งนี้ ในขณะที่พวกเขายังต้องต่อสู้เพื่อเอาตัวรอด เพราะความฝันในการขุดทองก็ค่อย ๆ สูญหายไปเช่นเดียวกัน
กัปตันหนุ่ม จอห์น สมิธ (โคลิน ฟาร์เรลล์) ได้รับความไว้วางใจให้เป็นผู้นำในการหาอาหารบริเวณแถบริมแม่น้ำชิคกาโฮไมนี่ และที่นี่เองพวกเขาได้พบกับชนเผ่าโพฮาทัน ซึ่งเป็นผู้ครอบครองพื้นที่เดิม ทุกคนที่ย่างเท้าเข้ามาล้วนแต่ถูกฆ่าตาย ยกเว้นเพียงสมิธ ที่ถูกนำตัวไปยังหมู่บ้านอเมริกันพื้นเมือง และเขายังได้พบกับลูกสาวของหัวหน้าเผ่านาม โพคาฮอนทัส (คิวโอเรียนก้า คิลเชอร์) ซึ่งสอนให้เขารู้จักวัฒนธรรมและประเพณีของชนเผ่าของเธอ
หลายเดือนต่อมา เมื่อมีอาหารเพียงพอที่จะช่วยให้กลุ่มผู้ตั้งถิ่นฐานสามารถเอาตัวรอดได้ในช่วงฤดูหนาว สมิธก็เดินทางกลับสู่เจมส์ทาวน์ จนกระทั่งฤดูใบไม้ผลิต่อมาโพฮาทันก็พบว่าผู้ตั่งถิ่นฐานมีความตั้งใจที่จะอยู่ที่นี่ต่อไปด้วยการเตรียมก่อศึกสงคราม โพคาฮอนทัสจึงแอบเตือนสมิธถึงเรื่องชนเผ่าของเธอเพื่อที่จะหาทางยับยั้งมิให้เกิดสงคราม และเมื่อโพฮาทันรู้ว่าลูกสาวหักหลังพวกเขา เธอจึงถูกเนรเทศให้ออกไปให้พ้นจากครอบครัวและชนเผ่า
โพคาฮอนทัสถูกบังคับให้ต้องไปอาศัยอยู่กับชนเผ่าข้างเคียง และท้ายที่สุดก็ถูกขายให้กับคนอังกฤษในฐานะตัวประกันเพื่อไม่ให้เกิดการโจมตีจากชนเผ่าของเธอ และยังต้องค่อย ๆ ปรับตัวเธอทีละน้อยเพื่อให้สามารถอยู่ร่วมกับพวกที่มาตั้งถิ่นฐาน ในช่วงนั้นเองสมิธถูกเรียกตัวกลับไปอังกฤษ เพื่อให้ไปเป็นผู้นำกลุ่มในการตั้งถิ่นฐานอีกกลุ่มหนึ่ง และมีโอกาสได้พบกับโพคาฮอนทัสอีกครั้งในอีกหลายปีต่อมา เมื่อเธอกลับสู่อังกฤษ
ต่อมาไม่นานก็มีเสบียงและพวกล่าอาณานิคมเดินทางมาถึงเจมส์ทาวน์ ในกลุ่มนี้มีขุนนางหนุ่มชาวอังกฤษนาม จอห์น โรล์ฟ ซึ่งเป็นคนแรกที่ริเริ่มการปลูกยาสูบ จนกระทั่งกลายมาเป็นผลผลิตที่สร้างรายได้ให้กับเจมส์ทาวน์ในเวลาต่อมา ด้วยความรู้สึกคล้ายคลึงกันโพคาฮอนทัสค่อย ๆ ทำความรู้จักและหลงรักโรล์ฟในที่สุด จนนำมาซึ่งการแต่งงานและมีบุตรด้วยกัน หลายปีต่อมาเมื่อโรล์ฟได้พาโพคาฮอนทัสมายังประเทศอังกฤษ เพื่อเข้าเฝ้ากษัตริย์และราชินีในฐานะเจ้าหญิงแห่งเวอร์จิเนีย โพคาฮอนทัสก็ถูกโรคร้ายรุมเร้าและเสียชีวิตในระหว่างที่เดินทางกลับสู่อเมริกาในขณะที่เธอมีอายุได้เพียง 22 ปี
