ดูหนัง Captain America Brave New World (2025) กัปตัน อเมริกา ศึกฮีโร่จักรวาลใหม่
หลังจากได้พบกับ แธดเดียส รอสส์ ประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐอเมริกา แซม ก็พบว่าเขากำลังอยู่ท่ามกลางความขัดแย้งระหว่างประเทศ ทำให้เขาต้องค้นหาสาเหตุเบื้องหลังของเหตุการณ์อันเลวร้าย ก่อนที่โลกทั้งใบจะลุกเป็นไฟด้วยแผนการของวายร้ายคนนี้ 3
อ่านรีวิวก่อน ดูหนังนักแสดง
Anthony Mackie แอนโธนี่ แม็คคี่
Danny Ramirez
Shira Haas
ผู้กำกับ : จูเลียส โอนาห์
รีวิว Captain America Brave New World (2025) กัปตัน อเมริกา ศึกฮีโร่จักรวาลใหม่
entertainment
นี่คือเรื่องราวของ แซม วิลสัน กัปตันอเมริกาคนปัจจุบัน ที่หลังจากที่เขาได้พบกับแธดเดียส รอสส์ ประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐอเมริกา แซมก็ค้นพบว่าเขากำลังอยู่ท่ามกลางความขัดแย่งระหว่างประเทศ ที่ทำให้เขาต้องเร่งสืบค้นหาสาเหตุของเบื้องลึกเบื้องหลังในเหตุการณ์นี้ทั้งหมด ก่อนที่โลกทั้งใบจะลุกเป็นไฟเป็นแผนร้ายของผู้ชั่วร้ายสัมฤทธิ์ผลให้เกิดความโกลาหลขึ้น
ก็คงจะต้องบอกตรง ๆ ว่าอาถรรพ์หนังซูเปอร์ฮีโรยังคงไม่ได้รับการถูกแก้และจางหายไปในผลงานหนังของมาร์เวลเรื่องนี้ เพราะดูทรงแล้วก็ยังค่อนข้างวนกลับมาสู่อีหรอบเดิมของความช้ำ ๆ ตามสูตรของหนังซูเปอร์ฮีโร ที่อาจจะพูดว่าหากนี่เป็นหนังมารับหน้าที่พาจักรวาลหนังมาร์เวลกลับเข้าสู่เส้นเรื่องที่เข้มข้นในเฟสปัจจุบัน ก็คงจะยังไม่ใช่หนังที่แข็งแรงเพียงพอที่จะสร้างความประทับใจให้กับผู้ชมได้ขนาดนั้น
เพราะผลลัพธ์ในท้ายที่สุดก็กลายเป็นว่า Captain America: Brave New World ยังไม่สามารถสร้างแรงจูงใจและเสน่ห์ได้แบบที่หนังมาร์เวลเฟสที่ 1-3 เคยทำได้อีกเหมือนเคย เป็นคอนเทนท์ที่เสพย์ไปก็ได้แต่คิดว่าตามไปด้วยว่าปัญหาเหล่านี้มันมีต้นตอเริ่มต้นมาจากตรงไหนกันแน่ เพราะจังหวะของหนังที่ควรจะร้อยเรียงออกมาได้สนุกเหมือนก่อน กลับยิ่งทำแล้วก็ยิ่งถอยหลังลงคลองไปทีละน้อย อย่างน้อย ๆ ก็ในแง่ความสนุกที่พึงมีของหนังที่เจือจางไปมาก
อาจจะไม่ถึงขั้นกล่าวโทษเขาแต่อย่างใดหรอก แต่ก็อดพูดถึงไม่ได้ว่าการก้าวมาจับงานสร้างหนังบ็อกซ์บัสเตอร์ฟอร์มใหญ่เรื่องแรกของผู้กำกับสายหนังอินดี้ อย่าง “จูลิอัส โอนาห์” เขายังไม่สามารถรับมือกับตรงนี้ได้ดีเท่าที่ควรนัก หรือเป็นเพราะสเกลงานสร้างเรื่องนี้ค่อนข้างใหญ่เกินกว่าที่เขาจะแบกรับไป ทำให้ในแง่งานสร้างใน Captain America: Brave New World ค่อนข้างขรุขระและชอนไชเข้าไปสู่หัวใจผู้ชมผู้ชมได้ค่อนข้างน้อยมาก
โดยเฉพาะในพาร์ทขององก์เปิดโหมโรงของหนังเรื่องนี้ กลายเป็น 10 นาทีแรกที่เต็มไปด้วยจังหวะที่ชวนชักสีหน้าเต็มไปหมด เพราะไม่น่าจะเชื่อว่านี่จะเป็นคอนเทนท์ที่มาร์เวลให้ผ่านออกมาได้ ทั้งสตอรี่ ทั้งท่วงท่าลีลาบู๊ ช่างให้ฟีลแบบเดียวกับจำพวกหนังแอคชันเกรดบีได้อยู่ เป็นเต็มไปด้วยงานออกแบบฉากบู๊และมุมกล้องที่ค่อนข้างเชยไปหน่อย เห็นได้ชัดว่าต่ำกว่ามาตรฐานการเป็นหนังมาร์เวลไปพอสมควรทีเดียว