ปี 2018 วันอวสานโลกได้ผ่านมาและผ่านไป ทิ้งไว้เพียงซากอารยธรรมสมัยใหม่ กองทัพคนเหล็กได้คุกคามน่านฟ้าของโลกหลังวันหายนะ เพื่อสังหารและกำจัดมนุษย์ที่หลบซ่อนตัวอยู่ในเมืองร้างและทะเลทราย แต่กลุ่มผู้รอดชีวิตกลุ่มเล็ก ๆ ได้รวมตัวกันเป็นกลุ่มผู้ต่อต้าน ผู้หลบซ่อนอยู่ในบังเกอร์ใต้ดินและโจมตีกองกำลังศัตรูที่มีกำลังพลเหนือพวกเขาทุกเมื่อที่เป็นไปได้
ผู้ที่บงการคนเหล็กเหล่านี้คือสกายเน็ท เครือข่ายคอมพิวเตอร์อัจฉริยะ ที่เริ่มมีความรู้สึกนึกคิดขึ้นมาตั้งแต่เมื่อ 14 ปีก่อนและเพียงเวลาชั่วพริบตา มันก็ได้หักหลังผู้สร้างมันขึ้นมา และปลดปล่อยอาวุธนิวเคลียร์สู่โลกใบนี้ โดยไม่ทันให้ตั้งตัว มีชายเพียงคนเดียวที่เห็นวันอวสานโลกคืบคลานเข้ามา ชายเพียงคนเดียว ผู้ซึ่งชะตากรรมของเขามักจะเกี่ยวพันถึงการคงอยู่ของมนุษยชาติเสมอ เขาก็คือ จอห์น คอนเนอร์
บัดนี้ โลกกำลังจะก้าวสู่อนาคตที่คอนเนอร์ถูกพร่ำเตือนเสมอมาตลอดชีวิต แต่ปัจจัยใหม่อย่างหนึ่งได้สั่นคลอนความเชื่อของเขาที่ว่ามนุษยชาติมีโอกาสที่จะชนะสงครามครั้งนี้ นั่นก็คือการปรากฏตัวของ มาร์คัส ไรท์ (แซม เวิร์ธธิงตัน) คนแปลกหน้าจากอดีต ผู้ซึ่งความทรงจำสุดท้ายของเขาคือการรับโทษประหารก่อนที่จะลืมตาตื่นขึ้นมาในโลกใหม่ใบนี้
คอนเนอร์จะต้องตัดสินใจว่าเขาสามารถไว้วางใจมาร์คัสได้หรือไม่ แต่เมื่อสกายเน็ทใช้กลยุทธใหม่เพื่อปราบกองกำลังต่อต้านให้ราบคาบ คอนเนอร์และมาร์คัสก็ต้องหาทางร่วมมือกันเพื่อยับยั้งการสังหารโหด ด้วยการแฝงตัวเข้าไปในสกายเน็ทและชนกับศัตรูแบบจัง ๆ
The Fighter (2011) เดอะ ไฟท์เตอร์ 2 แกร่ง หัวใจเกินร้อย
ชีวิตจริงของนักชกรุ่นไลต์เวลเตอร์เวต ไอริช มิคกี้ วอร์ด (มาร์ค วอห์ลเบิร์ก) ผู้ไม่เคยชนะในสังเวียนไหนเลย แม้แต่ในสังเวียนแห่งชีวิต เขาหวังที่จะเอาดีในการเป็นนักมวยมาตลอด และพยายามฮึดสู้อีกครั้ง โดยมีพี่ชายขี้ยาต่างพ่อที่ชื่อ ดิ๊กกี้ เป็นเทรนเนอร์ให้ ตลอดชีวิตเขาถูกแม่บงการ (เมลิสซ่า ลีโอ) บังคับให้ดำเนินชีวิตตามที่เธอต้องการเสมอ โชคยังดีที่เขาได้พบกับ ชาร์ลีน (เอมี่ อดัมส์) แฟนสาวที่เปิดให้เห็นถึงความจริงว่า ภาระที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเขาคือความรับผิดชอบที่มีต่อครอบครัว ที่กลายมาเป็นอุปสรรคสำคัญของการก้าวขึ้นสู่แชมป์บนสังเวียนผืนผ้าใบแห่งนี้
จากเรื่องจริงของการแข่งขันชิงความเป็นที่หนึ่งระหว่างสองยักษ์ใหญ่แห่งวงการรถยนต์ ฟอร์ด (Ford) และ เฟอร์รารี่ (Ferrari) ในการแข่งขันรถซิ่งระดับโลก เลอม็องส์ (Le Mans) เมื่อปี 1966 เมื่อนักออกแบบรถซิ่ง แคร์โรล เชลบี้ (แมตต์ เดมอน) และนักซิ่งหัวรั้นอย่าง เคน ไมล์ส ที่ต้องร่วมกันฝ่าฟันทั้งการแทรกแซงขององค์กรใหญ่และกฏของฟิสิกส์เพื่อปฏิวัติวงการเจ้าความเร็วกับสนามแข่งสุดหฤโหดอย่าง Le Mans 66
ธอร์ (คริส เฮมส์เวิร์ธ) จะได้ไปผจญภัยในแบบที่ไม่เหมือนครั้งไหนที่เขาเคยเจอมาก่อน ภารกิจในการค้นหาความสงบสุขภายใน แต่การเกษียณของเขาถูกรบกวนโดยนักฆ่าข้ามจักรวาลนามว่า กอร์ นักเชือดเทพเจ้า ผู้แสวงหาการสูญพันธ์ของเทพเจ้าทั้งมวล เพื่อต่อสู้กับภัยคุกคามนี้ ธอร์ควานหาความช่วยเหลือจาก ราชาวัลคีรี่ (เทซซ่า ทอมป์สัน), คอร์ก (ไทก้า ไวตีติ) และแฟนเก่าของเขา เจน ฟอสเตอร์ (นาตาลี พอร์ตแมน) ผู้ที่ทำให้ธอร์ตกใจจนตาค้าง เมื่อเธอกำลังถือครองค้อนโยเนียร์ของเขา ในฐานะของ ไมตี้ ธอร์ พวกเขาต้องร่วมมือกันผจญภัยข้ามจักรวาลไปเพื่อค้นหาความลับเบื้องหลังความแค้นของนักเชือดเทพเจ้าคนนี้ เพื่อหยุดยั้งเขาเอาไว้ก่อนที่มันจะสายจนเกินไป
Batman The Dark Knight (2008) แบทแมน อัศวินรัตติกาล
ด้วยความช่วยเหลือของผู้หมวดจิม กอร์ดอน และอัยการเขตฮาร์วีย์ เดนท์ แบทแมนมุ่งมั่นที่จะทำลายล้างองค์กรอาชญากรรมในกอธแฮมให้สิ้นซาก การทำงานแบบสามทหารเสือดูเหมือนจะสัมฤทธิผล แต่ไม่ช้าพวกเขากลับพบว่าตกเป็นเหยื่อของจอมอาชญากรอย่างโจ๊กเกอร์ ผู้ซึ่งทำให้กอธแธมต้องตกอยู่ในความสับสน และบีบบังคับให้อัศวินดำต้องเฉียดเข้าไปใกล้เส้นแบ่งระหว่างวีรบุรุษและวายร้ายมากยิ่งขึ้น
The Dark Knight Rises (2012) แบทแมน อัศวินรัตติกาลผงาด
เป็นเวลาถึง 8 ปีแล้วที่แบทแมนหายตัวไปในยามค่ำคืน พลิกจากมาดฮีโร่กลายเป็นผู้หลบหนีอย่างรวดเร็ว จนเป็นที่เข้าใจว่ายอมรับผิดในการตายของอัยการเขตฮาร์วีย์ เดนท์ อัศวินรัตติกาลยอมสละทุกสิ่ง เพื่อสิ่งที่เขาและผู้บัญชาการกอร์ดอนต่างหวังว่าจะดียิ่งขึ้น ระหว่างที่มีการโกหกนี้อาชญากรที่ก่อเหตุในเมืองก็อธแธมถูกปราบปรามภายใต้กฏหมายป้องกันอาชญากรรมเดนท์แอ็ค แต่ทุกอย่างจะเปลี่ยนแปลงไปเมื่อมีแมวขโมยเจ้าเล่ห์เผยโฉมพร้อมกับปฏิบัติการลับ ที่น่ากลัวไปกว่านั้นคือไม่ว่าเบนจะมีวิวัฒนาการขนาดไหน วายร้ายที่สวมหน้ากากไว้ก็มีแผนการป่วนก็อธแธม ซึ่งบีบให้บรูซต้องออกจากการปลีกตัว แต่ถึงแม้เบนจะกลับสวมผ้าคลุมและหน้ากากอีกครั้ง กลับดูเหมือนเขาไม่เหมาะกับการเป็นแบทแมนอีกต่อไป